อาชญากรรม
‘บอสพอล’ แฉ ดิไอคอนพัง เพราะถูก ‘นักร้อง ก.’ ตบทรัพย์ พร้อมขอโอกาสชี้แจง
โดย olan_l
13 พ.ย. 2567
165 views
ทนายบอสพอล บอกจุดเริ่มคดีของ ดิไอคอน เพราะบริษัทโดน ‘กฤษอนงค์’ ตบทรัพย์ เชิญชวนบริษัทไหนโดนนักร้องเรียนเรียกเงินแบบนี้มาก่อน แนะนำไปแจ้งความ
นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนาย วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เข้าเยี่ยมบอสพอลที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 10.00 น. และเพิ่งจะออกมาตอนบ่าย 15.30 น. ก่อนจะออกมาเปิดเผยว่า บอสพอล ฝากมาบอกว่า คดีของ ดิ ไอคอน ที่ปรากฎอยู่ตอนนี้ เพราะบริษัทโดนคุณกฤษอนงค์ตบทรัพย์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยอ้างว่ามีผู้เสียหาย 83 คน จะให้เขารับเรื่องไหม ถ้าไม่เคลียร์ ไม่เจรจาจะพาออกสื่อ - ร้อง สคบ. บอสพอลจึงยอมเจรจาเพราะกลัวบริษัทจะเสื่อมเสียชื่อเสียง และยอมจ่ายเงินไป 8 ล้าน 3 แสนบาท
โดยตกลงกันว่าจ่ายแล้วต้องปิดเป็นความลับ เพราะทางบริษัทกลัวว่าจะไปบอกผู้เสียหายรายอื่นอีก แต่กลับนำข้อมูลไปปล่อยในเพจผี ทำให้คนที่เคยนำสินค้าของบริษัทไปขาย และขายไม่ได้ หรือขายหมดแล้ว มาเรียกร้องบ้าง โดยการติดต่อไปยังคุณกฤษอนงค์ และบรรดากลุ่มทนายอะเวนเจอร์ จนบานปลาย ซึ่งทางบริษัทยืนยันว่า เคยจ่ายไปแล้ว และจะไม่จ่ายอีก กระทั่งเรื่องถึงรายการโหนกระแส ในเดือนตุลาคม จนเป็นที่มาของคลิปเสียง 2 คลิป เรื่องจ่าย 20 ล้านไปออกโหนกระแส
ในเรื่องคลิปเสียง บอสพอล บอกว่า วันที่ 9 ตุลาคม ช่วง 5 ทุ่มและโทรหาคุณฟิล์มตอนเที่ยงคืน มีอีก 2 คนที่ไปด้วย คือ คุณใหญ่ และคุณเนม เป็นเลขาฯ ของคุณบอสปัน คุยเรื่องการออกรายการโหนกระแส จะเขียนสคริปต์ยังไง และคุณกฤษอนงค์ บอกว่า วันที่ 10 จะพาผู้เสียหายไปร้องที่ สคบ. จึงเป็นที่มาเรื่องการเรียกเงินในการดำเนินการ คุณกฤษอนงค์ จึงโทรหาคุณฟิล์ม แล้วคุณฟิล์ม ก็คุยเรื่องค่าใช้จ่าย 20 ล้าน
ส่วนคลิปที่ 2 จะมี 3 คน คือ บอสปัน คุณกฤษอนงค์ และคุณฟิล์ม ซึ่งเรื่องนี้บอสทุกคนรู้เรื่อง แถมรู้ด้วยว่าโหนกระแสจะออกอากาศวันแรกวันไหน ทำให้บอสพอลตัดสินใจไปออก เดอะ สแตนดาร์ด แต่ฟิล์มโทรมาอ้างว่า ให้มาออกโหนกระแสที่เดียวจะได้จบ
และในเสียงการสนทนาจะพูดว่า ถ้าให้กันต์ไปออกอาจจะบานปลาย ทนายวิฑูรย์เลยสอบถามไปที่บอสกันต์ว่า ฟิล์ม เคยมาคุยไหม บอสกันพูดผ่านทนาย ยืนยันว่า ไม่จริง คุณฟิล์มไม่เคยติดต่อมา แต่คุณฟิล์มเคยติดต่อมาให้กำลังใจคุณพลอยเท่านั้น และบอสกันต์ ยืนยัน ไม่เคยคิดจะออกโหนกระแสด้วย
บอสพอล บอกด้วยว่า บริษัทดิ ไอคอน ไม่ได้โดนที่แรก ถ้าบริษัทไหนโดนนักร้องเรียนเรียกเงินแบบนี้มาก่อน แนะนำให้ไปแจ้งความที่กองปราบเลย อย่าเหมือนดิ ไอคอน ที่ไม่สู้ตั้งแต่แรก ทำให้เป็นแบบวันนี้
ทนายวิฑูรย์ บอกด้วยว่า บรรดาบอสทุกคนอยากจะชี้แจงตั้งแต่วันโดนจับ แต่ไม่มีโอกาส เพราะกระแสสังคมกดดัน ชี้นำกระบวนการยุติธรรม จนทำให้ทุกวันนี้ไม่สามารถประกันตัวเพื่อออกมาสู้คดี และชี้แจงความจริงได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้พยายามมาแสดงตัวกับตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์แล้ว
ทางบอสทุกคนได้คุยกันในห้องเยี่ยมทนายว่า พบว่า กรณีสินค้าไม่มีในโกดัง ยืนยันว่า มี แต่วันที่ไปตรวจค้นเพิ่งจะมีสมาชิกเบิกไป
ทนายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า กรณีคลิปเสียงที่ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ บอสปัน คุยเรื่องเงิน 20 ล้านกับบุคคล 2 คน เพื่อแลกกับการไปออกรายการโหนกระแส แต่ปรากฎว่าไม่ได้เปิดคลิปเสียงตามที่บอก กลับให้รายละเอียดเรื่องคลิปแทน โดยเล่าว่า เมื่อวานนี้ (12 พ.ย.67) เขาได้คุยกับบอสปัน ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ก่อนที่ คุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย จะเปิดคลิปเสียง บอกกับบอสปันว่า คลิปเสียงถึงมือคุณหนุ่มแล้วนะ บอสปันก็ตกใจว่าคลิปเสียงไปถึงมือคุณหนุ่มได้อย่างไร เพราะทีมทนายยังกู้ไฟล์เสียงที่อยู่ในไอคลาวน์อยู่เลยพร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นน้องพนักงานในบริษัทที่กู้คลิปเสียงได้แล้วส่งให้ไปก่อน
ทนายวิฑูรย์ ยืนยันว่า คลิปเสียงนี้เกิดขึ้นวันที่ 9 และ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา และคลิปเสียงที่เปิดในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เมื่อวานนี้ (12พ.ย.67) ไม่ได้ตัดต่อจนเนื้อหาผิดเพี้ยน แค่ตัดเอาท่อนใจความสำคัยมา ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดเหมือนกับคลิปตัวเต็ม 29 นาที เนื้อหาการคุยเป็นการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อจะพาไปออกรายการโหนกระแส กล่าวอ้างว่าคุยกับคุณหนุ่มได้ หรือการที่นักร้องเรียนหญิงกล่าวว่ามี 100 ล้านบาท จ่าย 20 ล้านบาท เป็นต้น
นอกจากนี้เขายังมีอีกคลิป ที่มีความยาว 1 นาที 35 วินาทีด้วย เนื้อหา คือ คุณฟิล์ม บอกว่า ไม่ให้ไปออกรายการTHE STANDARD แต่ให้มาออกโหนกระแสที่เดียวเลยจบ
แต่สุดท้ายทางบริษัทเลือกที่จะไม่จ่าย 20 ล้าน ซึ่งสถานการณ์ตอนนั้นจะจ้างพีอาร์ทำไมในเมื่อกำลังเป็นคดีความ คนที่ควรจ้างคือทนายความดีกว่า และตอนนั้นทีมทนายเข้ามารับงานกันแล้ว เมื่อวานนี้ได้ส่งคลิปเสียงทั้งหมดให้กับ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแล้ว
เมื่อนักข่าวถามว่า การที่จะไปออกรายการโหนกระแส และอ้างว่าจะทำสคริปต์รายการ แบบนี้ถือเป็นการฟอกขาวให้ตัวเองหรือไม่ ทนายวิฑูรย์ แจงว่า ทางบอสปันคงจะเครียด เพราะตอนนั้นมีคดี แต่คงไม่ได้จะฟอกขาวให้บริษัท เพราะบอสทุกคนพร้อมสู้คดีตามกระบวนการ แต่สิ่งที่ทุกคนกลัวกันคือกลัวการตัดสินของสังคม เพราะทำให้กระบวนการยุติธรรมมันล้อไปตามกระแสสังคม
ทนายยืนยันด้วยกว่า นี่ไม่ใช่การดิสเครดิตใคร เพราะคลิปเสียงทางฝั่งบริษัทไม่ได้เป็นคนปล่อย และไม่อยากปล่อยให้ใคร อยากเก็บไว้ใช้ในกระบวนการยุติธรรมดีกว่า เพราะไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้
หลังจากนี้จะหารือกับบอสปันเรื่องการดำเนินคดี ส่วนตัวมองว่า แม้ความผิดไม่สำเร็จแต่ก็ความผิดปรากฏขึ้นแล้ว และยังไม่ขอเปิดเผยว่าจะดำเนินคดีใครอีก พร้อมยอมรับว่า ตอนนี้มีคนที่จ่อจะดำเนินคดี ซึ่งเป็นคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นตัวแทนของบริษัท