อาชญากรรม

ครอบครัวรับร่าง 'ลุงแอ๊ด' เหยื่อรถบรรทุกคลั่ง เผยอโหสิกรรม แต่วอนมารับผิดชอบ

โดย panwilai_c

6 ก.ย. 2567

60 views

ครอบครัวลุงแอ๊ด เดินทางไปรับร่างลุงแอ๊ด ซึ่งเป็นเหยื่อรถ 10 ล้อคลั่ง ไปทำพิธีทางศานา ซึ่งลุงแอ๊ด นับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 2 จากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยครอบครัวลุงแอ๊ดยันอยากให้คู่กรณีมารับผิดชอบ และขออโหสิกรรมให้เพื่อจะได้ไม่ต้องจองเวรต่อกัน



กรณีของนายสมนึก สว่างแสงเงิน หรือ ลุงแอ๊ด ชายวัย 68 ปี ซึ่งถูกสิบล้อคันนี้ชน เมื่อช่วงบ่ายโมง 20 นาที ของวันที่ กันยายนที่ผ่านมา ขณะกำลังเดินข้ามถนนที่หน้าแฟลตการท่าเรือ แยกกรมศุลกากร ทำให้ร่างของลุงแอ๊ดกระเด็นไปไกลกว่า 4 เมตร นอนกระอักเลือดอยู่ที่พื้นถนน กะโหลกศรีษะด้านซ้ายเปิดบาดเจ็บสาหัส นอนรักษาตัวในห้อง ICU อยู่เพียง 2 วัน ก็จากไปอย่างสงบเมื่อช่วงประมาณ 7 โมงเช้าที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์



นางสมบัติ สว่างแสงเงิน น้องสาวของลุงแอ๊ด และครอบครัว เข้ารับร่างของลุงแอ๊ดที่นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยทางครอบครัวจะนำร่างลุงแอ๊ดไปตั้งสวดอภิธรรมที่วัดเตยนอก และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 9 กันยายนนี้



ขณะที่นางสาววาสนา สว่างแสงเงิน หลานสาวของลุงแอ๊ด เปิดเผยว่าวันเกิดเหตุได้นั่งไปบนรถกู้ภัยกับลุงแอ๊ด และ พยายามเรียกสติลุงแอ๊ด แต่ไม่สามารถสื่อสารได้ เนื่องจากทางกู้ภัยเร่งช่วยชีวิตด้วยการสอดท่อดูดเลือดและเสมหะออกจากลำคอ ทำให้ลุงแอ๊ดได้เพียงร้องครวญคราง ซึ่งภาพนี้ เป็นภาพที่ติดตาตัวเอง ทำให้คิดในใจมาตลอดว่าปาฏิหาริย์อาจจะไม่เกิดขึ้นกับครอบครัว



หลังเกิดเหตุทางคู่กรณีและครอบครัว ยังไม่ได้มีการติดต่อเข้ามาพูดคุยช่วยเหลือในเรื่องของการเยียวยาเลย ส่วนการรักษาตอนนี้ทราบว่ามีค่าใช้จ่ายคงค้างราว 1 แสน 8 หมื่นบาท ทำให้ตัวเองและครอบครัวมีความกังวล ถึงแม้เบื้องต้นจะทราบว่าทางรถ 10 ล้อมี ประกันภัยคุ้มครอง แต่หากไม่ได้จริงๆ อยากเรียกร้อง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาช่วยเหลือ



ขณะที่น้องสาวของลุงแอ๊ด เปิดเผยว่าที่ผ่านมาพี่ชายมีชีวิตที่ยากลำบาก เพราะก่อนหน้านี้บ้านถูกไฟไหม้ ทำให้กลายเป็นคนไร้บ้าน ต้องเก็บของเก่าขายเพื่อหาเงินประทังชีวิต บางครั้งต้องมาขอเงินหลานสาว แต่พี่ชาย ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ไม่ควรต้องมาเสียชีวิตจากคนที่ขับรถและเสพยาเสพติดแบบนี้ และหากพี่ชายรับรู้ได้ อยากบอกว่า "รัก และห่วงใย หากชาติหน้ามีจริง ขอให้กลับมาเกิดเป็นพี่น้องกัน" ส่วนครอบครัวขออโหสิกรรมไม่ติดใจ และไม่อยากให้พี่ชายจองเวรจองกรรมอยากให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี



พลตำรวจโทนิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าส่วนอำนวยการและสนับสนุน ศปก.ตร. พร้อมด้วย พลตำรวจตรีวิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เดินทางมาที่ สน.ท่าเรือ เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าคดี



พลตำรวจโทนิธิธร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใย จึงอนุมัติให้มอบเงินกองทุนสวัสดิการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ โดยมอบให้กับตำรวจ สน.ท่าเรือ ทั้ง 3 นายที่ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าระงับเหตุดังกล่าว คนละ 7,500 บาททันทีเป็นกรณีเร่งด่วน ซึ่งมี 1 นายที่พยายามปีนขึ้นไปบนรถเพื่อจะดึงกุญแจรถออก แต่ผู้ต้องหามีมีดและจ้วงฟันเข้าบริเวณใต้รักแร้ ส่วนอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะไล่ล่าผู้ต้องหา



เบื้องต้นทั้ง 3 นาย ยังมีขวัญกำลังใจที่ดี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรักในการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการถอดบทเรียน ฝึกเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเกี่ยวกับยุทธวิธีในการยับยั้งรถขนาดใหญ่ ต้องรู้ว่านอกจากยิงยาง จะมีจุดไหนอีกบ้างที่ทำให้รถไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้



ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าภัยถึงตัวตำรวจแล้วที่โดนฟัน ตำรวจจะใช้อาวุธปืนมายิงยับยั้งก็ได้ แต่เลือกจะไม่ทำ ใช้วิธีอื่นก่อน



ในส่วนของคดี ล่าสุดได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม รวมแจ้งทั้งหมด 6 ข้อหา ได้แก่ ประมาทขับรถเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต / ประมาทขับรถเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย / หลบหนีการจับกุม / ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน / เสพสารเสพติด และขับรถขณะเสพยาเสพติด



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/CVFUPGpJ2LA

คุณอาจสนใจ