อาชญากรรม

เปิดชนวนชายคลั่งขับรถชนดะ ดับ 1 สาหัส 2 ตร.คาดต้นเหตุจากชน 'ลุงแอ๊ด' แล้วหนี

โดย panwilai_c

5 ก.ย. 2567

109 views

ความคืบหน้ากรณีคนขับรถบรรทุกสิบล้อคลั่งไล่ชนรถบนถนน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัส 2 คน ก่อนจะหนีไปจนมุมในท่อระบายน้ำ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ล่าสุดตำรวจสรุปไทม์ไลน์เหตุการณ์แล้วพบว่า ชนวนเรื่องเกิดจากขับชนคนข้ามถนนแล้วหนี



ย้อนกลับไปช่วงบ่ายโมง 20 วานนี้ (4ก.ย.67) จุดเริ่มต้นของอุบัติเหตุนี้เกิดจาก รถสิบล้อคันนี้ขับมาบนถนนอาจณรงค์ พื้นที่ สน.ท่าเรือ แล้วไปชนกับ "ลุงแอ๊ด" ชายวัย 68 ปี ที่กำลังข้ามถนนตรงทางม้าลายหน้าแฟลตการท่าเรือ แยกกรมศุลกากร ทำให้ร่างของลุงแอ๊ดกระเด็นไปไกลกว่า 4 เมตร นอนกระอักเลือดอยู่ที่พื้นถนน กะโหลกศรีษะด้านซ้ายเปิดบาดเจ็บสาหัส แต่แทนที่คนขับรถสิบล้อจะจอดช่วย กลับขับหลบหนี ทำให้ตำรวจ สน.ท่าเรือต้องไล่ติดตาม



โดยรถสิบล้อใช้เส้นทางเลี้ยวขวา วิ่งผ่านโลตัส เลี้ยวขวาแยกเกษมราษฎร์ มุ่งหน้า ถ.พระราม 4 ขาออก ผ่านหน้าอาคารมาลีนนท์ จนมาถึงหน้าตลาดอาจณรงค์ มาร์เก็ต ราวบ่ายโมงครึ่ง จุดนี้รถสิบล้อเฉี่ยวชนรถยนต์ เบนซ์ สีดำ ซึ่งในคลิปจะเห็นว่ามีรถมอเตอร์ไซต์ตำรวจตามมาติด ๆ และพยายามหยุดรถสิบล้อ แต่คนขับกลับหักพวงมาลัยปีนเกาะกลางเพื่อกลับรถหนี ซึ่งจุดนี้ตำรวจเริ่มยิงไปที่ยางล้อรถสิบล้อแล้ว พอกลับรถก็ขับมุ่งหน้าแยกกล้วยน้ำไทเลี้ยวขวา เข้าถนนพระราม 4 ขาออกมุ่งหน้าแยกพระโขนง



แต่ตัดสินใจกลับรถอีกครั้งและจังหวะนี้เองที่ชนวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ที่พาผู้โดยสารซ้อนมาอย่างจัง จนรถมอเตอร์ไซต์เข้าไปติดที่ใต้รถสิบล้อ คนขับรถสิบล้อต้องถอยรถเพื่อให้มอเตอร์ไซต์หลุด ก่อนจะขับหลบหนีต่อ แต่ที่พื้นถนนมีร่างของนาย ประวิทย์ มากพิชัย อายุ 39 ปี วินมอเตอร์ไซต์รับจ้างนอนหมดสติอยู่ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กันเป็นร่างของนางสาว พรพรรณ อายุ 23 ปี ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน พลเมืองดีแถวนั้นต้องวิ่งเข้ามาช่วย



ส่วนรถสิบล้อวิ่งมาตามถนนพระราม 4 ขาเข้า ผ่านแยกกล้วยน้ำไท มุ่งหน้าไปคลองเตย แล้วกลับรถก่อนถึงอาคารมาลีนนท์ มุ่งหน้าแยกพระโขนงอีกครั้ง จนขับผ่านหน้าปั้ม ปตท. กล้วยน้ำไท ตำรวจเปิดสัญญาณไฟแดงเพื่อให้รถติด แล้วตำรวจ สน.ท่าเรือ ขี่มอเตอร์ไต์มาประกบ มีตำรวจพยายามใช้ไม้ตี และมีตำรวจนายหนึ่งปีนขึ้นไปข้างประตูคนขับ แล้วพยายามเอื้อมมือไปดึงกุญแจรถ แต่คนขับสิบล้อกลับคว้ามีดออกมาฟัน ทำให้ตำรวจต้องล่าถอยลงมาจากรถ แล้วคนขับสิบล้อก็ขับต่อไป จากนั้นตำรวจระดมยิงที่ล้อรถเป็นสิบนัด แต่คนขับรถสิบล้อยังพยายามขับรถหนีทำให้ไปชนรถยนต์ MG สีขาว และรถเบนซ์อีก 1 คันที่อยู่ช่องขวาสุด สุดท้ายคนขับรถสิบล้อหนีไปได้ถึงอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ



กระทั่ง 4 โมงเย็น ตำรวจไปไล่รถสิบล้อคันก่อเหตุทันที่สะพานข้ามคลองบางน้ำจืด ขามุ่งหน้าเข้าเอื้ออาทร เอเอพี ตำบลบางโฉลง อำเภบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ สภาพรถบริเวณล้อหน้ายางแตกเหลือแต่กะทะล้อ กระจกด้านคนขับแตกละเอียด ภายในห้องโดยสารมีคราบเลือด ส่วนผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว เป็นชาย 1 ราย กระโดดลงไปภายในคลองบางน้ำจืด แล้วว่ายข้ามไปอีกฝั่ง แต่พอขึ้นฝั่งไปได้ก็กระโดดลงน้ำอีกครั้ง คาดว่าน่าจะเจอตำรวจ



ตำรวจใช้เวลาตามหาตัวอยู่ราว 1 ชั่วโมง ก่อนจะไปเจอว่าหนีไปซ่อนในท่อระบายน้ำของโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งห่างจากจุดที่จอดรถหนีมาราว 2 กิโลเมตร แต่เขาก็ไม่ยอมให้ตำรวจจับง่ายๆ ไปดูวินาทีตำรวจเจรจาให้เขาออกมามอบตัว



สุดท้ายตำรวจลากตัวผู้ก่อเหตุขึ้นมาได้ในสภาพที่หมดเรี่ยวแรง พันตำรวจเอก ปณิธิ ชาอุ่น ผู้กำกับการ สน.ท่าเรือ บอกว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นาย วัลลภ ศรีสูงเนิน อายุ 43 ปี เป็นชาวจังหวัดกำแพงเพชร ตอนนี้ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ของโรงพยาบาลในพื้นที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งแพทย์ให้ความเห็นว่ายังคงต้องนอนรักษาตัวอยู่ต่ออย่างน้อย 1 คืน จากนั้น สน.ท่าเรือจะไปรับตัวมาสอบปากคำ



ส่วนข้อหาจะแตกต่างกันไปใน 3 พื้นที่ ได้แก่ สน.คลองตันจะแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและหลบหนี และ ข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายสาหัส สน.ท่าเรือ แจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายสาหัส ส่วนสน.ทองหล่อ แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน



ส่วนมูลเหตุจูงใจต้องรอให้ผู้ก่อเหตุอาการดีขึ้นก่อน เพราะตัวลูกสาวผู้ก่อเหตุก็ไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากไม่ได้อยู่กับพ่อ แต่จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกจับกุมเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2560 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ข้อหาครอบครองยาเสพติด



วงจรปิดจับภาพนาทีรถยนต์กระบะแคปตัดหน้ารถยนต์กระบะสี่ประตูวิ่งมาทางตรงชนสนั่นพลิกคว่ำหลายตลบก่อนพุ่งเข้าหน้าบ้าน ยายวัย 70 ปี กระโดดหนีตายทันขณะนั่งถอนหญ้าหน้าบ้าน ส่วนคนขับสี่ประตูเชื่อ ปาฏิหาริย์ พระพารอด



ภาพวงจรปิดหน้าบ้าน ที่เกิดเหตุ พบภาพนาทีอุบัติเหตุ ว่า รถยนต์กระบะแคป ออกมาจากทางสี่แยกบ้านห้วยโสม ที่ถึงแม้จะหยุดรถแล้วแต่ออกมาตัดหน้ารถยนต์กระบะสี่ประตูที่พยายามบีบแตร จนเกิดการเฉี่ยวชนกระบะสี่ประตูหมุนหลายตลบพุ่งเข้าบ้านซึ่งเป็นอีก 1 นาทีความเป็นความตายเมื่อคุณยายวัย 70 ปี ที่กำลังนั่งถอดหญ้าหน้าบ้านกระโดดหนีตาย เข้าบ้านได้ทันพร้อม เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนเองเพิ่งจะผ่าตัดเมื่อ ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจากอุบัติเหตุตรงจุดนี้ พอมาในวันนี้จึงรู้สึกตกใจกลัวอย่างมากโชคดีนักที่เป็นนาทีตายได้ยินเสียงชนสนั่นกระโดดหนีทัน



เมื่อเวลา 08.30 น วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2567 พ.ต.ท.เปรม สุทธิอุดม สารวัตรสอบสวน ร้อยเวร สภ.ท่าตะเกียบ พร้อมตำรวจสายตรวจรถยนต์20 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุจากการรับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน ในที่เกิดเหตุ บริเวณสี่แยกบ้านห้วยโสม หมู่ที่ 4 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา พบ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยพนมกำลังให้การช่วยเหลือทำแผลผู้ได้รับบาดเจ็บชายหนึ่งราย ทราบชื่อคือนายคมสันต์ สิงห์รัตนะสกุลวงค์ อายุ 56 ปี คนขับรถยนต์กระบะสี่ประตูสีขาวพลิกคว่ำด้านหน้าบ้าน สภาพรถพังยับอัดติดเสาไฟฟ้า มีแผลแตกที่ศรีษะ และยังพบรถยนต์กระบะเคปสีบอน จอดบนถนนสภาพด้านหน้าซ้ายพังย่น ส่วนคนขับคือคุณลุงปราณีต วาจาสัตย์ อายุ 63 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ



ผู้สื่อข่าวสอบถามคุณลุงปราณีต เล่าในอาการตกใจ พร้อมยอมรับว่าตนเองขับรถมาจากบ้านในอำเภอแปลงยาว กำลังจะไปหน้าอำเภอท่าตะเกียบ พอถึงสี่แยกก็หยุดรถมองแล้วเห็นรถว่ามีรถยนต์กำลังแล่นมาแต่ไม่คิดว่าจะมาเร็วจึงพุ่งออกไปจนเกิดเฉี่ยวชนกันเต็มแรง ส่วนนายคมสันต์ เล่าว่า ตนขับรถมาจากกรุงเทพกำลังจะไปหน้าอำเภอท่าตะเกียบเพื่อทำธุระ พอถึงจุดเกิดเหตุต้นพยายามบีบแตรแต่ไม่ทันจึงเกิดการเฉี่ยวชนเต็มแรงตนรู้สึกตกใจพร้อมโชว์พระให้ผู้สื่อข่าวดูบอกว่าปาฏิหาริย์รอดตายครั้งนี้เชื่อว่าเพราะคิดดีทำดีพระที่พกติดรถ จึงคุ้มครองทั้งทั้งที่รถพุ่งหมุนหลายตลบ



ด้านตำรวจ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ จึงประสานกู้ภัยพนมนำรถทั้งสองคันออกจากที่เกิดเหตุยกไปไว้ที่โรงพัก สภ.ท่าตะเกียบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อ


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/gETSvv7TNTI

คุณอาจสนใจ

Related News