อาชญากรรม

แจ้ง 3 ข้อหาหนัก หนุ่มฆ่าหมกคอนโด อ้างปมขัดแย้งธุรกิจ แม่ลั่นไม่อโหสิกรรม

โดย panwilai_c

31 พ.ค. 2567

352 views

ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 จับฆาตกรฆ่าชายวัย 54 ปี หมกคอนโดย่านงามวงศ์วานได้แล้ว พบเป็นอดีตนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ วัย 27 ปี อ้างมีปัญหาเรื่องเงินกับคนตาย



ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 ใช้เวลา 5 วัน ติดตามล่าตัวชายต้องสงสัยที่อยู่กับนาย ไพศาล อายุ 54 ปี นักธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีน เป็นคนสุดท้ายได้แล้ว ก่อนจะพบนาย ไพศาล กลายเป็นศพถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมแล้วซ่อนศพไว้ในห้องพักของเขาเองที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านงามวงศ์วาน ช่วงค่ำของวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา



สำหรับฆาตกร คนนี้ คือ คือ นายภูริณัฐ อายุ 27 ปี อดีตนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า หลังจากตำรวจไล่กล้องวงจรปิดไปพบว่า ผู้ต้องสงสัยหลบหนีไปที่พัทยา และเรียกรถแท็กซี่ไปต่อที่หัวหิน ชุดสืบสวนจึงไล่กล้องต่อเนื่อง พบว่า ผู้ต้องสงสัยได้นั่งรถจากหัวหินไปลงที่ตัวเมืองชุมพร โดยมีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาวไปรับ



ตำรวจตรวจสอบชื่อเจ้าของรถคันดังกล่าวพบว่า รับนาย ภูริณัฐ มาที่บ้านของญาติซึ่งเป็นอดีตผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งที่หมู่ 4 ตำบลวังใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกอยู่ในสวนทุเรียนกว่า 10 ไร่ ชุดสืบสวนจึงตรวจสอบผู้อาศัยภายในบ้านหลังนี้ ก็พบกับนาย ภูริณัฐ ซึ่งมีรูปพรรณสันฐานเหมือนกับผู้ต้องสงสัยที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด จึงไปขออนุมัติออกหมายค้น และเข้าควบคุมตัวนาย ภูริณัฐ ได้พร้อมกับเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุและหลบหนี รวมถึงทองที่ใช้เงินผู้ตายไปซื้อมาด้วย



จากการสอบสวนเบื้องต้น นาย ภูริณัฐ อ้างว่ารู้จักกับผู้ตายมาประมาณ 1 ปี แต่มีปัญหาเรื่องเงิน 5 ล้านบาท เกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าจากจีน จึงตัดสินใจก่อเหตุ ส่วนบัตรประชาชนปลอมที่นำไปใช้ขายโทรศัพท์มือถือและซื้อทองนั้น นายภูริณัฐ อ้างว่า ปกติจะใช้บัตรประชาชนปลอมอยู่แล้ว เพราะทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย



ทีมข่าวแกะรอยเส้นทางหนีของนาย ภูริณัฐ พบว่า วันที่ 20 พฤษภาคม อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย ที่คอนโดมิเนียมของผู้ตายย่านงามวงศ์วาน



21 พฤษภาคม ราวตี 4 ครึ่ง ได้เรียกแท็กซี่ไปที่คอนโดมิเนียมย่านรัชโยธิน พร้อมทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ตาย



26 พฤษภาคม พบศพนาย ไพศาล ถูกฆ่าตายในห้องพัก ขณะที่ผู้ต้องสงสัยนำโทรศัพท์มือถือผู้ตายไปแสกนซื้อทอง 8 แสนบาท ที่ห้างย่านลาดพร้าว



27 พฤษภาคม ผู้ต้องสงสัยนำโทรศัพท์มือถือผู้ตายไปขายที่ห้างมาบุญครอง และไปพัทยา จังหวัดชลบุรี



28 พฤษภาคม ปรากฏภาพหนีไปที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์



31 พฤษภาคม ถูกจับกุมได้ที่บ้านญาติในอำเภอเมือง จังหวัดชุมพร



ล่าสุดมีรายงานว่าตัวของนาย ภูรินัท น่าจะมาถึง สภ.เมืองนนทบุรี ในเวลาเที่ยงคืนวันนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินทางกลับมาจากจังหวัดชุมพร



พี่ชายของผู้เสียชีวิต เชื่อ คนร้ายอาจเป็นคนที่ทำธุรกิจร่วมกัน ส่วนที่บาดแผลโดนแทงหลายแผลคาดว่า ต้องการบีบเพื่อเอาข้อมูลส่วนตัว



ล่าสุดพี่ชายผู้เสียชีวิต เปิดใจกับทีมข่าวว่า รู้สึกโล่งใจ และขอขอบคุณตำรวจ นักข่าวที่ช่วยกันติดตามคดีนี้จนได้ตัวคนร้ายมา ทันทีที่คนร้ายถึง สภ.เมืองนนทบุรี จะเดินทางไปดูหน้าเพราะ "อยากเห็นหน้ามันมาก" อยากรู้ว่าทำลงไปได้ยังไง ซึ่งถ้าได้เจอหน้า จะไม่ถามอะไร แต่จะให้เขาพูดก่อน ว่ามีอะไรอยากจะพูดกับเขาไหม เชื่อว่า คนคนนี้ต้องกล้าพูด เพราะทำได้ถึงขนาดนี้ ต้องกล้าพูดอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะพูดแบบไหน



ส่วนที่คนร้ายอ้างกับตำรวจว่า ทำธุรกิจแล้วมีปัญหาเรื่องเงินกับน้องชายตน เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะดูลักษณะท่าทางที่พูดคุยกันในลิฟต์แล้ว เขาไม่น่าจะมีเงิน แต่ถ้าจะกล่าวอ้างแบบนี้ ก็ให้เอาหลักฐานมาให้ดู



สำหรับชนวนเหตุ พี่ชายของผู้เสียชีวิต มั่นใจว่าคนที่ก่อเหตุทำร้ายน้องชายจนเสียชีวิต ไม่ใช่คู่ขา แต่น่าจะเป็นคนที่ทำธุรกิจค้าขายร่วมกัน เพราะลักษณะธุรกิจที่น้องชายทำ ซึ่งทำมานานกว่า 20 ปีแล้ว จะต้องติดต่อกับหลายคน เพื่อให้ช่วยกันหาของหาสินค้า และที่น้องชายมีร่องรอยบาดแผลถูกแทงเยอะมาก เป็นเพราะคนร้ายใช้วิธีข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และแทงซ้ำๆ เพื่อให้บอกข้อมูลว่ามีทรัพย์สินอยู่ตรงไหน อย่างไรบ้าง คนร้ายถึงได้รู้รายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับน้องชาย จนนำไปสู่การสวมรอยไปซื้อทอง 800,000 บาท



พี่ชายผู้เสียชีวิต ยังบอกอีกว่า การเสียชีวิตของน้องชาย เป็นบทเรียนให้กับหลายๆ ส่วนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคลของคอนโด มาตรการป้องกันของธนาคาร ในการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชั่น และความรัดกุมของร้านทอง ที่ยังมีช่องโหว่อยู่ อย่างร้านทองก็น่าจะเอะใจ ทั้งการแต่งตัวของคนร้าย และเหตุผลที่ว่าไปศัลยกรรมหน้ามา ทั้งที่อายุต่างกันมาก มันไม่น่าเป็นไปได้



ขณะที่หลานสาวคนตาย โชว์หลักฐานการแชทกับคนร้ายที่ปลอมเป็นอา วันที่ 23 พฤษภาคมตอนเวลา 4 ทุ่ม 51 นาที ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้ตายเสียชีวิตแล้ว ผู้ต้องสงสัยได้ส่งข้อความมาถามว่า "แม่เป็นอย่างไรบ้างติดต่อไม่ได้" หลานคนตายตอบกลับไปว่า "ย่าสบายดีค่ะ เค้าแค่งงว่าอาไปไหน" ผู้ต้องสงสัยพิมพ์ต่อว่า "มีปัญหาต้องตรวจสอบของนิดหน่อยเดี๋ยวต้องรีบบินไปจีน ว่างละฝากดูห้องอาหน่อย มีกระดาษขาว ๆ จั่วหัวภาษาจีนวางอยู่บนโต๊ะมั๊ย



จากนั้นผ่านไป 10 นาที หลานผู้ตายตอบกลับว่า เดี๋ยวหนูกลับจากงานไปดูให้ค่ะ แล้วเธอก็ถ่ายส่งไป



วันที่ 26 พฤษภาคมตอนเที่ยงคืน ผู้ต้องสงสัยได้พิมพ์ไลน์มาหาหลานผู้ตาย ถามว่า "พรุ่งนี้อยู่บ้านมั้ย" พอหลานตอบว่า "อยู่ค่ะ" คนร้ายได้ส่งสติกเกอร์รูปหมีกลับมา จนกระทั่งตอน 5 โมงเย็น 30 นาที ผู้ต้องสงสัยได้ส่งข้อความมาหาหลานคนตายบอกให้หลานส่งแกรปให้อาหน่อย โดยมีการระบุว่าเป็นกระดาษสีขาว หลานได้ตอบกลับไปว่าจะให้ไปส่งที่ไหน ผู้ต้องสงสัยตอบว่าสนามบินสุวรรณภูมิเลย เดี่ยวอาบินแล้ว เป๋าตังค์ด้วยห่อมาดี ๆ



ราว 6 โมงเย็น 9 นาที ผู้ต้องสงสัยส่งข้อความกลับมาว่า "ขอบคุณครับ" คาดว่าน่าจะได้ของแล้ว และได้ออกจากแชทไปตอน 1 ทุ่ม 22 นาที



ซึ่งหลานสาวของผู้เสียชีวิต เปิดใจกับทีมข่าวอาชญากรรมช่อง 3 ว่า ตอนนั้นเชื่อว่าเป็นอาจริง ๆ เพราะภาษาในการคุยเหมือนกับอาที่คุยกับเธอมาก จึงไม่ได้เอะใจ และที่บ้านยังไม่มีใครรู้เรื่องที่อาเสียชีวิต วอนชาวเน็ตเข้าใจหัวอกถึงคนที่สูญเสียญาติ ว่าเสียใจอยู่แล้ว แต่ยังมาถูกซ้ำเติมอีก



ขณะที่ครอบครัวบอกว่าพรุ่งนี้สะดวกก็จะไปรับร่างผู้ตายมาประกอบพิธีเลย เพราะตำรวจตามจับผู้ก่อเหตุได้แล้ว



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dC0ksH4zS4E

คุณอาจสนใจ

Related News