อาชญากรรม

อดีตรปภ.สวนงู ที่ถูก 3 คนร้าย ทำร้ายจนพิการ เข้าชี้ตัวผู้ต้องหา

โดย attayuth_b

17 เม.ย. 2566

74 views

สืบเนื่องเมื่อกลางดึกวันที่ 23 เม.ย.55 มีกลุ่มคนร้าย 3 คน บุกเข้าไปในสำนักงานของบริษัท ภูเก็ตเฮลตี้ นูทรีเม้น จำกัด (สวนงูภูเก็ต) ซ.ตาเอียด ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต แล้วจับตัวนายอนุชิต ไชยทองงาม อายุ 29 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยมัดมือมัดเท้า และทุบศีรษะจนสลบ ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งจนกลายเป็นคนพิการ

จากนั้นได้ลอบวางเพลิงเผาสวนงูดังกล่าว หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.ฉลอง ได้ขอศาลฯ อนุมัติหมายจับกลุ่มคนร้าย 3 ราย ประกอบด้วย นายสุวรรณ ทองเพิ่มพลอย อายุ 53 ปี นายยุทธนา การมาสม อายุ 48 ปี และนายสุรชัย ทองขลิบ อายุ 42 ปี

ต่อมาตำรวจกองปราบจับกุมนายสุวรรณเอาไว้ได้ และเชิญนายยุทธนา มาสอบปากคำ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า รับการจ้างวานจากนายตู้ห่าว และภรรยา เพื่อให้เข้ามาก่อเหตุ ปมมาจากความขัดแย้งทางธุรกิจ ทำให้เหลือนายสุรชัยที่ยังหลบหนีอยู่ ก่อนส่งตัวทั้ง 2 คนให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ดำเนินคดี แต่ต่อมาอัยการสรุปไม่สั่งฟ้อง ทำให้เหลือนายสุรชัยที่ยังหลบหนีอยู่อีก 1 ราย

กระทั่งมาเมื่อวันที่ 25 ม.ค.66 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สามเสนเข้าจับกุมนายสุรชัย ทองขลิบ อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.546/2555 ลงวันที่ 17 ต.ค.55 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ ได้ภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ โดยนายสุรชัยได้หลบหนีมานานถึง 11 ปี โดยหนีมาอยู่ภายในชุมชนบางกระบือ 14 แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ เบื้องต้นนายสุรชัยให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่ง สภ.ฉลอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ล่าสุดเมื่อเวลา 10 เม.ย.66 ที่ สภ.เมืองภูเก็ต นายอนุชิต ไชยทองงาม อายุ 29 ปี อดีตพนักงานรักษาความปลอดภัยสำนักงานบริษัท ภูเก็ตเฮลตี้ นูทรีเม้น จำกัด (สวนงูภูเก็ต) ซ.ตาเอียด ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ตที่ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายจนพิการพร้อมครอบครัวและทนายความได้เข้าชี้ตัวผู้ต้องหาและรูปผู้ต้องหาบางส่วนที่ร่วมกันทำร้ายในวันเกิดเหตุ เพื่อยืนยันรูปพรรณของคนร้าย โดยนายอนุชิตสามารถชี้ผู้ต้องหาและรูปผู้ต้องหาได้อย่างแม่นยำ ทั้งๆที่เวลาล่วงเลยมากว่า 10 ปี โดยนายอนุชิตอยู่ในสภาพร่างกายที่เดินเหินลำบาก เนื่องจากขาขวาพิการจากการถูกทำร้ายในวันเกิดเหตุ ต้องมีพ่อและแม่คอยพยุงเดินขึ้น สภ.เมืองภูเก็ต เวลาจะลุกขึ้นก็ต้องพยุง การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปด้วยความยากลำบากและไม่สามารถประกอบอาชีพใดๆได้

ด้านแม่นายอนุชิตกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอว่า ความยากลำบากที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อ 10 ปีก่อน ทำให้ครอบครัวเรายากลำบากจนแทบไม่สามารถบรรยายใดๆได้ ที่ผ่านมาได้ไปร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ แต่ก็ไร้ประโยชน์และไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ซึ่งเมื่อลูกชายพิการ ทำให้ไม่สามารถทำงานใดๆได้ ส่งผลให้พวกเราพิการไปด้วย เพราะต้องคอยดูแลเค้า เวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา พ่อแม่ลำบากมาก แต่การเป็นแม่คน รักลูกมากกว่าความลำบาก ซึ่งก็ต้องอดทน และไม่สามารถทอดทิ้งเค้าได้

"น้องต้องฟอกไตวันเว้นวัน ถ้าไม่ฟอก น้องจะตัวบวมและน้ำจะท่วมปอด หายใจไม่ค่อยออกและสามารถช๊อตหมดสติได้ทุกเวลา โดยภาพรวมของร่างกายการเคลื่อนไหวไม่ปกติ ซีกซ้ายอ่อนแรง ซึ่งอาการทั้งหมดเป็นมาตั้งแต่หลังเกิดเหตุ และต้องผ่าสมองอีกด้วย" แม่และพ่อกล่าวด้วยความเสียใจ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/_vx_GdgXIZ0

คุณอาจสนใจ

Related News