อาชญากรรม

บุกรังการเงินสแกมเมอร์จีน หนีมาจากกัมพูชา พบนวัตกรรมล้ำ AI หลอกระบบธนาคาร

9 พ.ย. 2568

322 views

บุกรังการเงินสแกมเมอร์ หนีมาจากกัมพูชา พบนวัตกรรมใหม่สุดล้ำ เอาภาพของเหยื่อทำคลิป AI หลอกระบบ KYC ของธนาคาร-เงินดิจิทัล จับชาวจีน 4 ราย คอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง โทรศัพท์ 60 เครื่อง


เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรังการเงินแก๊งสแกมเมอร์ พบนวัตกรรมใหม่ใช้ AI หลอก AI เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นปัญหาระดับโลกไปแล้ว จนล่าสุดเกิดปรากฏการ “โลกล้อม” แก๊งสแกมเมอร์ โดยมีเหล่าเจ้าหน้าที่จากหลายประเทศเข้าปฏิบัติการในประเทศกัมพูชาจนเกิดความสั่นคลอนเป็นผึ้งแตกรัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการมอบหมายให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ติดตามสถานการณ์ทางการข่าวอย่างใกล้ชิด กระทั่ง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สืบทราบเบาะแส พบว่ามีกลุ่มบอสหนุ่มชาวจีนรายใหญ่หลายราย ได้หลบหนีจากประเทศกัมพูชาเข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย


พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. มอบหมาย พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนจนพบกลุ่มชาวจีนต้องสงสัย 4 ราย แอบขนอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมาก พร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แปลกๆ เข้าไปในคอนโดหรูภายใน ซ.สุขุมวิท 16 ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่แฝงตัวเป็นช่างอาคารจนพบว่ามีการตั้งห้อง “วอร์รูม” เป็นฐานบัญชาการอยู่ภายในคอนโดหรูดังกล่าว และมีการมั่วสุมยาเสพติดด้วย


ต่อมาวันที่ 9 พ.ย. 2568 เวลา 12.30 น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบ ห้องสูทหรูในคอนโดชื่อดัง ซ.สุขุมวิท 16 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย จ.กรุงเทพ โดยใช้ยุทธวิธีเข้าจับอย่างฉับพลัน จนทำให้กลุ่มผู้ต้องหาไม่ทันตั้งตัว และไม่สามารถทำลายพยานหลักฐานในคอมพิวเตอร์ได้ ผลการตรวจค้นพบห้อง “วอร์รูม” มีคอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง ยังคงเปิดค้างไว้ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็น “การเงินของแก๊งสแกมเมอร์” ตรวจสอบพบ “นวัตกรรมใหม่” โดยการใช้ AI หลอก AI โดยการเอาภาพนิ่งของเหยื่อ ผู้เสียหายมาเข้าระบบ AI เพื่อให้หันหน้าซ้าย ขวา กะพริบตา อ้าปาก จากนั้นนำคลิปที่ได้จากการทำ AI ดังกล่าว นำไปหลอกกับระบบ KYC ของธนาคารและเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นกระบวนการที่อันตรายมาก เพราะทำให้ผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหาได้อย่างง่ายดาย และจากการตรวจสอบพบโทรศัพท์ 60 เครื่อง ตรวจพบยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 2 ถุง จับตัวผู้ต้องหาชาวจีน 4 ราย ตรวจสอบพบว่าเพิ่งเดินทางมาจากประเทศกัมพูชา โดยแจ้งข้อหา “ร่วมกันเป็นอั้งยี่, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ” ส่วนข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างการขยายผล


แท็กที่เกี่ยวข้อง  สแกมเมอร์ ,AI ,สแกมเมอร์จีน

คุณอาจสนใจ

Related News