จับนักมวยดังเปิดเว็บพนัน พบเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาทต่อปี

จับนักมวยดังดีกรีแชมป์เวทีใหญ่ เปิดเว็บพนัน พบเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาทต่อปี สารภาพทำมา 3 ปีแล้ว ตอนแรกทำเป็นอาชีพเสริม แต่พองานชกมวยน้อยลง จึงรับรายได้จากเว็บพนันเป็นการถาวร

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือตำรวจไซเบอร์ นำแถลงผลปฏิบัติการน็อกเว็บพนันร้อยล้าน รวบนักมวยดังดีกรีแชมป์เวทีใหญ่พร้อมเครือข่าย โดยมี พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.สอท.5 และ พ.ต.อ.อกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ร่วมแถลงด้วย

สืบเนื่องจาก กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ได้สืบสวนพบการกระทำผิดของเว็บไซต์

พนันออนไลน์ เครือข่าย “G2GGGBET” จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาทต่อปี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อมูลที่น่าสนใจคือ มีข้อมูลเส้นเงินเชื่อมโยงไปยังหนึ่งในผู้บริหารเว็บไซต์ดังกล่าว พบว่าเป็นนักมวยชื่อดัง อดีตแชมป์เวทีใหญ่และอีกหลายเวที ดีกรียอดมวยหลายสถาบัน จึงได้สืบสวนเรื่อยมาจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวมการได้สำเร็จ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นพร้อมกัน 9 จุด ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.ลำพูน ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 8 ราย ตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้องได้หลายรายการ

ในส่วนพื้นที่ จ.ชลบุรี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย ดังนี้

1. นายวีระพงษ์ อายุ 28 ปี (นักมวยชื่อดัง) ผู้บริหารเว็บไซต์และผู้รับผลประโยชน์

2. นายประวิทย์ อายุ 27 ปี แอดมินเว็บไซต์และคนกดเงินสด พร้อมของกลางเป็นบัตรเอทีเอ็ม จำนวน 15 ใบ, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 10 เล่ม, หมายเลขบัตรกดเงิน จำนวน 2 ชุด และคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ชุด

3. นายธวัชชัย อายุ 37 ปี บัญชีม้าจ่ายเงิน

4. น.ส.มุทิตา อายุ 22 ปี บัญชีม้ารับเงิน

5. นายภานุมาศ อายุ 31 ปี บัญชีม้าจ่ายเงินและคนกดเงินสด

6. นายเกรียงไกร อายุ 36 ปี บัญชีม้าสำหรับบริหารเงินเว็บและบัญชีม้าสำหรับใช้ถอนเงิน

ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนั้นในการเล่นทางสื่ออิเล็กหรอนิกสโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน

เบื้องต้น นายวีระพงษ์ให้การรับสารภาพว่าเปิดเว็บพนันมากว่า 3 ปีแล้ว โดยรู้จักกับกลุ่มผู้ต้องหารายอื่นซึ่งเป็นพรรคพวกเพื่อนกันและเป็นเครือข่ายที่ทำเว็บพนันจากภาคเหนือ แต่เดิมทำเป็นเพียงอาชีพเสริม แต่ช่วงหลังพองานชกมวยน้อยลง จึงรับรายได้จากเว็บพนันเป็นการถาวร

ในส่วนพื้นที่ จ.ลำพูน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย คือ น.ส.นารีรักษ์ อายุ 30 ปี และนายเนรมิต อายุ 23 ปี ผู้ทำหน้าที่แอดมินเว็บไซต์ดังกล่าว รวมทั้งแอดมินของเว็บพนันอื่น ๆ อีกหลายเว็บไซต์ พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 6 เล่ม และคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์สื่อสาร จำนวน 2 ชุด โดยดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรง หรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน

เบื้องต้น ทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าเป็นแอดมินเว็บพนันของนายวีระพงษ์ โดยรู้จักกับกลุ่มเครือข่ายผู้ต้องหาด้วยกันอีกที ทำหน้าที่เป็นทั้งแอดมินเว็บและคอยติดต่อลูกค้าที่มาเล่นกับพนันด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สอท.5 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ รวมถึงเส้นทางการเงินและเว็บไซต์พนันออนไลน์อื่น ๆ ที่พบข้อมูลขณะเข้าตรวจค้น เพื่อนำตัวผู้ต้องหาพร้อมทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ ระบุว่า ต่อให้อ้างว่าเพื่อเป็นการหารายได้เสริมแต่การเปิดเว็บพนันออนไลน์และการทำอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่าง ๆ นั้นถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย อย่าหาทำเด็ดขาด และกำชับเตือนไปยังผู้กระทำความผิดทั้งหลายว่า ตำรวจไซเบอร์จะดำเนินการตามรวบไล่ล่าขบวนการทั้งสายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบัญชีม้า ผู้รับผลประโยชน์ แอดมิน และตัวการใหญ่ เพื่อที่เราจะได้ล้างทั้งต้นตอของแก๊งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทั้งหมด

สำหรับนายวีระพงษ์ ประวัติเคยเป็นนักมวยชื่อดัง ดีกรีถึงเป็นแชมป์รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์ และเป็นนักมวยยอดเยี่ยมแห่งปี 2559 รวมทั้งเคยได้รางวัลมวยไทยอาชีพดีเด่นชาย ในงานเชิดชูเกียรติวันมวยไทยแห่งชาติ เมื่อปี 2559