อาชญากรรม

จ่าทหารบกกลับจากชายแดน ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย หัวโจกอ้างรู้จัก น.1

18 ต.ค. 2568

491 views

จ่าทหารบกร้องสายไหมต้องรอด ถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คน รุมทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส หัวโจกอ้างรู้จัก “น.1” แจ้งความคดีไม่คืบ ซ้ำถูกกลุ่มวัยรุ่นโพสต์ข่มขู่ วอนตำรวจเร่งดำเนินการติดตามจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ

วันนี้ที่ศูนย์ประสานงาน เพจสายไหมต้องรอด จ่าทหารบก อายุ 46 ปี ที่เพิ่งกลับจากชายภาคใต้ เพื่อมาเยี่ยมแม่ที่ถูกรถชน เข้าร้องเรียนนายเอกภพ เรืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจากถูกกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมใช้ยาเสพติด ประมาณ 10 คนเข้ามาหาเรื่องก่อนจะรุมทำร้ายจนจ่าทหารบกจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนหัก เหตุเกิดที่บริเวณชุมชนวิศวะร่วมใจ จากนั้นได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.พญาไท แต่คดีไม่คืบหน้า

ผู้เสียหายเป็นทหารบก ยศ จ.ส.อ. อยู่ค่ายลพบุรี ประจำชายแดนทางภาคใต้ ได้เล่าเหตุการณ์ว่าในวันที่ 30 กันยายน ตนเองกำลังจะออกไปรับแฟนสาวที่ห้างสรรพสินค้า พอออกมาที่ปากซอยหมู่บ้านก็เจอกลุ่มวัยรุ่น อายุประมาณ 20-35 ปี ยืนขวางทางอยู่ประมาณ 10 คน ก่อนจะมีหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นพยายามเข้ามาเหมือนจะทำร้าย ตัวเองจึงลงจากรถเพื่อมาตำหนิ เพราะไม่รู้จักกับกลุ่มวัยรุ่นแต่ทำไมถึงมาทำพฤติกรรมแบบนี้

พอตำหนิไปแบบนั้นทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจ ได้เข้ามารุมทำร้ายทั้งเตะทั้งต่อย รวมถึงใช้อาวุธที่มีลักษณะคล้ายไม้เข้ามาตีทำร้าย ตัวเองพยายามที่จะวิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้านประมาณ 20 เมตร แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่ยอมปล่อยวิ่งไล่ตามทำร้ายจนตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนข้างขวาหัก ขาเป็นแผลต้องล้างหนองทุกวัน ศีรษะได้รับแรงกระทบกระเทือนทำให้ตอนนี้พูดช้า ใบหน้าบวมช้ำ

ด้าน ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่รู้จักกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ เพราะตนเองรับราชการทหารตั้งแต่อายุ 20 ปีไม่ค่อยได้อยู่บ้าน หลังจากตัวเองออกจากโรงพยาบาลได้เข้าแจ้งความที่ สน.พญาไท แต่สิ่งที่ตัวเองติดใจ คือทำไมจะต้องรอผลนิติเวชที่ส่งตัวเองไปตรวจร่างกาย ทั้งที่บาดแผลตามร่างกายของตนเองนั้นก็ชัดเจนอยู่แล้ว และพอไม่มีการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทางกลุ่มวัยรุ่ยก็ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กข่มขู่คนในครอบครัว และอีกหนึ่งอย่างที่ติดใจ คือทำไมหลักฐาน และคำให้การที่ตนเองมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงตกไปอยู่ในมือกลุ่มวัยรุ่น

แม่ของผู้เสียหายเปิดเผยว่า กลุ่มวัยรุ่นเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านได้ประมาณ 2-3 ปี กว้านซื้อที่บริเวณหน้าชุมชนเอาไว้รวมตัวกัน ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ตนเองเคยได้ยินมาว่าถ้าหากกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ไม่พอใจใคร หรือมีเรื่องกับใครก็จะเข้าไปทำร้ายร่างกายถึงในบ้าน แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครเอาเรื่อง เพราะมักจะจ่ายเงินให้กับผู้เสียหายเพื่อไม่ให้เป็นคดีความ ทำให้คนในชุมชนกลัว และไม่กล้ายุ่งกับวัยรุ่นกลุ่มนี้ รวมถึงวัยรุ่นกลุ่มนี้ยังมีพฤติกรรมใช้สารเสพติด ปล่อยเงินกู้ ทำตัวกร่างอยู่ภายในชุมชน

ส่วนหัวโจกของกลุ่มนี้ทางครอบครัวทราบชื่อมาว่า คือ “บอย” เป็นหัวหน้าวินภายในชุมชนเพิ่งออกมาจากคุก และมักจะเข้าออกคุกเป็นประจำ เชื่อว่ากลุ่มนี้น่าจะรู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมีการแอบอ้างว่า “ไปแจ้งความเลยกูไม่กลัว กูรู้จักกับ น.1”

ส่วนในวันที่เกิดเหตุมีคนมาบอกว่าลูกชายถูกทำร้ายร่างกาย จึงรีบออกไปดูลูกชาย พอเห็นสภาพของลูกชายแล้วเธอก็ต้องตกใจเป็นอย่างมากร้องไห้ทำอะไรไม่ถูก และพยายามตะโกนถามว่า “ใครเป็นคนทำลูกกู” พอตั้งสติได้เธอมั่นใจว่าคนที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกชายจะต้องเป็นวัยรุ่นที่อยู่บริเวณปากซอยชุมชนอย่างแน่นอน จึงเดินไปถามว่า “ทำลูกชายทำไม” แต่วัยรุ่นกลุ่มนั้นกับสวนมาว่า “ใครทำลูกมึง“ แต่ด้วยความที่มั่นใจจึงบอกไปว่า “ใครที่ทำลูกกูจะต้องติดคุก พวกมึ-งมัน หมาหมู่” แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่กลัว พร้อมรวมตัวเข้าหาตนเองเหมือนจะทำร้ายร่างกายเธอ และท้าให้ไปแจ้งความ

แม่ผู้เสียหายร้องไห้บอกว่า ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ไม่กล้าดูคลิปวิดีโอที่ลูกลูกชายถูกทำร้าย พอหันไปเห็นหน้าลูกชายที่มีบาดแผลก็ร้องไห้ออกมาทุกครั้ง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดีเพราะแจ้งความไว้นานแล้ว แต่คดีเหมือนยังไม่คืบหน้า

ด้านนายเอกภพ ระบุว่าทำไมต้องรอผลนิติเวชทั้งที่บาดแผลตามร่างกายของผู้เสียหายก็สามารถดำเนินคดีได้เลย พอไม่ดำเนินคดีก็ทำให้ผู้ก่อเหตุโพสต์ข่มขู่จนคนในครอบครัว จึงมองว่าทาง สน.พญาไท จะต้องเร่งดำเนินการการที่ปล่อยให้ล่าช้า ก็เหมือนก็ไม่ยุติธรรมกับผู้เสียหาย เพราะผู้เสียหายเป็นทหาร ทุกวันนี้ทหารก็ทำหน้าที่มาอย่างหนักแต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้

แต่ในเบื้องต้นได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.ธนพล กลิ่นเกษร ผกก.สน.พญาไท เพื่อขอให้ติดตามความคืบหน้าทางคดี ทางพ.ต.อ.ธนพล ระบุว่าได้เรียกตัวผู้ก่อเหตุ 4 คนรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เหลืออีก 3-4 คนอยู่ระหว่างการให้ชุดสืบเร่งล่าตามตัว ในเบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนที่มีการแอบอ้างว่ารู้จักกับผู้บังคับการตำรวจนครบาล เรื่องนี้ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ เชื่อว่าเป็นเพียงแค่การแอบอ้างของกลุ่มผู้ก่อเหตุเท่านั้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง  สายไหมต้องรอด ,จ่าทหารบก

คุณอาจสนใจ

Related News