“บิ๊กเต่า” เผยคดีวัดนาป่าพง ตั้งธงหลักสอบปมใช้เงินบริจาค พบเส้นเงินเชื่อมโยงสีกาอื้อ

“บิ๊กเต่า” เผยตั้งธงหลักสอบเรื่องใช้เงินบริจาควัดนาป่าพง พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงสีกา 5 ปีย้อนหลังจำนวนมาก ส่วนข้อมูลที่ทั้งสองฝ่ายออกมาโต้ มีบางอย่างขัดแย้งกัน

วันนี้ (17 ก.ย.) ที่กองบังคับการปราบปราม พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เปิดเผยความคืบหน้าหลังจากที่วัดนาป่าพงได้จัดทีมทนายความออกมาชี้แจงในข้อสงสัยต่างๆ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ มี 2 ส่วน คือ ส่วนแรกมีทนายความของสีกาพลอยมาร้องทุกข์ดำเนินคดีไว้ที่ บก.ปปป. ตอนนี้ได้ส่งสำนวนไปที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แล้ว อยู่ระหว่างประสานว่าจะส่งสำนวนกลับมาที่ บก.ปปป.หรือไม่ และอีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของกองบังคับการปราบปรามที่ได้รับคำร้องเรียกให้ตรวจสอบวัดนาป่าพง ซึ่งเชื่อว่าเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ และสัปดาห์นี้คาดว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าข้อมูลที่ทางทีมทนายความของวัดออกมาชี้แจงกับข้อมูลที่ทางพนักงานสอบสวนมีอยู่นั้นขัดแย้งกันหรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ระบุว่า ยังมีในบางประเด็นที่ขัดแย้งกันอยู่ แต่ก็มีบางประเด็นที่สอดคล้องกัน ซึ่งเรามองคดีนี้เรื่องบัญชีเงินวัด ที่มีการเปิดรับบริจาค และนำไปใช้ในมูลนิธิ หรือภายในเครือข่ายวัดเงินตรงนั้น นำไปใช้ประโยชน์กับกิจการที่เกี่ยวข้องของวัดหรือไม่ และเงินบริจาคให้วัดที่เข้ามาเรื่อยๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงิน 12 ล้านบาทไปอยู่ตรงจุดไหน ใช้ทำอะไร หรือมีการเปิดบัญชีเพิ่มหรือไม่ถ้ามีการเปิดบัญชีเพิ่มเงินยังอยู่ที่ต่างประเทศ หรืออยู่ในประเทศ

ซึ่งหาก ป.ป.ช. ส่งสำนวนกลับมาให้พนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบจะต้องประสานงานกับอัยการสูงสุด เพราะคดีนี้ เป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร พร้อมบอกว่าเรื่องการเปิดสาขาที่ประเทศเยอรมนีเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในปี 2556-2559 จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน มีเงินหมุนเวียนพอสมควรในเวลาแค่ 4-5 ปี เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ามากกว่าวัดไร่ขิงหรือไม่ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ระบุว่าเป็นเงินจำนวนเยอะมากๆ ปีๆ หนึ่งมีคนบริจาคเงินเป็นจำนวนมาก แต่ขอไม่ลงรายละเอียด

ส่วนเหตุผลที่ทำให้มีคนบริจาคเงินกับวัดเยอะนั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ระบุว่า เจ้าอาวาสวัดนาป่าพงมีจิตวิทยาสูงในการพูด แต่ส่วนตัวมองเรื่องของการก่อเหตุเรื่องการกระทำผิดหรือไม่ ไม่ผิดที่ต่างประเทศเป็นเรื่องเล็ก แต่มองเรื่องหลักคือเรื่องการรับบริจาคว่านำเงินไปใช้ถูกวัตถุประสงค์หรือไม่

เมื่อถามความสัมพันธ์ของเจ้าวาสและสีกา พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ระบุว่าในส่วนของสีกาไม่น่าจะมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเจ้าอาวาส เนื่องจากสีกาคนดังกล่าวมีสามีอยู่แล้ว แต่เป็นเพียงแค่การตรวจสอบในเบื้องต้นขอไม่ยืนยันในเรื่องของความสัมพันธ์ แต่สีกาคนดังกล่าวได้รับเงินค่าจ้างจากเจ้าอาวาสเดือนละ 120,000-150,000 บาท

เมื่อถามว่าขบวนการนี้จะมีผู้กระทำความผิดเป็นใครบ้าง พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ระบุว่าก็มีทั้งฆราวาส และพระสงฆ์จำนวนเกือบ 10 คน แต่อย่างไรก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีการเรียกเจ้าอาวาสวัดนาป่าพงเข้ามาชี้แจง ขอเป็นการตรวจสอบฝั่งผู้เสียหายก่อน