อาชญากรรม

รวบหนุ่มวัย 25 อ้างเป็นร่างทรง หลอกล่วงละเมิดเด็กชายอายุ 12-15 ปี คาดมากกว่า 30 ราย

โดย chutikan_o

13 ส.ค. 2568

3.1K views

รวบหนุ่มวัย 25 อ้างเป็นร่างทรง หลอกล่วงละเมิดเด็กชายอายุ 12-15 ปี คาดมากกว่า 30 ราย ผู้ปกครองเข้าแจ้งความ หวั่นคดีไม่คืบหน้า

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ส.ค. 2568 ที่ สภ.เมืองปัตตานี นางสาวณภัชกมล สังข์แก้ว ผู้ช่วยต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง ประจำจังหวัดปัตตานี ได้นำครอบครัวของผู้เสียหาย 13 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังมูลนิธิเป็นหนึ่งของต้นอ้อ ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองของเยาวชนชายรายหนึ่ง ซึ่งระบุว่าลูกชายตกเป็นเหยื่อการกระทำอนาจาร และล่วงละเมิดทางเพศ โดยนายชินดนัย อายุ 25 ปี ซึ่งขณะนี้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตามหมายจับแล้ว ซึ่งมีพฤติกรรมแอบอ้างตัวเป็นม้าทรงของศาลเจ้าในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเข้าถึงกลุ่มเยาวชน และเมื่อเหยื่อซึ่งเป็นเยาวชนหลงเชื่อก็จะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยผู้ปกครองเริ่มสังเกตพฤติกรรมผิดปกติของลูกชายจึงได้สอบถามจนรู้ว่าถูกผู้ต้องหาล่อลวงทางเพศ โดยอาจมีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 30 คน

พฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้ ได้เข้ามาทำงานเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ และใช้สถานที่แอบอ้างว่าเป็นม้าทรงในการสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาชาวบ้านและเยาวชน โดยอาศัยโอกาสในช่วงที่จัดงานประเพณีประจำปี เช่น หามพระลุยไฟ ซึ่งดึงดูดผู้คนจำนวนมาก รวมถึงเยาวชนชายในพื้นที่

ด้วยบุคลิกที่ดูเป็นผู้ใหญ่และมีบทบาทในพิธีกรรมทางศาสนา ทำให้กลุ่มเยาวชนเกิดความศรัทธาและไว้วางใจ ผู้ก่อเหตุใช้วิธีเข้ามาพูดคุย ทำความรู้จัก และชักชวนให้ผู้เสียหายมานั่งสมาธิฝึกจิต อ้างว่าเป็นการเสริมบารมีและฝึกความเข้มแข็งทางจิตใจ เมื่อสร้างความใกล้ชิดได้มากขึ้น ก็เริ่มพูดคุยผ่านโทรศัพท์ส่วนตัวและวิดีโอคอลขอดูของลับ บางรายถูกชักชวนไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ หรือซื้อของขวัญที่ผู้เสียหายต้องการให้ เพื่อสร้างความผูกพัน ก่อนจะใช้จังหวะอยู่ตามลำพังในบริเวณศาลเจ้า กระทำการอนาจาร และมีเด็ก 2-3 คน ถูกล่วงละเมิดเพศ เชื่อว่ายังมีเด็กอีกหลายคนที่ถูกล่วงละเมิดเพศ โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มีเด็กผู้เสียหายอายุราว 12-15 ปี

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้ปกครองของเด็กทุกคนที่ สภ.เมืองปัตตานี ทั้งหมด และหลังจากนี้จะสอบปากคำเด็ก ส่วนผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ได้ฝากขังแล้ว โดยทางครอบครัวย้ำว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะเดียวกันมูลนิธิเป็นหนึ่งได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่เพื่อเร่งรัดขั้นตอนการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมประสาน พม.เข้าดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้เสียหาย เนื่องจากเหตุการณ์นี้ไม่เพียงสร้างบาดแผลทางกาย แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของเยาวชนและครอบครัวอย่างรุนแรง

พ.ต.อ.เจฟรีย์ ไศลมานกุล ผู้กำกับการ สภ.เมืองปัตตานี กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหายและพยานแวดล้อม พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะให้ความคุ้มครองพยานและผู้เสียหายตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเคร่งครัด ด้านส่วนเยียวยาจังหวัดได้เข้ามาดูเคสนี้แล้ว พร้อมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขอให้ผู้ปกครองที่สงสัยว่าลูกหลานอาจตกเป็นเหยื่อ เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือประสานมูลนิธิฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือโดยด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีหรือทำร้ายเหยื่อเพิ่มเติม

นางวิไล ผู้ปกครองของผู้เสียหายวัย 14 และ 15 ปี เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา ระหว่างที่เด็กๆ เข้าร่วมโครงการอบรมฌานสมาธิในพื้นที่อำเภอเมืองปัตตานี ชายผู้ก่อเหตุใช้ตำแหน่งรุ่นพี่ในค่ายและสถานะม้าทรงสร้างความน่าเชื่อถือกันเพื่อนออกไป และหลอกพาเข้าห้องก่อนออกอุบายแยกเด็กออกจากกลุ่ม อ้างว่าจะฝึกสมาธิขั้นสูงและทำพิธีเฉพาะบุคคล ทำให้น้องเชื่อใจ เพราะเห็นว่าเป็นรุ่นพี่ที่ค่าย ทุกคนเคารพ เมื่อเข้าไปอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง กลับถูกล่วงละเมิด จนน้องต้องพยายามหนีกลับบ้าน ไม่ยอมมาเข้าอบรมอีก ได้เล่าให้กับน้องอีกคนจนมาแจ้งผู้ปกครองทราบ เด็กบางคนรู้เรื่องและไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวโดนทำร้ายหรือถูกกล่าวหาว่าโกหกอีกด้วย

ผู้ช่วยต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง กล่าวว่า วันนี้ได้รวบรวมผู้เสียทั้งหมดเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกรณีเยาวชนชายอายุ 12-15 ปี ถูกอนาจาและล่วงละเมิดทางเพศ เพราะว่ามีผู้ปกครองบางคนก็ยังไม่ได้ทราบว่าลูกตนเองโดนกระทำ เรื่องนี้เกิดขึ้นได้มีผู้ปกครองท่านแรกได้ประสานมาขอความช่วยเหลือ กลัวว่าคดีจะไม่คืบหน้า

ส่วนสภาพจิตใจของครอบครัวจากที่ดูมาพบว่า ทุกคนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่คิดว่าลูกตนเองจะโดนด้วย ก็อยากจะฝากบอกกับผู้ก่อเหตุให้หยุดพฤติกรรมนี้แบบนี้ และเลิกเอาเพื่อนมาข่มขู่ครอบครัวผู้เสียหาย และไม่ต้องโทรมาเคลียร์ เพราะเป็นคดีอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้ สำหรับพี่ต้นอ้อทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี และไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากจึงรีบประสานงานให้มาเข้ามาแจ้งความ



คุณอาจสนใจ