อาชญากรรม

รวบพระวัดดัง ย่านคลอง 6 ปทุมฯ เอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ฟอกเงินยาเสพติด

โดย nutda_t

5 ส.ค. 2568

624 views

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะ หัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันกว่า 180 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้ว มีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม

อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว เบื้องต้นทราบชื่อคือ นายสุรัตน์ อายุ 45 ปี หรือ พระสุรัตน์ พระลูกวัดรายหนึ่งของวัดหว่านบุญ ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดี "ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อฟอกเงินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด" โดยสามารถจับกุมตัวได้ขณะเจ้าตัวกำลังออกเดินบิณฑบาตอยู่ในพื้นที่ ก่อนพาตัวมาทำการลาสิกขาจากความเป็นพระที่วัดหว่านบุญ ซึ่งเป็นวัดต้นสังกัด

จากการตรวจสอบประวัติทราบว่า นายสุรัตน์ เดิมทีเป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือกลุ่มคนชาติพันธุ์ทางภาคเหนือ ก่อนมาบวชเป็นพระที่วัดแห่งนี้นานกว่า 10 ปี ส่วนสาเหตุที่ทำให้วันนี้เจ้าตัวต้องกลายมาเป็นผู้ต้องหา เนื่องจากมีการตรวจสอบพบบัญชีธนาคารของนายสุรัตน์ ถูกนำไปใช้ในการรับโอนเงินค่ายาเสพติดของเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ

ทั้งนี้จากการสอบปากคำ เบื้องต้นเจ้าตัวให้การภาคเสธ อ้างว่า ก่อนหน้านี้มีคนมาทำบุญที่วัด ซึ่งเป็นคนกลุ่มชาติพันธุ์เช่นกัน และได้มาขอยืมบัญชีไปใช้ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะนำไปใช้ทำผิดกฎหมาย

จากการพูดคุยกับชาวบ้านกรรมการวัด รวมถึงพระที่อยู่ในวัด ต่างบอกว่า นายสุรัตน์ หรือ อดีตพระสุรัตน์ เป็นพระปฏิบัติดี ที่ทำนุบำรุงศาสนา สร้างวัดอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เชื่อว่าอดีตพระสุรัตน์ ไม่รู้ว่าตัวเองได้กระทำผิด เพราะไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ออกไปบิณฑบาตตามปกติ

อย่างไรก็ตามในส่วนของเป้าหมายสำคัญจุดอื่นๆ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจค้นจับกุม ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นปฏิบัติการจะมีการจัดแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)

คุณอาจสนใจ

Related News