รวบชายเสพยาคลั่ง ไล่ยิงชาวบ้านดับ 2 ศพ อ้างฝันว่าผู้ตายเอาไม้มาเคาะหัว

เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.68) เวลาประมาณ 06.00 น. ตำรวจ สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุชายใช้ปืนยิงชาวบ้านในชุมชนวัดคูหาสวรรค์ ซอยเพชรเกษม 28 เสียชีวิต 2 ราย และผู้ก่อเหตุยังถือปืนเดินวนเวียนอยู่ในชุมชน

โดยขณะเกิดเหตุ เวลาประมาณ 06.02 น. กล้องวงจรปิดในชุมชน บันทึกเสียงนายกิตติเดช หรือ ปลั๊ก อายุ 35 ปี ผู้ก่อเหตุ พูดว่า “ขอโทษนะ” จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด  หลังจากนั้นนายปลั๊กก็ไปยิงคนในชุมชนเสียชีวิตอีก 1 ศพ ทำให้ชาวบ้านโทรแจ้งตำรวจ เพราะนายปลั๊กยังถือปืนเดินไปมา ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวว่าจะมีศพที่ 3

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ก็พยายามเจรจาให้นายปลั๊กมอบตัว โดยกล้องวงจรปิดในชุมชน เวลา 06.40 น. จับภาพผู้ก่อแหตุที่สวมเสื้อคลุมสีเข้ม กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าสีดำ สะพายประเป๋าคาดตัว และถือกระเป๋าสีดำใบยาวอีก 1 ใบ  ลักษณะเดินแวะดูตามบ้านต่าง ๆ แล้วเดินผ่านกล้องไป ก่อนที่ตำรวจสายตรวจ 4 นาย พร้อมโล่กำบัง ค่อย ๆ ตามประกบ เรียกผู้ก่อเหตุ

ผู้ก่อเหตุเดินกลับมา ตำรวจจึงบอกให้วางกระเป๋าลง  ผู้ก่อเหตุก็วาง แต่ตำรวจเห็นว่ามีปืนสั้นเหน็บไว้ที่เอว จึงบอกให้วางลง แต่ผู้ก่อเหตุ ไม่ยินยอม และไม่ให้ตำรวจจับตัว มีจังหวะที่สะบัดแขนหนี แล้วพยายามหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยกับพี่สาว พลางตะคอกใส่ตำรวจว่า  “จะคุยกับเขา อย่าเอาปืนมาจ่อแบบนี้ เก็บปืน เอาปืนเก็บเข้าซองให้หมด”  ตำรวจเลยต่อรองว่า จะเก็บปืน แต่ขอจับมือไว้นะ  นายปลั๊กบอกว่า อย่ามาจับตัว เดี๋ยวเดินไปเอง อย่ามาทำอะไรนะ แล้วถามตำรวจด้วยว่า กลัวอะไรผม ผมไม่ทำอะไร  ก่อนจะเดินหนีออกไปทางโรงเรียน ซึ่งเป็นบ้านพักของตนเอง ในกล้องจะเห็นว่า ตำรวจทุกนายต่างเตรียมพร้อมปืนประจำตัว เพราะผู้ก่อเหตุไม่มีท่าทางจะยอมมอบตัวดีๆ และยังมีท่าทีข่มขู่เจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังอยู่ในชุมชน  แต่สุดท้ายไม่มีเหตุปะทะรุนแรง ตำรวจตามไปจับกุมผู้ก่อเหตุได้ที่บ้านพัก และนำตัวไปที่ สน.ภาษีเจริญ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและกู้ภัย ไปตรวจสอบผู้เสียชีวิต รายแรก คือ นางสาวศิริพร อายุ 49 ปี ถูกยิงเข้าที่กลางหน้าผาก 1 นัด  เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักซึ่งอยู่ในซอยดังกล่าว สภาพถูกยิงเข้าที่กกหู เสียชีวิตขณะนั่งซักผ้า ผู้ตายมีบัตรประจำตัวคนพิการประเภท 3  ป่วยเป็นโรคไต และติดเชื้อ HIV

ห่างไปประมาณ 100 เมตร ที่หน้าวัดคูหาสวรรค์ พบศพนายติ่ง อายุ 51 ปี ถูกยิงเข้าที่เบ้าตาซ้าย กระสุนทะลุท้ายทอย

นายคิง น้องชายของนายติ่ง บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ พี่ชายออกมาซื้อบุหรี่ แล้วมานั่งอยู่หน้าวัด สักพักตนได้ยินเสียงปืน จึงออกมาดู เห็นพี่ชายถูกยิงไปแล้ว และเห็นนายปลั๊ก  ซึ่งเป็นลูกเจ้าของโรงเรียน เดินถือปืนเข้าไปในชุมชน  

ส่วนนายยุทธที่เป็นคนรู้จักกับนางสาวศิริพร ผู้ตายอีกคน บอกว่า ตนเองไม่ได้อาศัยอยู่ซอยนี้ แต่รู้จักกับผู้ตาย เพราะผู้ตายพักอยู่คนเดียว ลูกสาวไปทำงานที่อื่นและมักจะส่งเงินมาให้  ตนจะเป็นคนพาผู้ตายไปฟอกไตเป็นประจำ ส่วนผู้ก่อเหตุตนไม่รู้จัก ทราบจากชาวบ้านว่า เป็นลูกเจ้าของโรงเรียนซึ่งติดยาเสพติด และน่าจะเสพเยอะจนคลั่ง

ขณะที่ชาวบ้านในชุมชน ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายเจ้าของโรงเรียนที่อยู่ติดกับวัด ชาวบ้านรู้จักดี เมื่อก่อนเคยเป็นเด็กดี แต่ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา  ติดยาเสพติดจนหลอน  มักจะพกปืนแล้วมาเดินไปเดินมาในชุมชน   เมื่อชาวบ้านเห็นนายปลั๊กเดินมาจะปิดบ้านหนีกันหมด  ส่วนปืนน่าจะมีติดตัวนานแล้วเพราะเคยได้ยินว่านายปลั๊กเคยทะเลาะกับคนในชุมชน แล้วคู่กรณีตามไปหาเรื่องในโรงเรียน แต่ถูกนายปลั๊กยิง จนกลายเป็นคนพิการ  

ชาวบ้านบอกว่ากลัวผู้ก่อเหตุจะได้ประกันตัว แล้วมาตามไล่ยิงคนอีก เพราะที่ผ่านมา ต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง  และมีชาวบ้านให้ข้อมูลด้วยว่า ก่อนจะยิงนางสาวศิริพร ผู้ตายรายแรก นายปลั๊กเดินไปบอกชาวบ้านว่า ฝันเห็นว่านางสาวศิริพร เอาไม้ไปเจาะหัวเขา  และหลังจากยิงแล้วก็มีคนเห็นนายปลั๊กเดินพูดอยู่คนเดียว คล้ายกับท่องคาถาบางอย่าง

สำหรับผู้ก่อเหตุ  ถูกควบคุมตัวที่ สน.ภาษีเจริญ แต่ยังให้การไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ก่อน และยึดของกลางเป็นอาวุธจำนวนมาก ได้แก่   ปืนกล็อกขนาด 9 มม. พร้อมกระสุน 7 นัดในแม็กกาซีน  ปืนลูกโม่จุด 38 พร้อมกระสุนอีก 7 นัด  ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก แม็กกาซีนปืน และกระสุนอีกกว่า 100 นัด

พลตำรวจตรี โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน บอกว่า นายปลั๊ก ยังให้การไม่ได้ พูดวกไปวนมา  ข่มขู่พี่สาวตัวเอง อ้างว่าผู้ตายเอาตะปูไปตอกศีรษะตัวเอง  ตรวจปัสสาวะเจอสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน และเคยมีประวัติรักษาอาการทางจิตเวช ซึ่งต้องให้แพทย์วินิจฉัยอย่างละเอียดอีกครั้ง  ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนขนาด 9 มม.  เป็นปืนมีทะเบียนของพ่อผู้ก่อเหตุ และพบว่าผู้ก่อเหตุ เคยมีประวัติซ้อมยิงปืนมาก่อน  ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่า เมื่อปี 2553 เคยถูกดำเนินคดีฐานพยายามฆ่า พื้นที่ สน.ภาษีเจริญ  ปี 2555 ถูกดำเนินคดีฐานเสพยาเสพติด สภ.โพธิ์แก้ว

เบื้องต้นแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติด  สำหรับประเด็นที่อาจยกข้อต่อสู้ว่าเป็นผู้ป่วยทางจิต จะต้องเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์และพิจารณาในขั้นตอนต่อไป  ในส่วนของการสอบสวนดำเนินคดี อยู่ในความรับผิดชอบของ สน.ภาษีเจริญ ซึ่งจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด พยานบุคคล และจัดทำสำนวนคดีอย่างรัดกุม

กรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่แสดงความกังวลว่า ผู้ก่อเหตุอาจกลับเข้ามาในชุมชนอีก  พลตำรวจตรีโชติวัฒน์ ระบุว่า ต้องให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า ประเด็นที่ควรให้ความสำคัญคือการมีบุคคลอันตรายอยู่ภายในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นผู้เมายา ผู้มีอิทธิพล หรือบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งข้อมูลแก่ตำรวจ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้รับแจ้งเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุรายนี้จากชาวบ้านเลย

ส่วนกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตกังวลว่า ผู้ต้องหาอาจหลุดคดี ยืนยันว่า ได้สั่งการให้ทีมสืบสวนดำเนินการอย่างเต็มที่ และมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอ ทั้งรายงานสอบสวน พยานบุคคล กล้องวงจรปิด และของกลางที่เกี่ยวข้องในคดี

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/UXTb2oZTqIE