จับหนุ่มเมียนมาขายโรตี ลวงเด็กชาย 8 ขวบล่วงละเมิด เด็กขัดขืน บีบคอ-โยนลงน้ำ เสียชีวิต

จับหนุ่มเมียนมาขายโรตีโหด ลวงเด็กชายวัย 8 ขวบ ไปหวังข่มขืนแต่เด็กไม่ยอม ก่อนใช้มือบีบคอก่อนโยนลงน้ำจนเสียชีวิต ขณะที่ ตร.แจ้งข้อหาหนัก ญาติแค้นตะโกนด่า-รุมประชาทัณฑ์

กรณีเมื่อวันที่ 22  ม.ค.68 ที่ผ่านมา เพจเรารักพระสมุทรเจดีย์ โพสต์ประกาศตามหาเด็กหาย อายุ 8 ขวบ กระทั่งช่วงค่ำวันเดียวกันนั้นทางผู้ปกครองของเด็กชาย วัย 8 ขวบ ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ ว่าเด็กชาย วัย 8 ขวบ ได้หายไปไม่ได้เข้าบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงลงพื้นที่หาข่าวพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านของเด็กชาย  ก่อนพบตัวผู้ต้องสงสัยที่อยู่กับเด็กเป็นคนสุดท้ายว่าเป็นชายชาวเมียนมาร์ อายุ 25 ปี

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปที่ห้องพักของผู้ต้องสงสัย ที่เป็นหนุ่มชาวเมียนมา อายุ 25 ปี มีอาชีพขายโรตี ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ แต่ในเบื้องต้นทางหนุ่มเมียนมา คนดังกล่าวนั้นบอกว่ามาส่งเด็กชาย ที่หน้าปากซอยเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงได้สอบสวนต่อจนทางหนุ่มเมียนมาร์คนดังกล่าวยอมรับว่าพาเด็กไปจริง โดยผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพ ว่าตนได้พาเด็กชายซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์และไปซื้อของที่ 7-11 ก่อนจะพามายังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะทำการจับน้องถอดกางเกงและพยายามล่วงละเมิดทางเพศ แต่เด็กมีการขัดขืนจึง ได้ทำการบีบคอเด็กจนเด็กแน่นิ่งไป จึงทำการโยนเด็กลงน้ำที่บ่อด้านหลัง หลังจากก่อเหตุก็มีการกลับไปใช้ชีวิตปกติ

กระทั่งวานนี้ (23 ม.ค.68) เวลาประมาณ 13.00 น. พ.ต.ต.จิรวัฒน์อ่องสา พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สมุทรปราการ แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบ หาร่างเด็กชาย วัย 8 ขวบ ที่เสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำ ในหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

โดยจุดเกิดเหตุที่ชายมือฆ่าให้การนั้น เป็นที่ป่ารกร้างว่างเปล่ามีป่าหญ้าปกคลุม ซึ่งต้องเดินจากถนนเข้าไปในป่าหญ้าประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่จึง พบร่างผู้เสียชีวิตในนอนคว่ำหน้าอยู่ในบ่อน้ำ สภาพสวมเสื้อเพียงตัวเดียว ไม่สวมกางเกง เจ้าหน้าที่จึงกั้นจุดเกิดเหตุเพื่อไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้า

โดยวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ช่วงที่ชายเมียนมารายนี้ ได้พาเด็กนั่งรถ จยย. โดยให้เด็กนั่งหน้า ลงไปซื้อของที 7-11 ก่อนพาเด็กนั่งรถ จยย. ไปต่อ จนกล้องวงจรปิดไปสิ้นสุดตรงหน้าปากซอยหมู่บ้านร้าง


เมื่อผู้ก่อเหตุสารภาพ ตำรวจได้นำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ช่วงนี้เจ้าตัวบอกกับำตำรวจว่า พอลงมือกับเด็ก ตัวเองก็รู้สึกตกใจว่าตัวเองทำอะไรไป ก่อนขี่รถหนีไป  ส่วนศพ.เด็กไปอยู่ในสระได้ยังไงนั้นตัวเองไม่รู้ ไม่รู้ใครไปโยน เพราะตอนนั้นเด็กยังหายใจอยู่ อาจจะยังไม่ตายมั้ง ตำรวจถามย้ำว่า ศพเด็กจะไปอยู่ในน้ำเองได้ยังไง เจ้าตัวบอกว่า น่าจะตื่น แล้วเดินไปหรือเปล่า ยืนยันว่าทิ้งบนบก  ช่วงน้ำตำรวจยังถามย้ำ เจ้าตัวบอกว่า จำไม่ได้ อาจเพราะความเมา พร้อมรับสารภาพว่าที่ทำไปด้วยความเมา


เมื่อพอเจอศพ คนที่ไปตรวจสอบเพื่อยืนยันด้วยคือคุณยาย และญาติของเด็ก ทันทีที่รู้ว่าเป็นหลานตัวเองคุณยายถึงกับปล่อยโฮ แทบเป็นลม ชาวบ้านต้องช่วยกันประคอง และให้ยาดม


จากนั้นตำรวจได้คุมตัวไปค้นห้องพักภายในซอยจ่าเหวกเพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมโดยยึดเสื้อผ้าและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ  โดยจังหวะที่พาผู้ต้องหาไปค้นห้องได้ถูกกลุ่มญาติของเด็กและคนที่ทราบข่าวที่เดินทางมามุงดู ต่างกู่เข้าไปรุมประชาทัณฑ์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบกันออกมา แล่วนำตัวไปดำเนินคดี


ขณะที่ นางสาวสุภาพร อายุ 34 ปี แม่เด็กผู้เสียชีวิตที่กำลังตั้งครรภ์แก่ ที่กำลังตั้งท้องลูกอีกคน เมื่อทราบว่าลูกเสียชีวิต ก็เป็นลมล้มพับทันที  ชาวบ้านต้องช่วยกันปฐมพยาบาล 

จากนั้นแม่เด็ก เล่าว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 เด็กกลับมาจากโรงเรียน แล้วมาเปลี่ยนเสื้อผ้าน้องก็เล่นอยู่บริเวณบ้าน แล้วก็มีผู้ใหญ่อยู่ตรงนี้ตลอด  แต่ตนไม่ได้ออกมาเพราะมีลูกเล็ก ออกมาอีกทีก็ตอนประมาณช่วง 18.00 น. เพราะว่าน้องไม่เคยออกไปไหนไกลและไม่เคยกลับบ้านเกิน 6 โมงเย็น

จากนั้นมีพยานเห็นว่าเด็กไปกับผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุเขาอ้างว่า เขาจะไปเซเว่นแล้วเด็กขอตามไปด้วย และมีการอ้างว่ารับน้องไปด้วยและจอดให้น้องลงและให้เงินน้อง 10 บาท แล้วหลังจากนั้นน้องก็หายไป มันจะมีบังอีกคนนึงออกมาแต่ตนไม่แน่ใจว่าน้องไปกับคนไหนเขาจึงแนะนำให้ไปแจ้งความ

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปไล่กล้องวงจรปิดจนพบผู้ต้องสงสัย  รวมทั้งชาวบ้านมาให้การว่าเห็นเด็กไปกับผู้ก่อเหตุ นั่งรถมอเตอร์ไซค์ไปและนั่งหน้าไปกับผู้ก่อเหตุ ไปที่หมู่บ้านร้างและผู้ก่อเหตุก็ทำทีพาแม่ของตนไปหาน้องด้วย เหมือนกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง แล้วพอช่วงสายเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า ผู้ก่อเหตุได้รับสารภาพแล้ว อ้างว่าตัวเองเมาแล้วเกิดอารมณ์  เลยจะข่มขืนน้องแต่น้องไม่ยอม เขาก็เลยบีบคอน้อง ตนไม่ได้ไปดูศพ แต่คนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าน้องน่าจะถูกกระทำชำเราไปแล้วเพราะว่ารูทวารของน้องมีบาดแผล และมีเลือดออก ลักษณะของน้องโดนถอดกางเกง ไปหมดเลยตนมีลูกทั้งหมด 3 คนคนที่อยู่ในท้องเป็นคนเล็กสุดส่วนคนที่เสียชีวิตเป็นคนโต


ด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ที่เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุ เผยว่า เมื่อวันที่ 22 ม.ค.67 มี่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทร ได้รับแจ้งมีเด็กชาย อายุประมาณ 8 ปี หายออกจากบ้านไป หลังจากได้รับแจ้งพนักงานสอบสวนได้ประสานฝ่ายสืบสวน ออกทำการสืบสวนในพื้นที่ เบื้องต้นได้ทราบว่าช่วงประมาณหัวค่ำของวันก่อน พบเด็กชายวัย 8 ขวบ ได้มีการซ้อนรถจักรยานยนต์ ของผู้ก่อเหตุ ชายสัญชาติเมียนมา มีอาชีพขายโรตี และได้เช่าห้องพักอยู่ใกล้ๆกับที่พักของน้อง ซึ่งเด็กและตัวผู้ก่อเหตุรู้จักกัน และได้มีการซ้อนท้าย ผู้ก่อเหตุในช่วงเวลา 17.00 น หลังจากนั้นประมาณ 18.00 น ผู้ก่อเหตุก็ได้กลับห้องไปใช้ชีวิตปกติ

ด้านคุณยายและคุณแม่ของน้องไม่เห็นน้องกลับมาด้วย จึงได้มีการเข้ามาแจ้งความ ครั้งแรกผู้ก่อเหตุมีการโกหกว่า ได้ออกมากับเด็กจริงแต่มาส่งเด็กแค่หน้าปากซอย และเด็กยังมีการขอตังค์ 10 บาท  ตนก็ให้ไป หลังจากนั้นเขาบอกว่าไม่เห็นเด็กอีกเลยซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ และทางญาติของน้องก็ไม่เชื่อ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีการไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ซึ่งได้พบว่า เด็กได้ซ้อนท้าย ผู้ก่อเหตุมาจนถึงหน้าปากซอยหมู่บ้านร้างซึ่งเป็นที่สิ้นสุดของกล้อง จึงทำการไล่หาและประกอบกับนำตัวผู้ก่อเหตุมาสอบถาม

พอถามไปถามมา จนผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพ ว่าตนได้พาเด็ก ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์และไปซื้อของที่เซเว่นก่อนจะพามายังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะทำการจับน้องถอดกางเกงและพยายามล่วงละเมิดทางเพศแต่เด็กมีการขัดขืนจึงได้ทำการบีบคอเด็กจนเด็กแน่นิ่งไป จึงทำการโยนเด็กลงน้ำที่บ่อด้านหลัง  หลังจากก่อเหตุก็มีการกลับไปใช้ชีวิตปกติ

เมื่อเจ้าหน้าที่จึงทำการสอบสวนและทางด้านผู้ก่อเหตุก็ได้ยอมรับสารภาพแล้ว ส่วนเรื่องล่วงละเมิดทางเพศต้องรอตรวจพิสูจน์อีกที เบื้องต้นผิดทั้ง พรากผู้เยาว์ทั้งพา เด็กไปจากผู้ปกครอง และกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และน่าจะโดนปิดบังซ่อนเร้นศพด้วย ก่อนที่จะพาเด็กซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปตัวผู้ก่อเหตุได้มีการดื่มสุรากับเพื่อน คาดว่าน่าจะเกิดจากความเมาด้วยส่วนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ต้องทำการสอบสวนอีก อาจจะโดยเมาด้วยและสันดานด้วย และผู้ก่อเหตุยังเคยถูกจัดดำเนินคดีเรื่องยาเสพติดไปเมื่อ 2 ปีก่อน และพึ่งลักลอบเข้ามาเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/fsqjZsxwpZk