ปปง.เข้าแจ้งความ “บิ๊กโจ๊ก-ภรรยา” เปลี่ยนสภาพกรมธรรม์ 1.7 ล้านบาท

ปปง.เข้าแจ้งความ “บิ๊กโจ๊ก-ภรรยา” ข้อหาฟอกเงิน เปลี่ยนสภาพกรมธรรม์ 1.7 ล้านบาท โยกเงินจากบัญชีม้าเอี่ยวเว็บพนันออกไปก่อนโดนอายัด

จากกรณีที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆได้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ กระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ และมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินว่ามีบุคคลใดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าวนั้น

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยว่า พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้ตรวจสอบพบว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก และนางศิรินัดดา หักพาล ภรรยาของบิ๊กโจ๊ก ที่ สน.บางรัก ในความผิดฐานฟอกเงิน

สืบเนื่องจากทางสำนักงาน ปปง. ตรวจสอบพบว่ากรมธรรม์ประกันชีวิตบริษัทแห่งหนึ่งของบิ๊กโจ๊กและภรรยา จำนวน 8 กรมธรรม์ โอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคาร (บัญชีม้า) ซึ่งเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ มาชำระค่างวดเบี้ยประกันชีวิตของบุคคลทั้งสองบางส่วน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 1.7 ล้านบาท จึงดำเนินการเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมเพื่อพิจารณาอายัดเบี้ยประกันชีวิตดังกล่าวไว้ชั่วคราว

ต่อมาในห้วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา บิ๊กโจ๊กและภรรยาได้เวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิตทั้ง 8 กรมธรรม์ดังกล่าว ได้เงินมาและโอนเงินออกไป ก่อนถอนเป็นเงินสด การเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิตดังกล่าว จึงเป็นการโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าก่อนขณะหรือหลังการกระทำความผิดมิให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลงในความผิดมูลฐาน หรือกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะที่ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้น ว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด สำนักงาน ปปง. จึงดำเนินการกล่าวโทษบิ๊กโจ๊กและภรรยา

อย่างไรก็ตามหากการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวน พบว่ามีผู้ใดกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพิ่มเติม ก็จะมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามอำนาจหน้าที่ต่อไป