เสียงปืนสนั่น! นาที ตร.ปะทะเดือด ผัวหึงโหดยิงเมียดับ หนีกบดานบ้านเพื่อน ก่อนวิสามัญ แม่สุดช็อก

ผัวหึงโหดยิงเมียตายคาบ้าน หลบหนีกบดานบ้านเพื่อน ตำรวจปิดล้อม เปิดฉากยิงต่อสู้ใส่ตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย เปิดคลิปปะทะเดือด ก่อนถูกวิสามัญ ผบช.ภ.1 เผย คนร้ายเตรียมปืนกล็อก 9 มม. พร้อมต่อสู้ ใช้แม็กยาวบรรจุกระสุนได้ 20-30 นัด


เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.67 เวลา 11.00 น. ตำรวจ สภ.บางไทร สภ.ใกล้เคียง และตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 1 กว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่บ้านวัดป่าคา ซอยผู้ใหญ่บอย ต.โคกช้าง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อจับกุม นายวสันต์ อายุ 51 ปี หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงศีรษะ นางจิตรา อายุ 46 ปี ภรรยา เสียชีวิตภายในบ้าน หมู่ 4 ต.โคกช้าง อ.บางไทร ช่วงกลางดึก วันที่ 25 ธันวาคม ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะหลบหนีมากบดานในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของเพื่อนสนิท


ขณะปิดล้อม ตำรวจบอกว่า นายวสันต์นอนหลับอยู่ภายในบ้านและมีอาวุธปืน ขอให้ชาวบ้านรวมทั้งสื่อมวลชนระมัดระวังตัว เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่าง ๆ ต่อมาตำรวจเชิญตัวแม่กับลูกสาวของนายวสันต์ ให้เข้ามาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อม โดยตำรวจได้ใช้โดรนบินวางแผน และกำลังส่วนหนึ่งได้ปิดล้อมอยู่หน้าบ้าน พร้อมสแตนด์บายรถพยาบาล รถฉุกเฉิน เข้ามายังจุดเกิดเหตุ หากเกิดเหตุสุดวิสัย พร้อมทั้งใช้โดรนบินเพื่อสำรวจพื้นที่และพยายามจะเปิดประตูเข้าไปควบคุมตัว ปรากฏว่านายวสันต์ได้เปิดฉากใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อน จนมีการยิงปะทะกัน ตำรวจถูกยิงต้นขาบาดเจ็บ 2 นาย ก่อนที่ตำรวจชุดปฏิบัติการจะยิงปะทะกว่า 30 นัด วิสามัญนายวสันต์ โดยช่วงที่ยิงปะทะกัน ชาวบ้านที่อยู่ในซอยต่างพากันวิ่งหนีหลบกระสุน บางคนอุ้มลูกน้อยวิ่งออกจากมาอยู่ยังจุดปลอดภัย


นอกจากนี้ มีภาพจากกล้องวงจรปิดจากบ้านหลานสาวของผู้ก่อเหตุ อยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ในเวลาประมาณ 11.02 น. บันทึกเหตุการณ์นาทียิงปะทะ ระหว่างตำรวจกับผู้ต้องหาที่หลบกบดานอยู่ภายในบ้าน โดยจะได้ยินเสียงปืนดังสนั่นขึ้นกว่า 30 นัด มีชุดสืบที่เป็นกำลังเสริม ประมาณ 6 นาย เฝ้าดูสถานการณ์อยู่ไม่ห่าง เมื่อเสียงปืนสงบลงได้ยินเสียงตำรวจให้สัญญาณว่าเคลียร์ จากนั้นตะโกนขอเรียกรถพยาบาลมารับตำรวจ 2 นาย ที่ถูกผู้ก่อเหตุยิงต้นขาจนบาดเจ็บ จากนั้นรถพยาบาลรีบเข้ามายังจุดเกิดเหตุรับตัวตำรวจ 2 นาย ส่งโรงพยาบาล ก่อนจะปิดกั้นพื้นที่ให้ พฐ.ตรวจสอบที่เกิดเหตุ


ขณะที่ นางสะเหรา อายุ 83 ปี แม่ของนายวสันต์ เผยว่า ลูกชายไปอยู่กินกับเมียไม่ค่อยกลับมาที่บ้าน ที่ผ่านมาทราบว่าทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยครั้ง ด่ากันสนั่นลั่นซอย แต่ตนไม่ทราบปมเหตุที่ทะเลาะกัน ยอมรับลูกชายเป็นคนขี้หึง เวลาทะเลาะกันไม่ยอมปล่อยให้เมียออกจากบ้าน ส่วนเหตุการณ์ในคืนก่อนที่เขาจะยิงเมีย ทั้งคู่ด่าโคตรพ่อโคตรแม่กัน ทะเลาะกันหนักมาก หลังจากที่ลูกชายยิงเมียตายแล้วหนีไปกบดานอยู่บ้านเพื่อนสนิท ตำรวจบอกให้ตนไปเกลี้ยกล่อม ซึ่งตนตั้งใจจะบอกให้มอบตัว แต่ไม่ทันได้เกลี้ยกล่อมก็เกิดเหตุยิงปะทะเสียก่อน โดยแม่ของนายวสันต์ หลังทราบลูกชายถูกวิสามัญก็เป็นลมไปหลายรอบ จนญาติ ๆ ต้องมาช่วยพยุงตัวไปนั่ง


ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตำรวจชุดปฏิบัติการได้พยายามแสดงตัวและสั่งการให้คนร้ายยอมมอบตัววางอาวุธแล้ว และพยายามเกลี้ยกล่อม แต่คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ ก่อนที่ตำรวจจะดำเนินการอะไร จนมีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษถูกยิง 2 นาย จึงต้องดำเนินการตามยุทธวิธีในการปกป้องเจ้าหน้าที่ และป้องกันไม่ให้เหตุขยายลุกลามใหญ่โตไปถึงผู้ไม่เกี่ยวข้อง จนต้องวิสามัญฆาตกรรม


ทั้งนี้ ตำรวจจะต้องทำสำนวนไปตามความถูกต้องตามกฏหมาย โดยจะต้องเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด คือ สหวิชาชีพ 4 ฝ่าย แพทย์ อัยการ ฝ่ายปกครอง และพนักงานสอบสวน มาร่วมกันชันสูตรพลิกศพ ซึ่งเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าใครยิงใคร จำนวนกี่นัด วิถีกระสุนเป็นอย่างไร ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถมาตรวจสอบรายละเอียดได้ ทุกอย่างจะถูกต้องและเป็นธรรม ย้ำว่าตำรวจได้พยายามทำตามขั้นตอนทุกอย่างแล้ว แต่สิ่งที่ได้รับกลับมากลับไม่ได้เป็นแบบนั้น คนร้ายยิงออกมาก่อน หากตำรวจไม่มีการป้องกันตัว หรือมีโล่กำบัง ก็อาจจะถูกส่วนสำคัญได้


ต่อมาภายหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พล.ต.ท.สุรพล เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุพบว่า เป็นบ้านชั้นเดียว ภายในมีห้องโถง ห้องนั่งเล่น และด้านในมีห้องพักผ่อน ซึ่งมีร่องรอยของการใช้อาวุธปืนทั้ง 2 ส่วน คือส่วนที่คนร้ายยิงใส่ตำรวจ และส่วนที่ตำรวจยิงเข้าไป ซึ่งมีพยานหลักฐานอยู่ในที่เกิดเหตุพอสมควร ส่วนตัวคนร้ายพบร่องรอยกระสุนส่วนใหญ่ถูกยิงเข้าที่บริเวณด้านหน้า แต่ต้องรอตรวจสอบสภาพศพโดยละเอียดอีกครั้ง


และในมือของคนร้ายพบอาวุธปืนกล็อก 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ซึ่งคาดว่าคนร้ายเตรียมพร้อมในการต่อสู้ เพราะโดยปกติ แม็กที่ตำรวจใช้จะบรรจุกระสุนได้ประมาณ 9-11 นัด แต่คนร้ายใช้แม็กยาวที่บรรจุกระสุนได้ 20-30 นัด แต่กระสุนยังเต็มแม็กอยู่หรือไม่ ยิงไปกี่นัด ต้องรอพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบก่อน


สำหรับตำรวจชุดปฏิบัติการที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นาย เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษของตำรวจภูธรภาค 1 โดยถูกยิงเขาที่สะโพกและขา 1 นาย และถูกยิงเข้าที่ขา 1 นาย ซึ่งตอนนี้อาการถือว่าปลอดภัยทั้งคู่แล้ว แต่มี 1 คน ที่ถูกยิงเข้าเส้นเลือดใหญ่ ทำให้อาการค่อนข้างหนัก


กรณีที่ทางญาติบอกว่า ตำรวจไม่ได้ให้ญาติพูดคุยเกลี้ยกล่อมนั้น ย้ำว่าเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามยุทธวิธีและขั้นตอนตามกฎหมายแล้ว โดยคนร้ายเป็นผู้ที่ก่อเหตุฆาตกรรมมาก่อนเป็นคดีต่อเนื่อง และเป็นบุคคลอันตรายที่มีอาวุธปืน เมื่อเจ้าหน้าที่บอกให้มอบตัวแล้ววางอาวุธ แต่คนร้ายไม่ปฏิบัติตามและมีการยิงออกมา ถือเป็นเหตุที่รุนแรง จึงต้องทำการระงับเหตุ และคนร้ายยังมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปมีการสวมชุดเกราะและใช้โล่กำบัง แต่คนร้ายก็ตั้งใจยิงรอดใต้โล่ จนมาโดนขาได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ หากทางญาติไม่สบายใจก็สามารถมาให้ปากคำกับตำรวจได้


ขณะเดียวกันตำรวจได้ไปตรวจสอบบ้านของนางจิตรา จุดที่นายวสันต์ก่อเหตุยิงภรรยยาตัวเองในบ้าน ทั้งนี้พบว่าในบ้านมีภาพถ่ายที่นางจิตรา ถ่ายคู่กับนายวสันต์ ติดอยู่ที่กระจกหน้าต่างในบ้าน ที่ผนังนางจิตราเขียนตัดพ้อลูกและสามีว่า “ไม่ให้ใครเหยียบกูอีก มีผัวเลว กูลำบาก ผิดที่กู จะไม่ให้อภัยมึงอีก ลำบากก็จะไปไม่มีก็จะไป ทั้งลูกและผัวไม่มีใครอยากให้กูอยู่ตรงนี้ใช่ไหม กูเสียใจมากที่มึงไม่เคยรักกูเลย หลอกกูมาตลอด”


ส่วนศพของนางจิตรา ทางญาตินำร่างไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าคา อ.บางไทร นักข่าวพยายามสอบถาม นางสาวนิสาชล อายุ 31 ปี ลูกสาวของนางจิตรา ผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่า แม่กับพ่อเลี้ยงรักกันมาก เมื่อถามว่าอยากพูดถึงเหตุการณ์นี้อย่างไรบ้าง ลูกชายของนางจิตรา พูดเสริมว่า “มันจบไปแล้ว” จากนั้นลูกสาวของนางจิตรา พูดว่า “ตอนนี้เขาไปทั้งคู่แล้วจบไปเท่านั้นแหละ” ถ้าตนเล่าเรื่องมันยาว


ต่อมา ลูกสาวของนางจิตรา ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. (24 ธ.ค.) นายวสันต์ พ่อเลี้ยง ได้โทรศัพท์มาหาสามีของตนเอง บอกว่าให้มาเก็บปลอกกระสุนปืนด้วย กูยิงแม่มึงตายแล้ว แต่ตอนนั้นตนเองไม่เชื่อและก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งนายวสันต์โทรเข้ามาอีกรอบหนึ่ง แต่สามีตนเองไม่รับเพราะขี้เกียจคุย จนกลับมาที่บ้านพบว่าแม่ถูกยิงเสียชีวิตจริงตามที่พ่อเลี้ยงโทรมาบอก ส่วนสาเหตุเกิดมาจากที่นายวสันต์พ่อเลี้ยงหึงหวงแม่ตนเอง กับสามีตนเองซึ่งเป็นลูกเขย หาว่าไปมีอะไรกัน ส่วนแม่แท้ ๆ ก็หึงตนเองกับพ่อเลี้ยง หาว่าไปมีอะไรกัน จนเป็นชนวนเหตุให้ทั้งคู่ทะเลาะเบาะแว้งกันทุกวัน เพราะความหึงหวงและระแวงคนในบ้านที่คิดกันไปเอง จนถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตีแม่ของตนเอง


จนล่าสุดเมื่อสองวันก่อน แม่กับนายวสันต์ ทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือ จนแม่ไล่นายวสันต์ออกจากบ้าน นายวสันต์ได้กลับไปอยู่ที่บ้านของตนเอง แต่นายวสันต์จะขี่รถวนเวียนมาดูแม่ ซึ่งนายวสันต์คงคิดว่าแม่จะตัดใจเลิกกันจริง จึงกลับมาลงมือก่อเหตุยิงแม่จนเสียชีวิต ตนและคนในครอบครัวหวาดกลัวมาก เพราะนายวสันต์เคยพูดข่มขู่เอาไว้ว่าจะฆ่าทิ้งยกครัว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/nwajKAoa7UY