พบศพสาววัย 30 ปี ถูกแทงหลายแผล คาห้องเช่า เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้าย คาดฝีมือชายคนสนิท

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 13 ธ.ค. 67 ร.ต.อ.กรเทพ จันทรานภาภรณ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกแทงเสียชีวิต เหตุเกิดภายในห้องเช่าครูรงค์ ห้องแถว ตำบลป่างิ้ว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.พจนกร กัญจินะ ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดอ่างทอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธภาค 1 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลอ่างทอง และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ในที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียวหลายคูหา ที่ด้านในห้อง พบศพ นางสาว ปัทมาพร อายุ 30 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณหน้าห้องน้ำ สภาพศพถูกแทงหลายแผล บริเวณลำคอ ที่หน้า ตามลำตัว และที่แขน และพบอาวาธุปมีดปลายแหลม ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ตกอยู่ในอ่างน้ำภายในห้องน้ำ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 2 ชั่วโมง ส่วนภายในห้องมีร่องรอยการต่อสู้ข้าวข้องกระจายพัดลมล้มอยู่ข้างที่นอน หน้าห้องเช่าพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส ล้อด้านหลังซ้ายถูกปล่อยลมยาง

จากการสอบถาม นางสาวปัทมาวดี พี่สาว เล่าให้ฟังว่า ตนเองไม่สามารถติดต่อน้องได้ 2 วันแล้ว ครั้งสุดท้ายคุยโทรศัพท์กับน้องสาวเมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา จึงบอกกับพ่อและแม่ให้มาดูที่ห้องแล้วพบว่าเป็นศพเสียชีวิตแล้ว

ด้าน นาย ธงชัย อายุ 59 ปี เล่าให้ฟังว่า ห้องเช่าดังกล่าว นางสาว ปัทมาพร ลูกสาว ที่เสียชีวิตเช่าอยู่กับน้องสาวสามี และทางสามีและน้องสามีได้ไปทำงานที่จังหวัดชลบุรีหลายวันแล้ว ส่วนลูกสาวนั้นอยู่ห้องเช่าเพียงลำพังได้ประมาณ 2 – 3 วัน แต่ติดต่อไม่ได้จึงมาดูกับภรรยา พบว่าห้องถูกล็อคกุญแจไว้ แต่มองดูที่กระจกนั้นเห็นลูกสาวนอนอยู่ จึงทุบกุญแจเข้าไปดูแทบช็อค พบว่าลูกสาวถูกแทงเสียชีวิตแล้ว ซึ่งปกติลูกสาวทำงานอยู่ที่ออฟฟิสแห่งหนึ่งในตลาดอ่างทอง และพักห้องดังกล่าว ส่วนลูกของลูกสาว 2 คนนั้นอยู่กับพ่อแม่

ทางด้านลุงเปี๊ยก ช่างซ่อมรถวัย 60 ปี ที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า ได้ยินเสียงชายหญิงทะเลาะกันได้ไม่นาน ก็พบว่ามีตำรวจเข้ามาพบว่ามีคนเสียชีวิตแล้ว

แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว คาดว่าเป็นเพื่อนชายคนที่สนิท จะได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทำการติดตามตัวมาสอบสวนขยายผลอย่างเร่งด่วนต่อไป