อาชญากรรม

ปอท. ขยายผลจับมือขวาไฮโซน้ำแข็ง สร้างแอปฯ ปลอมหลอกลงทุนสูญ 23 ล้าน

โดย kanyapak_w

3 ธ.ค. 2567

296 views

(3 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุม ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา กลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเครือข่ายหลอกลงทุนออนไลน์ ไฮบริดสแกม (Hybrid Scam) ตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่ายที่มีหน้าที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คนที่ดูแลเรื่องฟอกเงิน และ คนรับจ้างเปิดบัญชีม้า


เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 13 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร เชียงราย ระยอง ภูเก็ต จับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 13 ราย ดังนี้


1. MS.WANG  หรือ หวัง (สัญชาติจีน) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 768/2567 ลง 11 พ.ย.67 ทำหน้าที่ระดับสั่งการ รับผลประโยชน์


2. น.ส.ทิพวัลย์ฯ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 767/2567 ลงวันที่ 11 พ.ย.67 ทำหน้าที่กลุ่มบริหารจัดการ แปรสภาพทรัพย์สิน

3. นายกิตติคุณฯ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 766/2567 ลงวันที่ 11 พ.ย.67 ทำหน้าที่ระดับสั่งการ รับผลประโยชน์

4. น.ส.อภิญญาฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.447/2567 ลงวันที่ 17 ก.ค.67 ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า

5. นายศุภัชฯ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.448/2567 ลงวันที่ 17 ก.ค.67 ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า

6. น.ส.รักษิณาฯ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.452/2567 ลงวันที่ 17 ก.ค.67 ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า

7. น.ส.บุณฑริกาฯ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.455/2567 ลงวันที่ 17 ก.ค.67 ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า

8. น.ส.ทรายฯ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.456/2567 ลงวันที่ 17 ก.ค.67 ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า

9. นายกรัณภัทรฯ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.459/2567 ลงวันที่ 17 ก.ค.67 ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า

10. น.ส.คณุตราณัฐฯ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.461/2567 ลงวันที่ 17 ก.ค.67 ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า

11. นายบุย (MR.BUI) อายุ 56 ปี สัญชาติเวียดนาม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.465/2567 ลงวันที่ 17 ก.ค.67 ทำหน้าที่เปิดกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลรับโอนผลประโยชน์

12. นายหวัง (MR.WANG) อายุ 32 ปี สัญชาติสิงคโปร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.468/2567 ลงวันที่ 17 ก.ค.67 ทำหน้าที่เปิดกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลรับโอนผลประโยชน์

13. น.ส.มยุเรศฯ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.472/2567 ลงวันที่ 17 ก.ค.67  ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า


เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ใด้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”


พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงให้ลงทุน โดยมีการโพสต์ข้อความสาธารณะลักษณะชักชวนให้เข้าไปลงทุนในเงินสกุลดิจิทัล (Cryptocurrency) ผ่านเว็บไซต์ชื่อ Tidex ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ปลอมขึ้นมาทั้งหมด


โดยเสนอให้ผลตอบแทนสูง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปลงทุน โดยผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มคนร้าย จำนวน 17 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 22.4 ล้านบาท ต่อมาพบว่าไม่มีการลงทุนจริง


เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. จึงได้ประสานข้อมูลการรับแจ้งมายังศูนย์ AOC พบว่ามีผู้เสียหายหลงเชื่อและทำการโอนเงินเพื่อลงทุนตามประกาศโฆษณาในเพจดังกล่าว และได้รับความเสียหายหลายราย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าปัจจุบันเว็บไซต์ปลอมได้ปิดเว็บไซต์ไปแล้ว


เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. ร่วมกับ อสส. และ ปปง. ทำการสืบสวนเส้นทางการเงิน และเส้นทางของเหรียญดิจิทัล จนทราบตัวผู้กระทำความผิด จึงเปิดปฎิบัติการ “Lock Star รวบนักธุรกิจเบื้องหลังเครือข่าย Call Center” สามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเครือข่ายหลอกลงทุนออนไลน์ ไฮบริดสแกม (Hybrid Scam) ตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่ายที่มีหน้าที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และคนที่ดูแลเรื่องฟอกเงิน เป็นชาวจีนและชาวไทย จำนวน 6 ราย และสามารถตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ เป็นของมีค่าจำนวนหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท  



จากการขยายผลตรวจสอบข้อมูลพบบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายพบผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ โดยสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการเป็นชาวต่างชาติและชาวไทย ซึ่งเป็นกลุ่มระดับสั่งการ, ผู้บริหารดูแลเรื่องฟอกเงิน รับผลประโยชน์ และ คนรับจ้างเปิดบัญชีม้า สรุปแล้วรวมทั้งสอง season สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งสิ้นจำนวน 19 ราย ประกอบด้วยชาวจีน 3 ราย ชาวเวียดนาม 1 ราย ชาวสิงคโปร์ 1 ราย และชาวไทย 14 ราย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



จากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุม ตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ เป็นของมีค่าจำนวนหลายรายการ อาทิเช่น บ้านหรู จำนวน 1 หลัง มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท, รถยนต์ จำนวน 2 คัน มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท, โฉนดที่ดิน จำนวน 4 ใบ มูลค่ากว่า 9 แสนบาท  และ หุ้น ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท รวมมูลทรัพย์สินทั้งหมดค่ากว่า 14 ล้านบาท



คุณอาจสนใจ

Related News