อาชญากรรม
วิสามัญ 'ไอ้ยุทธ' มือยิงประธานสภา อบต. พ่อรับลูกเป็นภัยสังคม เชื่อหลอนยา ทั้งค้า ทั้งเสพ
โดย passamon_a
3 ธ.ค. 2567
70 views
วิสามัญ มือปืนยิงประธานสภา อบต. หลังเปิดฉากยิงเข้าใส่ จนท. ค้นรถเจอกระสุนปืนอาก้าและปลอกกระสุนเอ็ม 16 พร้อมอุปกรณ์การเสพยา ส่วนระเบิดคาดนำติดตัวไปด้วย ด้านพ่อไอ้ยุทธ ยอมรับลูกชาย ทั้งค้า ทั้งเสพ เชื่อหลอนยา
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด จ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 56 ปี ประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนขับรถเก๋งหลบหนีไป เหตุเกิดที่หน้าบ้านพัก เมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.คุรุพงษ์ แก้วสะอาด ผู้กำกับ สภ.โพนสวรรค์ เผยว่า หลังเกิดเหตุได้ประสานตำรวจ พฐ. ตรวจเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวน เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด หลังคนร้ายขับรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ก่อเหตุแล้วใช้เส้นทางหลบหนี พร้อมสอบพยานไปแล้วหลายปาก จนรู้ตัวคนร้ายรายนี้ ทราบชื่อคือนายยุทธพล หรือยุทธ หมอกต้ายซ้าย อายุ 49 ปี ตรวจสอบเบื้องต้นน่าจะไม่มีเรื่องขัดแย้งกันอะไรมาก่อน เพราะเรียกแล้วจ่อยิง แต่มีนิสัยอันธพาลเกเร หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจ่อยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยังได้ปิดโทรศัพท์มือถือ จึงประสานตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 เร่งล่า คาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้
ในเวลาต่อมา มีชาวบ้านพบรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ด้านหน้าไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ส่วนด้านหลังติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข กต 5733 นครพนม จอดอยู่ริมถนนหน้าโรงเรียน บ้านศาลาดินห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น โดยได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบคาดว่าคนขับหลับในแล้วหลบหนีไป ภายหลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและทำการตรวจค้นภายในรถพบกระสุนปืนอาก้าและปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 พร้อมทั้งอุปกรณ์เสพยาเสพติด ต่อมาทราบว่าเป็นรถยนต์ของนายยุทธพลมือปืนที่ก่อเหตุ แล้วใช้รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวหลบหนีออกจากพื้นที่
มีภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. วานนี้ (2 ธ.ค.) โดยจะเห็นนายยุทธผู้ก่อเหตุได้เดินไปตามถนนผ่านหน้าโรงเรียนศาลาดินห้วยเตย ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น โดยมีการสวมแจ็คเก็ตปิดบังอาวุธไว้ และมีการนำปืนอาก้าซุกไว้ในเสื้อคลุม ซึ่งนายยุทธได้เดินไปตามถนนและได้เอามือกุมท้องตลอดเวลา ซึ่งจุดดังกล่าวในกล้องวงจรปิดเป็นจุดที่ห่างจากจุดจอดรถนายยุทธไปไม่ไกล เนื่องจากไปต่อไม่ได้เพราะแบตเตอรี่รถหมด
จากการสังเกตพบว่าบริเวณหลังคนร้ายคล้ายกับมีเป้ที่ซ่อนไว้ในเสื้อมีลักษณะหลังตุง ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจจะเป็นปืนและระเบิดตามที่มีการรายงานก่อนหน้านี้
พันตำรวจเอก พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปูพรหมเดินค้นหา กระทั่งพบตัวนายนายยุทธพลอยู่ภายในป่ามันบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่รถจอดอยู่ ซึ่งได้มีการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้นายยุทธพลมอบตัว แต่ไม่เป็นผลนายยุทธพลได้หลบหนีต่อไปอีก คาดว่ามุ่งหน้าเข้าพื้นที่อำเภอเขาสวนกวางซึ่งอยู่ติดกัน แต่เนื่องจากลักษณะของพื้นที่เป็นพื้นที่ป่ามันและไร่อ้อย อีกทั้งจากข้อมูลของทางตำรวจทราบว่า นายยุทธพลมีอาวุธปืนและระเบิดอยู่ในมือ จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการติดตามตัวเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะ
ต่อมาเวลา 15.30 น. กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมนายยุทธพล โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำโดรนจับความร้อนขึ้นค้นหา ซึ่งยังพบว่าหลบหนีอยู่ในพื้นที่ แต่เนื่องจากพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยในการเข้าไปพร้อมทั้งนายยุทธพล มีอาวุธครบมือ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมและกระชับพื้นที่เข้าเรื่อยๆ เพื่อวางแผนหาจังหวะเข้าจับกุม โดยทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ใครผ่านเข้าออกเส้นทางดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย พร้อมกันไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและชาวบ้านเข้ามาใกล้ในรัศมีที่มีการปิดล้อม
นายเพชรมณี สิงสุธรรม อายุ 62 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.ศรีสุขสำราญ เล่าเหตุการณ์ว่า เวลาประมาณ 6 โมงเช้า ตนเองขับรถออกมาจากบ้านเพื่อจะมาเปลี่ยนเวร โดยมาตามเส้นทางผ่านหน้าโรงเรียน และพบรถเก๋งสีขาวจอดลักษณะแปลกๆ โดยหน้ารถเหมือนเฉียงพุ่งเสียบลงข้างทางและท้ายรถโผล่ออกมาถนน และคนร้ายรายนี้เป็นคนเดียวกัน ซึ่งมีข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่นครพนมส่งมาให้ ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน ขณะนั้นที่ตนเองขับผ่านมา มีชาวบ้านจะไปทำงานกวักมือเรียกตนเอง ถามว่าได้พาคนป่วยไป รพ.หรือไม่ ตนเองก็บอกว่าไม่ได้พาไป จึงไปส่องดูในรถเห็นแต่ขนมปี๊บและขนมห่อ ไม่มีคนอยู่
ตอนนั้นยังไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ จึงขับรถไปต่อ เห็นชายดังกล่าวใส่เสื้อยีนสีขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบสีขาว สวมหมวกไอ้โม่งสีน้ำตาล ลักษณะนิ่งๆ ตนเองจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบรถ และพบลูกกระสุนปืน โดนทางลานมันโทรมาบอกว่ามีคนแปลกหน้าเดินที่ข้างถนน และมีชาวบ้านที่เห็นรถคันนี้มาจอดตั้งแต่ตี 2 ที่ผ่านมา จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นาย เมื่อพบนายยุทธพล ก็เห็นเดินเฉยๆ ลักษณะเหมือนคนเบลอ และเห็นปืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสอบถาม แต่ชายดังกล่าวบอก อย่าเข้ามากูมีปืน ตำรวจก็บอกว่าไม่ได้มาจับจะมาถามว่าใช่รถคุณไหม แต่ชายดังกล่าวไม่พูด ก้มลงเอากุญแจรถให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จังหวะนั้นมองเห็นแมกกาซีนปืนอาก้าข้างลำตัว และคาดว่ามีระเบิดใส่ถุงยัดกระเป๋าเสื้อยีนไว้ ตำรวจจึงบอกให้ถอยแล้วรายงานเรียกกำลังเสริม ซึ่งขณะนั้นมีการส่งข้อมูลมาพอดีโดยระบุว่ามีปืนและระเบิดติดตัวไปด้วย
ในขณะที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าคนร้ายได้จับคนขับรถซาเล้งตัวประกันนั้น นางหนูเรียบ นาหัวดง น้องสาว คนขับรถซาเล้งบอกว่า คนขับรถซาเล้งคือพี่ชายของตนเองชื่อว่านายแวว แต่คนร้ายไม่ได้จับเป็นตัวประกันเพียงแต่ขอขึ้นรถ แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปไปลงที่ไหน ในขณะที่นั่งอยู่บนรถนายแววก็ได้สอบถามคนร้ายว่า กินข้าวมาหรือยัง ตามประสาคนอีสาน แต่คนร้ายนั้นก็ไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะลงจากรถไป แล้วหนีหายเข้าไปในป่า
กระทั่งเวลาเวลา 16.43 น. เจ้าหน้าที่ตัดสินใจวิสามัญนายยุทพล ผู้ก่อเหตุ เนื่องจากเกิดการยิงประทะกันเกิดขึ้น โดยมีคลิปขณะที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 5-6 นัด แล้วเงียบไป จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ทันที โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่แต่อย่างใด
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในจุดที่มีการวิสามัญ ทราบว่า ทางด้านมือปืนได้เปิดฉากยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ก่อนหนึ่งนัด ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตอบโต้ทำการวิสามัญในป่าอ้อย เบื้องต้นไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงนายยุทธพล เสียชีวิตจากเหตุการณ์เท่านั้น
ด้าน นายคำปาง เทพขาม อายุ 57 ส.อบต.ศรีสุขสำราญ เผยว่า ตนเองเห็นคนร้ายรายนี้ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปขอตรวจสอบตั้งแต่ช่วงเช้า แต่พบว่าคนร้ายมีอาวุธปืนจึงพากันถอยออกมาโดยคนร้าย ได้เดินหลบหนีเข้าไปในป่าอ้อยซึ่งตนเองและเจ้าหน้าที่ไม่กล้าที่จะตามไปเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากอาวุธปืนที่คนร้ายมี ซึ่งในช่วงที่เห็นนั้นพบว่าคนร้ายมีบางอย่างอยู่ที่หลังคล้ายกับปืน และกระทั่งได้ข้อมูลจากทางจังหวัด นครพนมซึ่งยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ยิงประธานสภาอบต. กระทั่งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 5-6 นัดก่อนจะทราบว่าคนร้ายถูกวิสามัญแล้ว
จากนั้นเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่แพทย์เวร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าพื้นที่ในป่าอ้อยเพื่อร่วมกันชันสูตรตามขั้นตอน ก่อนจะนำศพของนายยุพลขึ้นรถกู้ชีพส่งโรงพยาบาลอุบลรัตน์เพื่อทำการชันสูตรอย่างละเอียดตามขั้นตอนอีกครั้ง ก่อนติดต่อญาติรับศพนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาบ้านเกิดในจังหวัดนครพนม
ด้านพล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้าถึงตัวผู้ก่อเหตุหลายครั้ง และเรียกเกลี้ยกล่อมคนร้ายให้มอบตัวตั้งแต่เช้า แต่ถูกคนร้ายยิงสวนเพื่อเบิกทางมาตลอด จนกระทั่งเวลา 16.43 น. เจ้าหน้าที่พยายามเจรจากับคนร้ายแต่ก็ไม่เป็นผล คนร้ายยังคงยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ไม่ยอมมอบตัว ซึ่งก่อนหน้านี้คนร้ายได้โทรกลับไปหาญาติที่บ้านบอกว่าจะไม่ยอม ไม่ให้ตำรวจจับตัวได้ กระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีการวิสามัญ
จากการตรวจสอบพบประวัตินานยุทธพล ก่อนหน้านี้เคยถูกจับในคดีต่อสู้ขัดขวาง เจ้าพนักงานเมื่อปี 2552 ใช้อาวุธปืน พร้อมกับมีวัตถุระเบิดอยู่ด้วย ต่อมาในปี 2562 ถูกจับในข้อหาครอบครองยาเสพติด ในระหว่างที่ถูกจับนั้นก็มีวัตถุระเบิดอยู่ด้วย กระทั่งมาก่อเหตุยิงประธานสภา อบต.โพนจาน และต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จนถูกวิสามัญดังกล่าว
ขณะเดียวกันที่ จ.นครพนม ทางด้านนายท่อน อายุ 85 ปี พ่อคนก่อเหตุ ยอมรับว่า ลูกชายเป็นภัยสังคม ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เป็นลูกชายคนที่ 5 ในจำนวนทั้งหมด 6 คน เคยมีครอบครัว แต่อย่าร้าง ล่าสุดทราบว่าไปมีภรรยาชาวลาว จะเดินทางไปมาหาสู่กันประจำ ยืนยันมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งเสพทั้งค้า คนในครอบครัวไม่สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้ เพราะเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่ชอบให้ใครมาต่อว่า แต่ปกติจะอาศัยอยู่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน ไม่สุงสิงใคร ไม่เคยมีประวัติก่อเหตุทำร้ายใคร และเป็นคนก้าวร้าว กับคนเจ็บ ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน รักใคร่คุ้นเคย ทักทายกันประจำ เหมือนพี่กับน้อง เชื่อว่าสาเหตุที่ยิง ประธานสภา หรือนายวินัย มาจากการหลอนยา เสพยาจนหลอน อาจคิดว่า จะมีคนมาทำร้าย ยอมทำใจ มอบให้เป็นไปตามกฎหมาย แล้วแต่ตำรวจจะดำเนินการ
ด้าน นางใส มณีรัตน์ อายุ 60 ปี ภรรยา ประธานสภาคนเจ็บ หลังทราบข่าวว่านายยุทธพล คนร้ายถูกวิสามัญนั้น เผยว่า ขออโหสิกรรม เพราะเข้าใจหัวอก พ่อแม่คนก่อเหตุไม่อยากให้เกิด แต่เป็นเหตุที่ไม่คาดคิด สามีรอดชีวิตมาได้ถือว่าดีใจแล้ว ซึ่งล่าสุดขณะนี้สามีอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลแพทย์ใกล้ชิด
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Am7narqscZg
แท็กที่เกี่ยวข้อง วิสามัญคนร้าย ,จ่อยิง ,ขอนแก่น ,นครพนม ,ประธานสภา อบต.