ปิดคดี 'สามารถ' ยิง 3 ศพหนองบัวลำภู ขอมอบตัวหลังหนีเข้าป่า อ้างกลัวผี หวั่นโดนวิสามัญ

จับแล้ว! นายสามารถ ผู้ต้องหายิง 3 ศพ จ.หนองบัวลำภู หลังหลบหนีเข้าป่า ติดต่อของมอบตัวกลัวโดนวิสามัญ หลังตำรวจล้อมจับ 32 ชั่วโมง คุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ศรีบุญเรือง เผยชนวนเหตุคับแค้นใจ 2 พ่อลูก แจ้งความนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินหมื่น และถูกนายถาวร เหยียดหยาม อ้างอารมณ์ชั่ววูบ ขาดสติ ยอมรับผิดขอโทษครอบครัวผู้ตาย

จากกรณีนายสามารถ หรือ มัง อายุ 57 ปี ควงปืน 9 ม.ม. บุกยิงนายปรีชา เพื่อนบ้าน และลูกสาว ถึงในบ้านพัก ที่บ้านฝายหิน ต.โนนม่วง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจะไปเคลียร์เรื่องที่ตัวเองถูกแจ้งความ เพราะนำบัตรเอทีเอ็มของนายปรีชา ไปกดเงินผู้พิการแล้วแอบกดเงินหมื่นออกไปใช้โดยไม่บอก แต่เคลียร์กันไม่ลงตัว จึงก่อเหตุ

จากนั้นได้ขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านของนายปรีชา ประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อไปยิงนายถาวร ซึ่งเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ที่กำลังกวาดถนนให้พระเดินบิณฑบาต เสียชีวิตอีก 1 ศพ จากนั้นได้ขี่รถหนีไปพื้นที่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ก่อนจะหายตัวไป

เช้าวานนี้ (28 พ.ย.) ตำรวจลงพื้นที่ไปที่บ้านของนายสามารถ เพื่อตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยมีนายสนิท พี่ชายนายสามารถพาตรวจค้นโดยพบกล่องใส่ปืน 1 กล่อง และปืนปลอมจำนวนหนึ่ง ซึ่งนายสนิท บอกกับนักข่าวสั้น ๆ ว่า ที่น้องตัดสินใจก่อเหตุ คงเหลืออดที่ถูกเอาเรื่องไปพูดเหมือนถูกประจาน ก็อยากให้น้องมอบตัว

หลังจากตำรวจกดดันอย่างหนัก ท้ายที่สุด นายสามารถ ก็ตัดสินใจยอมมอบตัว โดยช่วงสายเวลาประมาณ 10 โมง เริ่มเปิดโทรศัพท์ติดต่อหานางมะลิ ภรรยาคนแรกที่อยู่กรุงเทพฯ จากนั้นโทรหานางจุ๋ม ภรรยาทุกคนที่ 2 ที่อยู่ที่บ้าน ตะเคียนทอง และโทรหาลูกชาย ที่อำเภอบ้านดุง จ.อุดรฯ และโทรหานางนาง ซึ่งเป็น อบต. โดยทุกสายที่โทรไปหา พูดถึงเรื่องของการมอบตัว "หิวข้าวหิวน้ำ" หลังหนีเข้าป่าข้ามคืน

โดยเจ้าหน้าที่รับปากจะไปรับ พร้อมกับอาหาร ในขณะที่ผู้ก่อเหตุรับปากเลิกใช้อาวุธ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ที่ประสานงาน ระบุว่า นายสามารถ หิวข้าว และตัดสินใจจะลงมาตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. แต่หมดแรง โดยตำรวจจะเดินทางไปรับตัวนายสามารถลงมา พร้อมกับนำอาหารไปให้ แต่ขอให้นายสารถ ถอดเสื้อ รอเจ้าหน้าที่ไปรับ    

นอกจากนี้นายสามารถกำลังเดินลงจากเขาได้พูดคุยกับนางประมวล แม่ดองที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี นางประมวล ถามว่าตอนนี้อยู่ไหน ตอนแรกนายสามารถ รับสายแต่ไม่พูด ก็เรียกพ่อมังๆ จากนั้นก็ตัดสายไป นางประมวลจึงโทรแมสเชนเจอร์ไปใหม่ นายสามารถ ก็ตอบว่า ว่าไง นางประมวล ก็ถามว่า ลงมาเด้อพ่อ จะพาลูกๆ ไปหานะ จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ไปให้นายปั้ง (ลูกชายนายสามารถ) พูดด้วย โดยบอกว่าพ่อมังคุยกับลูกชายหน่อย นายปั้ง ก็ถามลูกชายว่า มอบตัวหรือยังพ่อ ปลายสายก็บอกว่าพ่อกำลังเดินลงจากเขาไปมอบตัว ตร.กำลังเดินทางมา จากนั้นปลายสายนายสามารถ ก็คุยกับลูกชายว่า พ่อไม่อยากคุยกับปั้ง พ่อฮักปั้งแฮง ถ้าพูดกับปั้งแล้วพ่อจะร้องไห้ จากนั้นนายสามารถ ก็ร้องไห้เสียงดังปล่อยโฮออกมาดังๆ พ่อฮักลูกแฮง ลูกไม่สนใจพ่อ นายปั้งก็บอกว่า ผมรักพ่ออยู่ แล้วก็ตัดสายไป

นายปั้ง ลูกชายของนายสามารถ เผยว่า ดีใจมากที่พ่อไม่คิดสั้น มอบตัวกับตำรวจ ในฐานะเป็นลูกก็รักพ่อ ตอนนี้ยอมรับจิตใจว้าวุ่นทั้งใจหายและดีใจ เป็นห่วงพ่อจะรีบเดินทางไปหาพ่อ หากเจอพ่ออยากจะขอโทษพ่อในฐานะลูกที่ดูแลพ่อไม่ดีตามที่พ่อต้องการ จากนั้นครอบครัวของนายปั้ง พร้อมภรรยา พ่อดองแม่ดองได้เก็บเสื้อผ้าออกจากบ้าน ขนของขึ้นรถเดินทางไปหานายสามารถ ที่ สภ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ทันที

ต่อมาตำรวจ สภ.นากลาง เข้าควบคุมตัวนายสามารถ หรือมัง ซึ่งได้ติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไปที่จุดนัดพบที่บริเวณบ้านนาสำราญ อ.ศรีบุญเรือง ห่างจาก ภูกระโจมที่ นายสามารถไปหลบซ่อนอยู่ ระยะทางประมาณ 500 เมตร โดยนายสามารถ อยู่ในสภาพอิดโรย ไม่ได้ใส่เสื้อ สวมแต่กางเกงขายาว สีดำ จึงคุมตัวมาสวมใส่กุญแจมือ พร้อมกับอ่านหมายศาล แจ้งข้อกล่าวหา ก่อนจะตรวจค้นทรัพย์สินพบอาวุธปืน โทรศัพท์ เสื้อ และขวดน้ำ ซึ่งคาดว่านายสามารถได้เตรียมการเอาไว้ ก่อนที่จะลงมือยิงเพื่อนบ้าน

จากนั้นตำรวจได้คุมตัวนายสามารถ พร้อมของกลางไปสอบสวนที่ สภ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู โดยมี พล.ต.ต.เนติพงศ์ ธาตุทำเล รอง ผบช.ภ.4 นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู พร้อมทีมชุดจับกุมแถลงข่าว ปฎิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังกว่า 500 นาย ใช้เวลาตามล่าตัวนายสามารถถึง 32 ชั่วโมง จนสามารถจับกุมตัวได้ ก่อนจะคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย  โดยผู้ต้องหายินยอมที่จะเปิดเผยและให้สอบถาม

นายสามารถ ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า สาเหตุที่ต้องลงมือยิง 3 ศพนั้น มาจากเรื่องในวันที่ก่อเหตุ มีการนัดเจรจากันเรื่องที่ตนนำบัตรเอทีเอ็มของเพื่อนบ้านกดเงินสวัสดิการคนพิการ 1 หมื่นบาท แต่ด้วยอารมณ์ที่ชั่ววูบและขาดสติ จึงใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ก่อเหตุยิงทั้ง 3 คนจนเสียชีวิต จากนั้นขี่รถ จยย.หลบหนีขึ้นไปที่ภูกระโจม

นายสามารถ เผยอีกว่า หลังจากที่ตนสังหาร 2 พ่อลูกที่บ้านตะเคียนทอง ตนตั้งใจขี่รถ จยย. หนี ปรากฏว่ามาพบนายถาวร กำลังกวาดถนนอยู่ และนายถาวร ซึ่งเป็น ชรบ. ร้องว่าบักบ่ฮู้กฎหมาย โดยพูดเป็นภาษาอีสานว่า “บักบ่ฮู้กฎหมาย” ตนรู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยาม ยอมรับว่าทะเลาะผิดใจกันมาระยะหนึ่งแล้ว จึงทำให้เกิดความแค้นใจไปจอดรถ จยย.ไว้ที่ปั๊มน้ำมันแล้วเดินกลับมายิงนายถาวร ก่อนจะกลับไปขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

นายสามารถ กล่าวอีกว่า ตนเองขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปหลบในป่า ไปขอข้าวเหนียวมาปั้นหนึ่งแบ่งกินพออยู่ได้ เก็บพุทรา เก็บถั่วกิน พอประทังชีวิต จากนั้นจึงเปิดโทรศัพท์โทรหาแฟนเพื่อจะมอบตัว คิดว่าหนีกฎหมายไม่ได้หรอก พอตำรวจโทรหาผมก็รับและตัดสินใจออกมา ช่วงที่อยู่ เวลาเห็นคนมาจะหลบ ปกติเป็นคนกลัวผี ส่วนอาวุธปืนซื้อมาในราคา 35,000 บาท เป็นปืน Sig Sauer ซื้อมาได้ประมาณ 2 อาทิตย์ เป็นปืนมีทะเบียน

และอยากมอบตัวกับตำรวจตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. เพราะกลัวถูกวิสามัญ จึงติดต่อไปภรรยาให้ประสานตำรวจมารับตัว แต่ที่ไม่ออกมาเพราะหลงป่าหาทางออกไม่ได้ จึงให้ตำรวจมารับตัว และยอมรับผิดและอยากขอโทษไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนด้วย ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงชนวนเหตุเพิ่มเติม แต่ตำรวจไม่อนุญาตให้สอบถามลงลึก เป็นการพูดฝ่ายเดียวของผู้ต้องหา เนื่องจากอีกฝ่ายหนึ่งเสียชีวิตแล้วไม่อาจต่อปากคำตรงนี้ได้ให้อยู่ในชั้นสอบสวน

จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายสามารถ ลงมาจากชั้น 3 เพื่อนำตัวเข้าห้องขังชั้นล่าง เบื้องต้นแจ้ง 4 ข้อหา คือ ฆ่าคนตายโดยเจตนา / มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต / พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในทางสาธารณะ ในชุมชนหมู่บ้าน โดยไม่มีสาเหตุ / ยิงปืนในที่สาธารณะ และชุมชน โดยไม่มีสาเหตุ

ขณะที่นางจุ๋ม ภรรยานายสามารถ หลังทราบเรื่องได้เดินทางมาที่โรงพัก พบมีอาการเครียด และร้องไห้ตลอดเวลา เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถาม ถึงนิสัยนายสามารถ รวมถึงพฤติกรรมการชอบสะสมปืน และที่นายสามารถบอกว่า อยากฆ่าตัวตายจากเรื่องอะไร รวมถึงนางจุ๋มอยากจะฝากอะไรถึงญาติผู้เสียชีวิตหรือไม่ นางจุ๋ม บอกเพียงสั้น ๆ ว่าไม่รู้ๆ ก่อนจะก้มหน้าร้องไห้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/PMiFOsnC9h8