เปิดชนวนเหตุคลั่งยิง 3 ศพ ตร.เร่งล่า โทรหาเมีย ขอเคลียร์อีกคนก่อน ลูกชายวอนพ่อมอบตัว

ตำรวจระดมไล่ล่าคนร้ายยิง 3 ศพ ที่หนองบัวลำภู เปิดชนวนเหตุ ลูกชายวอนพ่อมอบตัว ผวาโพสต์ขู่ฆ่ายกครัว


เมื่อวันที่ 27 พ.ย.67 ตำรวจ สภ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต 3 ราย เหตุเกิดที่บ้านตะเคียงทอง หมู่ 2 ต.โนนม่วง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู


เจ้าหน้าที่เร่งนำกำลังลงที่เกิดเหตุ พบศพ นายปรีชา อายุ 54 ปี ถูกยิงที่ลำตัวและศีรษะ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ส่วน นางสาววชินี อายุ 28 ปี ลูกสาวของนายปรีชา ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ บาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นศพที่สอง ศพที่สามคือ นายถาวร อายุ 66 ปี นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนนในหมู่บ้านฝายหิน ที่อยู่ห่างจากบ้านตะเคียนทองไปประมาณ 2 กิโลเมตร


ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสามารถ อายุ 58 ปี หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปยังพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู, อ.เอราวัณ และ อ.ผาขาว จ.เลย ตำรวจ สภ.ศรีบุญเรือง เร่งประสาน สภ.เอราวัณ และ สภ.ใกล้เคียง เร่งสกัดจับ เพราะเป็นบุคคลอันตราย


จากการสอบถาม น้องสาวของนายปรีชา ทราบว่า ช่วงเช้า เวลาประมาณ 06.20 น. นายสามารถ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านและเป็นเพื่อนของนายปรีชา ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้านนายปรีชา เพื่อเคลียร์ปัญหากัน เพราะก่อนหน้านี้ นายสามารถเอาบัตรเอทีเอ็มของนายปรีชา ไปกดเงินคนพิการมาให้เพื่อน เนื่องจากนายปรีชาเดินเหินไม่ค่อยสะดวก แต่ตอนที่ไปกดเงิน นายสามารถเห็นว่านายปรีชามีเงิน 10,000 บาทด้วย นายสามารถ ผู้ก่อเหตุ เลยแอบกดเงินทั้งหมดของนายปรีชาไปใช้ พอนายปรีชามาทราบภายหลังว่าเงินหายไปจากบัญชี ก็ไปสอบถามนายสามารถ แต่นายสามารถกลับบอกไม่รู้ไม่เห็น นายปรีชาจึงไปแจ้งความที่ สภ.ศรีบุญเรือง โดยตำรวจนัดไปเคลียร์กันวันที่ 27 พ.ย.67 เวลา 10.00 น. แต่นายสามารถมาขอเคลียร์ก่อนตั้งแต่เช้า แต่เคลียร์กันไม่ได้และมีปากเสียงกัน เลยยิงนายปรีชากับลูกสาวเสียชีวิต แถมยังหันปากกระบอกปืนมาหาน้องสาวของนายปรีชา และบอกว่าจะฆ่าให้ตาย ทำให้น้องสาวของนายปรีชาต้องรีบวิ่งเข้าบ้านปิดประตู จนนายสามารถขี่รถออกไปจากบ้าน จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่  


ปรากฏว่า หลังจากยิงสองพ่อลูกแล้ว ต่อมาเวลาประมาณ 06.30 น. นายสามารถก็ไปที่บ้านหัวฝาย เพื่อไปยิงนายถาวร ซึ่งเป็น ชรบ.หมู่บ้าน ขณะที่นายถาวรกำลังกวาดถนนให้พระเดินบิณฑบาต จุดนี้มีกล้องวงจรปิดจับภาพขณะที่นายถาวร สวมเสื้อสีขาว กำลังกวาดถนนอยู่ จากนั้นนายสามารถ สวมเสื้อสีดำ ก็เดินข้ามถนนไปหาแล้วชักปืนจ่อยิง จนนายถาวรล้มลง แล้วยังยิงใส่อีก 2 นัด รวมเป็น 3 นัด ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ขี่หลบหนีไป


ส่วนสาเหตุที่นายสามารถ มายิงนายถาวร ที่อยู่คนละหมู่บ้านกัน เพราะว่า ก่อนหน้านี้นายถาวรที่เป็น ชรบ.หมู่บ้าน เคยไปยึดทรัพย์ของนายสามารถ ที่รับซื้อของโจรมา ทำให้นายสามารถโกรธแค้น แล้วยังย้ำไฟแค้นขึ้นไปอีก เมื่อนายถาวรเป็นคนพานายปรีชา ไปแจ้งความเรื่องนายสามารถแอบกดเงินหมื่นไปใช้  


ลูกสาวของนายถาวร ที่อยู่ในเหตุการณ์ และยืนห่างจากพ่อประมาณ 5 เมตร บอกว่า ปกติพ่อตนจะมากวาดถนนกลางหมู่บ้านทุกวัน เพื่อให้พระเดินบิณฑบาต กระทั่งวันเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุขี่รถมาจอดที่ปั๊มน้ำมัน ห่างจากจุดที่พ่อของตนยืนกวาดถนน ประมาณ 50 เมตร แล้วเดินมาหา จ่อยิงทันทีโดยไม่พูดไม่จา นัดแรกกระสุนเข้าที่ตัว พ่อล้มลง ผู้ก่อเหตุตามเข้าไปยิงจ่อที่ศีรษะอีก 2 นัด ก่อนจะวิ่งหนีกลับไปขึ้นรถจักรยานยนต์และขับหนีไป ตนตกใจร้องให้คนช่วย และมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์หลายคน เพราะกำลังรอใส่บาตร  


ในขณะที่ นางจุ๋ม ภรรยาของผู้ก่อเหตุ บอกว่า หลังจากเกิดเหตุ สามีโทรมาหาตน เวลาประมาณ 08.00 น. บอกว่าไปยิงเพื่อนบ้านตาย 3 ศพ และบอกว่าแค้นที่ผู้ตายไปแจ้งความดำเนินคดีปมเงินหมื่น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคลียร์กันรู้เรื่องแล้วว่าจะคืนเงินให้ แต่น้องสาวของนายปรีชา ที่ชื่อ นางเล็ก มายุยง ทำให้เรื่องไม่จบ ส่วนที่ยิงนายถาวร เพราะนอกจากจะมายึดของที่นายสามารถไปรับซื้อของเก่าแล้ว ยังเป็นคนพานายปรีชาไปแจ้งความ ทำให้นายสามารถโกรธมาก


นางจุ๋ม ยังบอกด้วยว่า สามีบอกกับตนว่า จะมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ แต่จะขอไปเจอและไปเคลียร์กับนางเล็กก่อน เพราะมีปัญหาเรื่องเงินทองเหมือนกัน ถ้าเคลียร์เสร็จแล้ว จะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ทันที ซึ่งตอนเกิดเหตุ นางเล็กไม่อยู่บ้าน ไปลำหมอลำอยู่พื้นที่อื่น เลยรอดตาย  


นางจุ๋ม บอกว่า เชื่อว่าหากสามีไม่มอบตัว ก็อาจจะคิดสั้นจบชีวิตไปเลย เพราะตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว ลูกก็ไม่มาดูแล และยืนยันว่าสามีไม่ได้เสพยา ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่


หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.ศรีบุญเรือง สนธิกำลังกับ สภ.เอราวัณ กระจายกันตามล่าตัวนายสามารถ เพราะผู้ก่อเหตุมีปืน รวมทั้งมีข้อมูลว่า เป็นคนชอบสะสมปืน มีอาวุธปืนหลายกระบอก โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เจอนายสามารถขี่รถผ่านไปทางวัดภูคำเป้ บ้านห้วยป่าน ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย ซึ่งเป็นรอยต่อกับ อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู และ อ.เอราวัณ อ.ผาขาว จ.เลย จึงนำกำลังมาที่วัด แต่ไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ


สอบถาม นางปาย อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นแม่ครัวในวัด เล่าว่า ขณะนั่งอยู่ในโรงครัว เห็นชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในโรงครัวสภาพอิดโรย มาขอข้าวกิน จึงให้นั่งกินข้าวอยู่ภายในโรงครัว ชายคนดังกล่าวรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จก็ไปล้างมือที่ก๊อกน้ำ แล้วเดินเข้าป่าหายไป จนมาทราบภายหลังว่า ชายคนดังกล่าวเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิตมา 3 ศพ


ต่อมา เวลา 14.00 น. ตำรวจพบเบาะแสนายสามารถ วกกลับเข้ามาในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู โดยมีชาวบ้าน 2 ราย ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุเข้าไปขอน้ำดื่มในที่พักสงฆ์ ใกล้ภูกระแต พื้นที่ ต.โนนเมือง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู อีกทั้งตรวจสอบ GPS โทรศัพท์ของผู้ก่อเหตุ ก็พบสัญญาณโทรศัพท์ที่บริเวณนี้ 2 ครั้ง คือโทรครั้งแรกเวลาประมาณ 08.00 น. ครั้งที่สองโทรเวลาประมาณ 10.00 น. โทรไปหาเพื่อนสนิท ดังนั้นจึงคาดว่านายสามารถ น่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ใกล้กับที่พักสงฆ์แห่งนี้ เพราะเป็นสวนป่าและไร่อ้อย ที่มีพื้นที่กว้างนับร้อยไร่ เจ้าหน้าที่จึงตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามเส้นทางที่คาดว่าจะใช้หลบหนี รวมทั้งใช้โดรนตรวจสอบพื้นที่น่าสงสัย บินค้นหาทางอากาศ ส่วนทางพื้นราบ ใช้กำลังตำรวจ และชุด ชรบ.กว่า 400 นาย เดินค้นหา


นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัย ยังสั่งปิดโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็กฯ ในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด ส่งเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าระวังตามโรงเรียนต่าง ๆ ด้วย  


ขณะที่ในเวลา 15.00 น. ศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ออกหมายจับนายสามารถ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และพกพาอาวุธไปในเมือง หรือหมู่บ้านฯ โดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือชุมชน


ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า นายสามารถ นอกจากมีอาชีพซ่อมรถจักรยานยนต์แล้ว ยังมีอาชีพรับจำนำปืน มีปืนที่คนเอามาจำนำไว้หลายกระบอก ปืนที่ใช้ก่อเหตุน่าจะเป็นปืนขนาด 9 มม. ที่มีคนเอามาจำนำไว้


นอกจากนี้ ยังพบว่า นายสามารถยังชอบเล่นการพนันชนไก่ จึงมีเพื่อนฝูงในแวดวงพนันจำนวนมาก โดยเฉพาะจุดที่คาดว่ากบดานอยู่ มีเพื่อนสนิทอยู่แถวนั้น 3 คน แต่เจ้าหน้าที่วางกำลังประกบไว้ทั้งหมดแล้ว เพื่อกดดันไม่ให้นายสามารถ หนีไปซ่อนตัวที่บ้านเพื่อนหรือญาติ รวมทั้งวางกำลังเฝ้าระวังโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก สำนักสงฆ์และวัดต่าง ๆ ป้องกันไม่ให้นายสามารถเข้าไปซ่อนตัว


จนเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่พบว่า โทรศัพท์ของนายสามารถถูกปิดไป คาดว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่อยู่ได้ ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังคงวางกำลังปิดล้อมจุดสำคัญ และจัดชุดไล่ล่านายสามารถอย่างต่อเนื่อง  


ส่วนนางเล็ก น้องสาวของนายปรีชา ที่ถูกระบุว่า เป็นบุคคลที่นายสามารถอาฆาตแค้นและต้องการฆ่าอีกศพก่อนจะมอบตัว ทางตำรวจพบตัวนางเล็กแล้ว และนำตัวไปอยู่ในความคุ้มครองของตำรวจภูธรภาค 4 แล้ว


ผู้สื่อข่าวตรวจสอบเฟซบุ๊กของนายสามารถ พบว่ามีการโพสต์ข้อความในลักษณะข่มขู่ ว่า กูคือสิม่วนแท้บาทนี้ / ชีวิตแลกชีวิตเลยบ่มึงกับกูงานนี้ / ความจริงพ่อกับแม่ลูกของมึง กล้าทำกับกูได้ กูเป็นอะไรถึงทำกับมึงไม่ได้


และอีกโพสต์ที่ระบายความอัดอั้น หลังจากถูกนายปรีชา ผู้ตาย ไปแจ้งความ และตำรวจนัดไปไกล่เกลี่ย ทำให้นายสามารถถึงกับนอนไม่หลับ โดยนายสามารถ โพสต์ว่า “คืนนี้นอนบ่ได้ เขานัดไปโรงพัก อยากรู้มันจะจบแบบไหน เป็นคนที่อยากรู้จบดีรึ”


นอกจากนี้ ยังพบว่านายสามารถ ชอบโพสต์ข้อความในลักษณะตัดพ้อน้อยใจชีวิต ว่าลูกไม่ดูแล น้อยใจเรื่องยืมเงิน ต่าง ๆ


แต่ที่ทำให้คนในครอบครัวของนายสามารถเองถึงกับช็อก คือ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. นายสามารถโพสต์ข้อความในลักษณะจะล้างแค้นบุคคล 2 คน เพื่อล้างแค้นแทนปู่ย่า ระบุว่า “2 คนนี้ละแค้นนี้ต้องชำระแทนปู่ย่า มึงทำกับปู่ย่าแบบใด กูจะทำ ตามมึง คอยดูบักปังอีส้มสาย รายงานปู่ย่าแล้วบันทึกไว้เลย เป็นความจริงทั้งนั้นกูเจอมาเยอะแล้ว” ซึ่ง “บักปังและอีส้มสาย” ในโพสต์ดังกล่าว คือลูกชายและลูกสะใภ้ของนายสามารถเอง


ผู้สื่อข่าวไปสอบถาม นายปัง อายุ 28 ปี ลูกชายของนายสามารถ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอาศัยอยู่ที่ จ.อุดรธานี เล่าว่า ตนมาแต่งงานกับภรรยา ชื่อ ส้ม และอาศัยอยู่ที่ อ.บ้านดุง ก่อนเกิดเหตุการณ์ยิง 3 ศพ ตนเห็นพ่อโพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะจะมาเอาชีวิตครอบครัวของภรรยาและแม่ยาย สาเหตุที่พ่อโพสต์แบบนั้น เพราะพ่อคิดแค้นไปเองว่า พ่อตาและแม่ยายของตน ไม่ยอมให้ตนกลับบ้านที่หนองบัวลำภู ทั้งที่เมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา ตนก็เพิ่งจะกลับไปหาพ่อ แต่พ่อเป็นคนอารมณ์ร้อน และเก็บกด พอตนเห็นพ่อโพสต์ขู่จะฆ่าพวกตน ก็ต้องหอบลูกเมีย พ่อตาแม่ยาย เก็บข้าวของหนีไปอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เพราะกลัวจะถูกพ่อมาฆ่าล้างครัว และหากพ่อฟังอยู่ อยากจะบอกพ่อว่า มอบตัวเถอะ อย่าก่อเหตุอีกเลย ตนยังรักพ่อเหมือนเดิม แต่อยากให้พ่อมอบตัว


ส่วนลูกสะใภ้ ก็บอกว่า ตอนนี้กลัวมาก เพราะลูกตนยังเล็ก ที่ผ่านมาสามีก็ส่งเงินให้พ่อตลอด ไม่เคยทอดทิ้ง ไม่รู้ทำไมพ่อยังแค้นพวกตนอีก  


ส่วนแม่ยายของนายปัง เมื่อวานนี้กลับมาเก็บเสื้อผ้าสิ่งของมีค่า แล้วพาลูกหลานรวม 8 ชีวิต หนีไปอยู่บ้านญาติอีกตำบลหนึ่ง เพราะกลัวนายสามารถจะมาฆ่ายกครัว โดยบอกว่า ที่ผ่านมา พวกตนไม่ได้มีเรื่องผิดใจกับนายสามารถ แต่นายสามารถเป็นคนคิดมาก เคยได้ยินนายสามารถพูดด้วยว่า ใครทำให้ไม่พอใจ จะฆ่าทิ้งให้หมด ซึ่งพอตนเห็นโพสต์เฟซบุ๊กแบบนั้น ทำให้ตนกลัวมาก ขอหนีไปอยู่ที่อื่นสักพัก จนกว่าตำรวจจะจับตัวนายสามารถได้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/e2MPyBF4uqM