เผยนาทีนองเลือด ปู่วัย 80 คลั่งยิงน้องสาววัย 71 ดับ – หลานสะใภ้บาดเจ็บ เซ่นปมขัดแย้งที่ดินมรดก

ชายโคราชวัย 80 ยิงน้องสาววัย 71 เสียชีวิต หลานสะใภ้บาดเจ็บสาหัส เหตุขัดแย้งเรื่องที่ดินมรดก ลูกชายผู้ตายเผย ผู้ก่อเหตุแค้นที่ถูกฟ้องขับไล่ออกจากบ้าน ขณะที่ตำรวจยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หวั่นถูกรุมประชาทัณฑ์

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 20 ม.18 บ้านโนนตาแก้ว ต.คูขาด อ.คง จ.นครราชสีมา จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่เกิดเหตุ พบมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย อยู่บริเวณข้างบ้าน ทราบชื่อคือ นางทองมี จันทร์นอก อายุ 71 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกข้างซ้าย และมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ นางมะปราง (สงวนนามสกุล)

โดยทราบในเวลาต่อมาว่าคนที่ยิงคือ นายสวาสด์ พวงสมบัติ อายุ 80 ปี เป็นพี่ชายของผู้เสียชีวิต ส่วนนางมะปรางเป็นหลานสะใภ้ของนายสวาสด์ ซึ่งขณะนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี และมีอาวุธปืนอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่ และปิดล้อมพื้นที่ ก่อนที่จะสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสวาสด์ผู้ก่อเหตุเป็นพี่ชายของนางทองมี ผู้เสียชีวิต และนางมะปราง ผู้บาดเจ็บ เป็นหลานสะใภ้  นายสวาสด์และนางทองมี  มีเหตุขัดแย้งกันเรื่องที่ดินมรดก จนถึงขั้นมีเรื่องฟ้องร้องกันในศาล โดยก่อนเกิดเหตุ นางทองมีผู้เสียชีวิตได้ยื่นคำขาดให้นายสวาสด์ผู้ก่อเหตุ ย้ายออกจากบ้านที่อาศัยอยู่ภายใน 60 วัน ตามคำสั่งพิพากษาของศาล ทำให้นายสวาสด์เกิดเจ็บความโกรธแค้นใช้ปืนยิงน้องสาวเสียชีวิต และหลานสะใภ้ได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาช่วงเย็น ชาวบ้านทราบว่าตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จึงพากันมามุงดูที่บ้านเกิดเหตุจำนวนมาก  แต่ต่อมา ตำรวจ สภ.คง แจ้งยกเลิกทำแผน เนื่องจากผู้ต้องไม่ประสงค์จะทำแผน เพราะกลัวถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์

เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะความเจ็บแค้นใจที่ถูกผู้ตายฟ้องขับไล่ จนศาลตัดสินให้ผู้ต้องหา ต้องย้ายออกจากบ้านที่เคยอาศัยอยู่มานาน ทำให้ผู้ต้องหาไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน จึงตัดสินใจก่อเหตุสลดในครั้งนี้ ซึ่งผู้ต้องหายินดีรับโทษที่ตนเองกระทำลงไปทุกประการ

จากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนที่มีอารมณ์ร้อนรุนแรง มักชอบสร้างปัญหาให้ชาวบ้านและครอบครัวอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งล่าสุดทางครอบครัวทนไม่ไหวได้ฟ้องศาลเพื่อขับไล่ออกจากบ้าน ทำให้ผู้ก่อเหตุผูกใจเจ็บ ถึงได้คลุ้มคลั่งก่อเหตุสลดขึ้นในครั้งนี้

ด้านนายศรัญญูู จันทร์นอก อายุ 52 ปี ลูกชายผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ  ไม่ได้มีการทะเลาะกันภายในครอบครัว แต่ก่อนหน้านั้นมีเรื่องขัดแย้งระหว่างครอบครัวของตนกับผู้ต้องหา ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของตนอยู่หลายประเด็น โดยครอบครัวตนได้ฟ้องขับไล่ผู้ก่อเหตุ จนศาลมีคำตัดสินให้ผู้ก่อเหตุ ย้ายออกจากที่ดินของตน  ทำให้ผู้ก่อเหตุขู่ฆ่าครอบครัวตนมาตลอด เป็นระยะเวลานานกว่า 6 เดือนแล้ว และผู้ก่อเหตุก็ไม่ยอมย้ายออกจากบ้านที่ปลูกอยู่ในที่ดินของครอบครัวตน จนตนต้องไปคัดลอกคำสั่งศาลมาให้ดู เพื่อให้ผู้ก่อเหตุยอมออกจากที่ดิน

โดยช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ ตนก็เดินไปบอกกับผู้ก่อเหตุอีกครั้งว่าให้ออกไปจากที่ดิน พร้อมกับบอกว่า เดี๋ยวจะโดนศาลสั่งบังคับคดี  ซึ่งตนก็ไปบอกดีๆ ผู้ก่อเหตุก็เงียบเฉย พร้อมกับถือมีดและเหน็บปืนที่เอว  พอเดินมาถึงบริเวณที่แม่ของตนนั่งกินข้าว ก็โยนมีดทิ้งพร้อมกับยกปืนขึ้นมายิง โชคดีที่ตนและญาติที่ยืนอยู่ด้วยกันหลบทัน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็เริ่มยิงกราด จนกระสุนไปโดนแม่ของตนกับหลานสะใภ้ ส่วนญาติคนอื่นพากันวิ่งหนีกระสุนกันกระเจิง จากนั้นตำรวจก็มาระงับเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังพยายามยิงต่อสู้เพื่อเปิดทางหลบหนีและจะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน เพื่อจะไปหาหลานชายของผู้ก่อเหตุแต่ถูกตำรวจจับได้ก่อน

นายศรัญญูู เล่าอีกว่า สาเหตุที่ไม่อยากให้ผู้ก่อเหตุอยู่ที่บ้าน  เนื่องจากพวกตนถูกขู่ฆ่าอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะตนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่ผู้ก่อเหตุต้องการที่จะฆ่าทิ้ง โดยปีที่แล้ว ตนกับผู้ก่อเหตุเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันจนถึงขั้นขึ้นศาลมาแล้ว  ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์หลายอย่างขึ้น ทำให้ตอนนี้ตนไม่มองว่าผู้ก่อเหตุเป็นญาติอีกต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.วทัญญู รุ่งรัศมี ผกก.สภ.คง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนสาเหตุที่พี่น้องท้องเดียวกันต้องฆ่ากันเอง มาจากที่ดินมรดก ช่วงที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ได้จัดแบ่งที่ดินให้กับนายสวาสด์ ผู้ก่อเหตุ แต่ปฏิเสธ อ้างยังมีเรี่ยวแรงทำงานได้แต่ขอพักอาศัยบ้านหลังเดียวกันกับญาติๆ ต่อมาเมื่อสังขารร่วงโรยตามวัยชรา เปลี่ยนใจอยากได้บ้าง ประกอบกับได้มีปัญหากับญาติพี่น้องบ่อยครั้งและได้ก่อเหตุฆ่ากันเอง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/QBeKDz3nusw