ญาติเหยื่อ 'คดีตากใบ' ขอสู้ต่อ - ปลัดท่าอุเทน หนึ่งในผู้ต้องหา โผล่ทำงาน หลังคดีหมดอายุความ

ชาวตากใบสิ้นหวังในความยุติธรรม หลังศาลจังหวัดนราธิวาสมีคำสั่งจำหน่าย 'คดีตากใบ' เหตุคดีขาดอายุความ แต่ยังไม่ยอมแพ้ เปรยอาจส่งเรื่องศาลต่างประเทศลากคนผู้ทำผิดมาลงโทษ ขณะที่ปลัด อ.ท่าอุเทน อดีตพลขับ หนึ่งในผู้ต้องหา โผล่ทำงานวันแรก หลังคดีหมดอายุความ ด้าน 'พิเชษฐ์' มีหนาว 'สว.เทวฤทธิ์' ถามปล่อย 'พลเอกพิศาล' ลาได้ไง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามีคดี

วานนี้ (28 ต.ค. 67) เวลา 10.00 น. ศาลจังหวัดนราธิวาสอ่านคำสั่ง 'คดีตากใบ' โดยมีจำเลยคือ พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี จำเลยที่ 1 กับพวก รวม 7 คน ซึ่งศาลนัดประชุมพิจารณาคดีในวันนี้ หลังจาก อดีตข้าราชการระดับสูง 7 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุม ซึ่งศาลได้ออกหมายจับ และคดีหมดอายุความไปแล้ว เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งยังคงไม่สามารถจับกุมจำเลยทั้ง 7 คน

ทำให้ ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี เนื่องจากคดีขาดอายุความ โดยคดีนี้ จำเลยทั้ง 7 คน ไม่เคยเข้าสู่การพิจารณา แต่หลบหนี จนคดีขาดอายุความ ไม่สามารถดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อไปได้ ต้องจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

ด้าน นายมูฮัมหมัดซาวาวี อุเซ็ง 1 ในญาติของผู้เสียชีวิต ที่ร่วมเป็นโจทย์ฟ้อง กล่าวว่า คดีนี้ ศาลไม่ได้ยกฟ้อง ซึ่งแสดงว่า ท่านยังมีมลทินความผิดอยู่ ในการหนีคดีไม่เข้าสู่กระบวนการ เพื่อที่จะต่อสู้แสดงความบริสุทธิ์ใจจริง ๆ ว่าบริสุทธิ์ ความยุติธรรมไม่ได้เกิดขึ้นกับคนที่เสียชีวิต ซึ่งยังรอคอยความยุติธรรม แล้วเราที่มีชีวิตอยู่ก็ต้องต่อสู้กันต่อไป ซึ่งอาจจะมีช่องทางหนึ่งที่อาจจะเป็นไปได้คือ ศาลอาญาระหว่างประเทศ ถ้ามีโอกาสเราก็จะไปเพราะเราก็จะสู้ให้ถึงที่สุด เพราะกระบวนการในประเทศไทยไม่ได้รับความยุติธรรม

ในวันเดียวกัน ที่จังหวัดนครพนม​ ทันทีที่คดีตากใบหมดอายุความ 20 ปี ก็ปรากฏ 1 ใน 14 คน ที่ถูกออกหมายจับ ปรากฏตัวต่อสาธารณชน โดยหนึ่งในนั้นก็คือ ปลัดอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ซึ่งก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม ปลัดอำเภอได้ลาราชการ และก็ล่องหน ไม่พบว่าเข้าทำงาน จนกระทั่งเช้าวันที่ 26 ได้มารายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชา หลังจากนี้จ ะมีการเสนอเพื่อให้มีการสอบข้อเท็จจริงกรณีการขาดงานผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ เพื่อให้เป็นไปตามบทลงโทษ

โดยมีภาพการลงพื้นที่ปฏิบัติราชการของ นายวิษณุ เลิศสงคราม ปลัดอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ภายหลังได้รับแจ้งว่า มีชายคลุ้มคลั่งยาเสพติด ทำลายทรัพย์ และมีอาการทางจิตเวช ที่บ้านนาผักปลอด ตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน

นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 14 วันที่ นายวิษณุ มาทำงานเป็นวันแรก หลังจากที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีตากใบ เมื่อ 20 ปีก่อน และอัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องผู้ต้องหา 14 คน ศาลได้อนุมัติหมายจับ ก่อนที่คดีจะหมดอายุความเพียงไม่กี่วัน

และหลังจากที่ถูกออกหมายจับ นายวิษณุ ได้ยื่นใบลาระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม แต่ระหว่างนั้นผู้บังคับบัญชาได้ยกเลิกใบลา เนื่องจากมีหมายจับ แต่ไม่สามารถติดต่อ นายวิษณุ ได้มากว่า 10 วัน กระทั่งเมื่อคดีสิ้นสุดอายุความเมื่อ 25 ตุลาคม ต่อมา วันที่ 26 นายวิษณุ ได้เข้ามารายงานตัวกับทางอำเภอ และลงพื้นที่ปฏิบัติราชการในวันนี้

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ นายวิษณุ ที่ห้องทำงาน ซึ่งก็พบว่ามาทำงานตามปกติ แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ บอกเพียงเมื่อ 20 ปีก่อน ตัวเองทำหน้าที่เป็นเพียงพลขับเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ที่รัฐสภา นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีคดีตากใบหมดอายุความ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการติดตามผู้ต้องหา 14 คน มาดำเนินคดี

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ได้ประชุมเพื่อเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจภูธรภาค 9 เข้าให้ข้อมูล พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 14 คน หลบหนีผ่านช่องทางที่เป็นทางการ และช่องทางธรรมชาติ จึงเป็นประเด็นที่เราอยากจะวิงวอน แม้คดีจะล่วงเลยไปแล้ว แต่อยากให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่นอกจากจะออกมาแสดงความเสียใจและขอโทษแล้ว ยังต้องพิสูจน์ความเสียใจ และขอโทษด้วยการลงมือ

ประเด็นเรื่องอายุความ มีข้อเสนอของนักสิทธิมนุษยชน ขอร้องให้ประเทศอังกฤษ ดำเนินคดีกับผู้ที่หลบหนี เนื่องจากมีข้อกฎหมายที่รับรองไว้ หากรัฐบาลจริงใจในคดีตากใบ ต้องช่วยกันเร่งรัดดำเนินคดี อำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้น

นายเทวฤทธิ์ กล่าวต่อว่า แม้คดีจะหมดอายุความ แต่สามารถทดเวลาได้คือ ร้องขอให้ประเทศต้นทางที่รู้ว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอย่างเป็นทางการดำเนินคดี เพื่อเป็นการแสดงความพยายามถึงที่สุด ไม่ใช่บอกแค่ว่า พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี ลาออกจากพรรคเพื่อไทยไปแล้ว เพื่อปัดภาระความรับผิดชอบ ไม่ใช่ภาระของพรรค แต่คือภาระความรับผิดชอบของรัฐบาล ต่อมาคือการแสวงหาข้อเท็จจริง อำนวยความยุติธรรมในคดีที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงโดยรัฐ รวมถึงการคุ้มครองประชาชนที่ลุกออกมาเรียกร้อง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kHep-Bjhdo0