อาชญากรรม
ผู้เสียหายแห่แจ้งความ ปคบ. เอาผิดดิไอคอนกรุ๊ป ด้านตำรวจ ยันแจ้งความได้ทั่วราชอาณาจักร
โดย nutda_t
13 ต.ค. 2567
224 views
สำหรับบรรยากาศที่ศูนย์รับแจ้งเหตุคดีหลอกลงทุน บก.ปคบ. ที่อาคารกองบังคับการปราบปราม ในวันนี้ ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันวันหยุดราชการ แต่ยังมีบรรดาผู้เสียหายจำนวนมากหลายร้อยราย ทยอยเดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวน ปคบ. อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มีกลุ่มตัวแทนผู้เสียหายบางส่วนได้รับความเดือดร้อน หลังจากได้ไปแจ้งความกับทางตำรวจท้องที่ แต่ปรากฏว่าตำรวจท้องที่ไม่รับแจ้งความ อ้างว่าต้องมาแจ้งความที่ บก.ปคบ. เท่านั้น โดยทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้พูดคุยกับลุงผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งมาจาก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เล่าว่า ตนเองและภรรยา รู้จักบริษัท The Icon ตั้งแต่ช่วงประมาณปี 2562 ผ่านโฆษณาทางโซเชียลมีเดีย โดยได้ลงทุนเพื่อซื้อคอลลาเจนและอาหารเสริมมาขาย โดยเปิดบิลรอบแรกจำนวน 25,000 บาท แล้วได้อัพเกรดตัวเอง เพิ่มยอดเป็น 250,000 บาท ซึ่งเป็นระดับดีลเลอร์ รวมเป็นเงิน 275,000 บาท โดยเงินก้อนนี้เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ตนสะสมมา เนื่องจากในช่วงที่ตัดสินใจลงทุน เป็นช่วงที่ตนและภรรยาตกงานและหวังว่า การขายของออนไลน์กับบริษัทดังกล่าว จะสามารถช่วยต่อชีวิตได้
แต่ปรากฏว่า ของที่สั่งมากับขายไม่ได้เลย แทบไม่ได้กำไรด้วยซ้ำ ต้องนำมาแจกจ่ายหรือขายให้กับญาติ ๆ ที่ใกล้ชิด สร้างความยากลำบากให้กับตนเองและครอบครัวอย่างมาก ซึ่งหลังจากที่ปรากฏเป็นข่าว ภรรยาของตนก็เลยโทรไปที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อวานนี้ เพราะเนื่องจากเห็นในข่าวโทรทัศน์ว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้ทุกสถานีตำรวจทั่วราชอาณาจักรรับแจ้งความคดี The Icon ได้
แต่ทว่า ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ปฏิเสธที่จะรับแจ้งความ โดยอ้างว่า ท้องที่กรุงเทพและปริมณฑล ให้มาแจ้งความที่ บก.ปคบ. ได้โดยตรงและตำรวจก็มีภาระทางคดีเยอะอยู่แล้ว และนอกจากนี้ เพื่อนของตนที่เป็นผู้เสียหายจากบริษัท The Icon เช่นเดียวกัน ได้ไปแจ้งความกับตำรวจที่จังหวัดน่านอันเป็นภูมิลำเนาของเพื่อนตน ทว่าตำรวจไม่รับแจ้งความ อ้างว่า ตำรวจมีภาระคดีเยอะแล้ว
ซึ่งตนมองว่า การที่ตำรวจท้องที่ไม่รับแจ้งความ ทั้ง ๆ ที่มีคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมกับผู้เสียหายและก่อให้เกิดความเดือดร้อนอย่างมาก รวมทั้งมองว่าเป็นการเพิ่มภาระให้กับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. โดยเปล่าประโยชน์ ตนหวังว่าคดีนี้จะสามารถเอาผิดบรรดาบอสผู้บริหารของบริษัทได้และอยากฝากถึงบรรดาบอสผู้บริหารว่า ขอให้รับสารภาพเพื่อให้โทษหนักกลายเป็นเบาและเห็นแก่ผู้เสียหาย
นอกจากนี้ มีผู้เสียหายหญิงอีกรายซึ่งได้นำสินค้าตัวอย่างของบริษัทและนำโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ของบริษัทที่มีรูปดารา 5 ราย ที่ทางบริษัทแจกจ่ายให้แก่ผู้เปิดบิล มาเป็นพยานหลักฐานให้กับตำรวจ โดยเธอ เล่าว่า เธอเปิดบิลเมื่อปี 2563 จำนวน 2 บิล บิลละ 296,520 บาท รวมทั้งสิ้น 593,040 บาท เป็นการสั่งซื้อกลูต้าบิลละ 50 กล่อง ซึ่งพอสั่งมาแล้วปรากฏว่าขายไม่ได้ เลยต้องนำมาบริโภคกันเองหรือแจกจ่ายคนใกล้ชิด ซึ่งตนมองว่า สินค้ากลูต้าดังกล่าวนั้นไม่ได้มีประโยชน์หรือช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นตามที่โฆษณาไว้จริง
โดยเธอ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้รับการชักชวนจากเพื่อนอีกทีนึง ซึ่งเพื่อนได้ชักชวนให้ไปเรียนคอร์สที่เกี่ยวข้องกับการขายของออนไลน์และปรับมายเซ็ทด้านธุรกิจ เสียเงินเรียนคราวละ 500 บาท โดยสอยเน้นย้ำว่า การขายของทางออนไลน์นั้นต้องจ่ายเงินยิงค่าโฆษณาเพิ่มเติม ซึ่งตนมองว่า แค่ลงทุนซื้อสินค้าก็เสียเงินมากพอแล้ว
ซึ่งหลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวว่าบริษัทนี้มีปัญหาเรื่องการหลอกลวงคล้ายแชร์ลูกโซ่ ตนรู้สึกว่าเหมือนฟ้าประทาน เพราะตนต้องทุกข์ทรมานจากการหลงเชื่อลงทุนซื้อสินค้าของบริษัทนี้มาขายต่อและขายไม่ได้เลยแม้แต่บาทเดียว จึงหวังอยากจะให้บรรดาบอสผู้บริหารและดาราที่โฆษณาทั้งหลายรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป
ด้าน พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. กล่าวเน้นย้ำว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการสืบสวนสอบสวนดูแลคดีการหลอกลวงผู้บริโภคทั้งเคสทองแม่ตั๊กและบริษัท The Icon Group ได้มีคำสั่งในวิทยุราชการไปถึงสถานีตำรวจทั่วราชอาณาจักรทั้งนครบาลและภูธร ว่า พนักงานสอบสวนทุกสถานีต้องรับแจ้งความดำเนินคดีจากผู้เสียหายในคดีดังกล่าวโดยไม่มีข้อยกเว้นและได้กำหนดแนวทาง ประเด็นในการสอบปากคำผู้เสียหายเอาไว้แล้ว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียหายทั่วราชอาณาจักร จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม รวมทั้งเป็นการแบ่งเบาภาระของพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ด้วย
ดังนั้นจึงเน้นย้ำว่า ผู้เสียหายไม่ว่าคดีใดก็ตาม สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนทุกสถานีตำรวจทั่วราชอาณาจักร ซึ่งหากพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจใดหรือประชาชนผู้เสียหายมีข้อสงสัย สามารถติดต่อมายังตนเองได้ที่เบอร์ 081-251-1381 และเตือนไปยังพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจทั่วราชอาณาจักรที่ไม่รับดำเนินคดีของผู้เสียหายว่า จะถือเป็นการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มีโทษทางวินัยร้ายแรง
ส่วนศูนย์รับแจ้งความของ บก.ปคบ. ที่กองบังคับการปราบปรามนั้น จะเปิดทำการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยเปิดเริ่มรับคิวตั้งแต่เวลา 9:00 และรับคิวสุดท้ายในเวลา 16:00 ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะเปิดไปเรื่อย ๆ เพื่อรองรับผู้เสียหายทุก ๆ คน อันเป็นไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา โดยศูนย์แห่งนี้จะมีบริการอาหารและน้ำดื่มให้ฟรีแก่ผู้เสียหายทุกคน ซึ่งขอเน้นย้ำให้ผู้เสียหายเตรียมเอกสาร าให้ครบถ้วน ทั้งบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนา หลักฐานการโอนเงิน หมายเลขบัญชี ชื่อบัญชีรับโอน พร้อมสำเนา หลักฐานแชทพูดคุยชักชวนให้รู้จัก พร้อมสำนา ข้อมูลมูลค่าความเสียหายและจุดเริ่มต้นของการสมัครสมาชิก รวมทั้งเอกสารอื่น ๆ ถ้ามีพร้อมสำเนา โดยทุกสำเนาเอกสารต้องรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ
แท็กที่เกี่ยวข้อง ปคบ. ,ดิไอคอนกรุ๊ป