อาชญากรรม

ชายวัย 60 ยืมเงินเพื่อนบ้าน 2 พันไปเทรดหุ้นออนไลน์ สุดท้ายโดนหลอก เครียดผูกคอดับ

โดย nattachat_c

10 ต.ค. 2567

1.4K views

จากกรณี เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2567 ช่วงเย็น ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม ได้รับแจ้งว่า นายปณิธาน อายุ 60 ปี ผูกคอเสียชีวิต อยู่บริเวณหลังร้านอาหารตามสั่งในซอยนครสวรรค์ 49 คุ้มบ้านนางใย ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม โดยญาติบอกว่า ผู้ตายมีความเครียด เนื่องจากถูกมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุนออนไลน์


วานนี้ (9 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวไปที่ร้านอาหารตามสั่ง และพูดคุยกับ นางทาริตา อายุ 50 ปี ภรรยาของผู้ตาย เล่าว่า  เมื่อก่อน ตนเองและสามี ทำงานโรงแรม พอออกจากงาน ก็มาเปิดร้านตามสั่ง เปิดได้เกือบปีก็ต้องปิด เพราะค้าขายไม่ดี ไปกู้รายวันก็ไม่คุ้ม ลงทุน 2,000 ขายได้ 500 ก็ขาดทุน ก็เลยพัก เงินดิจิทัล 10,000 ก็ไม่ได้รับ เพราะไม่ใช่กลุ่มเปราะบาง ช่วงนี้ตนเองจึงไปรับจ้างเป็นแม่ครัวทำอาหารเจ มีรายได้วันละ 400 บาท นอกจากนี้ ก็รับจ้างร้อยมาลัย


ส่วนสามีก็อยากหารายได้จุนเจือครอบครัว จนไปเจอกับเพจหนึ่ง เป็นเพจเล่นหุ้นออนไลน์ สามีก็สมัครเข้าไปลงทุนเล่นหุ้นด้วย แต่ช่วงแรกไม่มีเงินลงทุน ทางเพจก็จะให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อรับเงินครั้งละ 8 - 10 บาท ทำวันแรกจะได้เงิน 30 บาท


แต่ก่อนที่จะเริ่มทำกิจกรรม ทางเพจจะให้โอนเงินไปก่อน 150 บาท แล้วให้แอดไลน์ทำกิจกรรมนั่นนี่ โดยจะมีคนที่อ้างว่าเป็นโค้ช มาคอยดูแล และหลอกล่อให้ร่วมทำกิจกรรม  


โดยหลอกว่า ถ้าทำกิจกรรมได้ทั้งหมด ก็จะได้เงินประมาณ 900 บาท สามีก็ไปยืมเงินเพื่อนบ้านมา 2,000 บาท แล้วลงทุนโอนเงินเข้าไปทำกิจกรรม และเทรดหุ้นออนไลน์ แต่ปรากฎว่า ถอนเงินออกมาไม่ได้ โดยทางมิจฉาชีพอ้างว่า ถ้าถอนเงินออกแล้ว วันต่อไป ก็จะไม่มีเงินลงทุน สามีเข้าร่วมทำกิจกรรมกับเพจนี้ประมาณ 3 วันเท่านั้น ก็มาผูกคอเสียชีวิต


ส่วนที่สามีคิดสั้น ก็น่าจะเพราะไปยืมเงินเพื่อนบ้านมาลงทุน แล้วสัญญากับเพื่อนบ้านว่าจะใช้หนี้ให้ เพราะหวังว่าจะได้เงินจากการเทรดหุ้นออนไลน์ แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ จึงไม่มีเงินมาใช้หนี้ ทำให้คิดสั้น


ทั้งนี้ ตนก็ได้ทักท้วงแล้วว่าจะโดนหลอกมั้ย แต่สามีก็บอกว่า ดูแล้วน่าเชื่อถือได้ เพราะมีตำรวจใหญ่เป็นผู้ดูแล จึงมั่นใจว่าจะไม่ถูกหลอก และตั้งความหวังไว้ว่า จะหาเงินให้ได้เยอะ ๆ ลูกเมียจะได้สบาย


ภรรยาผู้ตาย บอกว่า อยากให้ตำรวจจัดการขั้นเด็ดขาด เพราะพวกมิจฉาชีพพวกนี้หลอกลวงประชาชน ทำให้คนที่มีความหวังต้องมาผิดหวัง อยากให้หาตัวคนผิดมาลงโทษ จะได้ไม่ทำกับคนอื่นอีก


ขณะเดียวกัน ภรรยาผู้ตาย ให้ดูข้อมูลในโทรศัพท์ของผู้ตาย ที่มีการแอดไลน์คุยกับมิจฉาชีพ พบว่า มีบุคคลอ้างตัวว่าเป็นโค้ชเนย ทำหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มดูแลการทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยผู้ตายเริ่มทำกิจกรรม โอนเงินครั้งแรกให้กับมิจฉาชีพ 150 บาท เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม โค้ชเนยแจ้งว่าจะนำไปสร้างผลกำไรให้กับสมาชิก 30% - 50% โดยการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลผ่านทางระบบออนไลน์ เป็นการซื้อ-ขายในระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ เพื่อสร้างกำไรจากส่วนต่างราคาของเหรียญสกุลเงินที่มีความผันผวน และเปลี่ยนแปลง อยู่ตลอดเวลา โดยผู้ที่ร่วมลงทุนจะได้รับค่าคอมมิชชั่นเป็นผลตอบแทน


เมื่อทำกิจกรรมได้แล้ว ผู้ตายจะขอถอนเงิน แต่กลับถอนเงินไม่ได้ มิจฉาชีพหลอกให้เข้ากลุ่ม VIP และถูกหลอกให้โอนเงินอีก 1,000 บาท ก่อนที่จะหลอกให้โอนอีก 2,000 บาท โดยอ้างว่าเริ่มงานแล้วไม่สามารถยกเลิกได้ ต้องทำให้จบภารกิจ


ซึ่งรอบสุดท้าย ผู้ตายโอนเงินไปให้มิจฉาชีพ 1,200 บาท แต่ยังไม่พอ เพราะมิจฉาชีพให้โอนอีก 10,800 บาท ทำให้ผู้ตายส่งข้อความไปตัดพ้อว่า "ไม่มีเงินแล้ว ผมไม่อยู่แล้ว ตายดีกว่า"



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/I-d5gm5i4OA



คุณอาจสนใจ

Related News