กลุ่มคนร้ายก่อเหตุอุกอาจ บุกบ้านใช้ปืนข่มขู่เจ้าบ้าน จับตัวประกันแม่-ลูก 3 ขวบขึ้นรถหนี คาดขัดแย้งเรื่องเงินทอง

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 เวลา 23.30 น. ศูนย์วิทยุตำรวจ สภ.เมืองระนอง ได้รับแจ้งเหตุชายฉกรรจ์ บุกรุกบ้านหลังหนึ่ง บริเวณซอยหลังโรงเจ ม.5 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง มีการชักปืนพกสั้นเข้าขัมขู่เจ้าบ้าน ก่อนคนร้ายประมาณ 3-4 คน จะมีการอุ้มลูกสะใภ้ อายุ 23 ปี พร้อมหลานสาววัย 3 ขวบ ขึ้นรถยนต์กระบะ โตโยต้า ไฮลักษ์ สีขาว สี่ประตู ขับหลบหนีจากที่เกิดเหตุบ้านหลังดังกล่าว จึงได้มีการสั่งการให้ ร.ต.ท.สกล แย้มแสง รอง สวป.สภ.เมืองระนอง หัวหน้าชุดรถยนต์สายตรวจ 191 พร้อมกำลังสายตรวจรถจักรยานยนต์ และตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองระนอง ร่วม 20 นาย ออกไล่ติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุและกำลังหลบหนีทันที



โดยหลังรับแจ้ง รถจักรยานยนต์สายตรวจ สภ.เมืองระนอง ได้ขับไล่ติดตาม ตั้งแต่เส้นทางภายใน รอบตัวเมืองระนอง แล้วรถยนต์คันดังกล่าว ขับขึ้นถนนเพชรเกษม ฝั่งขาขึ้นออกนอกเมืองระนอง รถยนต์สายตรวจเร่งขับรถเปิดสัญญาณไฟ ใช้ความเร็วกัน 100 กว่า กม./ช.ม. ติดตามไปจนไล่ในระยะกระชั้นชิด คนร้ายได้หักรถเข้าไปในซอยบางนอนใน ต.บางนอน อ.เมืองระนอง ซึ่งเป็นเส้นทางมืด เพื่อหลบหลีกการไล่ติดตาม พอขับไปสักระยะเห็นจวนตัว ไม่สามารถสลัดการไล่ติดตาม จากเจ้าหน้าที่ได้ จึงจอดรถยอมมอบตัวโดยดี บริเวณหน้าสนามยิงปืนเอกชน ซึ่งเป็นทางตันและจะขึ้นภูเขาบางนอนใน เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการควบคุมตัวคนขับทันที รวมระยะทางไล่ล่ารถยนต์กระบะที่ก่อเหตุ ร่วม 10 กว่ากิโลเมตร ผ่าน 4 ตำบล ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองระนอง



เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะ พบว่ามีเพียงคนร้ายผู้ร่วมก่อเหตุเพียงรายเดียว ระหว่างเจ้าหน้าที่ทำการสอบปากคำและตรวจค้นภายในรถ ทางญาติผู้เสียหายได้ชกต่อยเข้าเหนือคิ้วขวาคนร้ายที่ขับรถยนต์ จนเลือดไหล โดยญาติที่ติดตามมา และอุ้มหลานสาว วัย 3 ขวบ ถึงกับด่าทอคนร้ายรายนี้ เจ้าหน้าที่จึงรีบกัน และให้แยกห่างออกมาไม่ให้เข้าใกล้จุดที่คนร้ายขับรถยอมมอบตัว

ทั้งนี้ทางญาติบอกกลุ่มคนร้ายทราบตัวทั้งหมดรวมถึงบ้านของคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะ ที่ขณะจับกุม มีเพียงผู้ร่วมก่อเหตุเพียงรายเดียว ส่วนแม่ลูกที่อุ้มขึ้นรถมา ได้มีการปล่อยลงระหว่างทาง รวมทั้งคนร้ายอีก 3 คน ชาย 2 คน และหญิง 1 คน ลงข้างทางทั้งหมด เหลือแต่ตนที่ขับรถหนีมาเพียงลำพัง ซึ่งอาวุธปืนพกสั้นที่ทำการข่มขู่เจ้าบ้าน ตรวจค้นในรถไม่พบ พบเพียงซองปืนเหน็บเอว ที่หล่นอยู่ในรถยนต์เพียง 1 ซอง



คนร้ายที่ขับรถหนีให้การปฎิเสธว่าตนไม่ได้ขับรถยนต์กระบะหลบหนีเจ้าหน้าที่ มีเพื่อนเป็นคนขับ แต่ได้จอดและให้หลบหนีที่แยกด้านล่าง ก่อนตนมาขับต่อแล้วมอบตัวกับตำรวจ สาเหตุที่ตนยอมมอบตัวเพราะตนไม่ได้ผิดอะไร ทั้งที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าพยานยืนยันว่า คนขับรถร่วมก่อเหตุและเข้าไปข่มขู่เพื่อหาตัวลูกชายเจ้าของบ้าน และยังมีการอุ้มลูกสะใภ้และหลานสาวเจ้าบ้านขึ้นรถออกมาด้วย เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเหตุ จึงหลบหนีและปล่อยตัวแม่ลูกลงระหว่างทาง

บุตรสาวของเจ้าบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่บ้านติดกันกับบ้านพ่อ ให้สัมภาษณ์เบื้องต้น ที่คนร้ายได้ก่อเหตุในครั้งนี้ และได้อุ้มหลานสาววัย 3 ขวบ ที่ถูกปล่อยตัวมาก่อนเจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายที่ขับรถหนีตามลำพัง เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า กลุ่มคนร้ายชายฉกรรจ์ 3 คน ได้เข้ามาที่บ้านพ่อ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านตนตนได้ยินเสียง ข่มขู่ว่าจะยิงอย่างเดียว มีการนำปืนที่ใช้ข่มขู่ประมาณ 2 กระบอก มีการเอาปืนจี้หัวพ่อหนูแล้ว ข่มขู่ว่าเดี๋ยวยิงให้ตายโหงทั้งบ้านเลย ไม่ต้องเอาใครไว้สักคนหนึ่ง โดยตนแอบโทรศัพท์แจ้งให้กับตำรวจทราบเหตุ มีการยื้อเวลา แต่เมื่อเค้ารู้ตัว จึงอุ้มเด็กและแม่เค้าขึ้นรถออกมา



ด้านคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ เป็นชายอายุประมาณ 24 ปี ให้การเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนไม่ได้ขับรถตั้งแต่แรก พึ่งขับ พอขับแล้ว จอดมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อว่ามีการเปลี่ยนตัวกันขับและปล่อยเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุลงก่อนหน้าในระยะ 30 เมตร เพราะเจ้าหน้าที่ขับไล่หลังติดตามมาติดๆ โดยคนร้ายรายนี้ยังยืนยันให้เพื่อนลงรถไปเลย กูไม่เอาแล้ว พอพวกเพื่อนลงไป ตนจึงมานั่งที่คนขับ ส่วนการจี้กันเกิดภายในบ้าน มีปืนเพียงกระบอกเดียว โดยเพื่อนตนเป็นคนถืออาวุธ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัว ผู้ก่อเหตุรายแรกที่จับกุมได้ ไปทำการสอบสวนปากคำต่อที่ สภ.เมืองระนอง



และในเวลาต่อมา ช่วงเที่ยงคืนเศษ ร้อยเวรสายตรวจรถยนต์ ได้ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองระนอง สามารถติดตามปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนพกสั้น 9 ม.ม. พร้อมด้วยแม็กกาซีน ที่บรรจุกระสุน ที่ถูกทิ้งระหว่างทางหลบหนี มาส่งให้กับร้อยเวรพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง และในเวลาเดียวกัน พ่อเจ้าบ้านที่ถูกบุกรุก และมีการชิอาวุธปืนข่มขู่ กล่าวกับผู้ต้องหารายแรกที่ถูกจับกุมว่า พ่อบอกแล้วว่าอย่าทำ รู้ว่าเราพูดจาดี แต่เพื่อนเธออีก 2 คนที่บุกเข้ามาในบ้าน มันจะยิงพ่อ ทำรุนแรงเกินไป แล้วอย่าพาน้องมามันจะหลายเรื่อง ซึ่งพ่อบอกแล้วเรื่องระหว่างกับลูกชายพ่อซึ่งก็เป็นเพื่อนกัน พ่อจะเคลียร์ให้ตอนเช้า แต่ไม่ยอมฟังกัน จนร้อยเวรเรียกผู้เสียหายขึ้นไปทำการสอบปากคำในห้องเจ้าพนักงานสอบสวน และอาสากู้ภัยได้เข้ามาทำบาดแผล ผู้ต้องหาที่บาดเจ็บถูกญาติผู้เสียหายต่อยจนเลือดอาบ



นาย รุ่งอดิสร อายุ 42 ปี เจ้าบ้านที่เกิดเหตุ และถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน ชักปืนมาข่มขู่ ได้กล่าวว่า ผมอยู่ภายในบ้านกลุ่มคนร้ายได้เรียกออกมาถาม ซึ่งผมไม่รู้เรื่อง สาเหตุของความขัดแย้งมาจากลูกชายอายุ 25 ปี ของตน โดยคนร้ายทั้ง 3 คนได้ชักปืนออกมา และโวยวาย เอาปืนมาจ่อที่หน้าท้องผม คาดว่าน่าจะมีอาวุธปืนเพียงกระบอกเดียวแต่เค้าสลับกันถืออยู่ จากนั้นเมื่อไม่พบตัวลูกชายตน มีเสียงคนร้ายอีกคน คาดจะเป็นผู้หญิง ซึ่งนั่งอยู่ในรถยนต์กระบะคันก่อเหตุ สั่งให้นำตัวลูกสะใภ้และหลานสาวของตนวัย 3 ขวบขึ้นรถออกมา เหมือนกับนำไปเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองอะไรบางอย่าง ก่อนขับรถหลบหนีทันที



คาดว่าชนวนเหตุน่าจะมาจากการขัดแย้งเรื่องเงินทองหรือหนี้สินระหว่าง กลุ่มคนร้ายกับบุตรชายของเจ้าบ้านที่ถูกอาวุธปืนข่มขู่ ซึ่งในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งทำการสอบสวนปากคำผู้เสียหายและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระนอง รู้ตัวกลุ่มคนร้ายที่ยังหลบหนี เป็นชาย 2 ราย และหญิง 1 ราย ทั้งหมดแล้ว และจะออกหมายจับ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป