พบพิรุธครอบครัวหญิงที่อุ้ม 9 เดือนไป ผลิตลูกออกมาเร่ขายของตามงานวัด

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 น.ส.อุ้ม อายุ 21 ปี ได้ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่าน้องเฟิร์น (นามสมมติ) ลูกสาววัย 9 เดือนของเธอ ถูก น.ส.แป้ง อายุ 24 ปี ลูกพี่ลูกน้องที่มีปัญหาทางสติปัญญา อุ้มหนีหายไป โดยไม่ทราบชะตากรรม เธอจึงโพสต์โซเชียลขอความช่วยเหลือจากประชาชน



ต่อมานางปวีณา ได้ประสานงานกับ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายฝ่ายเพื่อเร่งติดตามตัวน้องเฟิร์น โดยได้รับเบาะแสจากพลเมืองดีว่าเห็น น.ส.แป้ง อุ้มเด็กเดินขายลูกโป่งในตลาดบ่อนไก่ จังหวัดนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามจนสามารถพาตัวน้องเฟิร์นกลับมาได้อย่างปลอดภัย



และวันนี้นางปวีณาได้พานางสาวอุ้ม และลูกสาว พร้อมผู้ก่อเหตุ เดินทางมาพบพลตำรวจตรีโชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำการสอบสวนน.ส.แป้ง เธออ้างว่าทะเลาะกับสามีจึงคิดจะกลับบ้านที่จังหวัดนครสวรรค์ และด้วยความรักน้องเฟิร์น จึงตัดสินใจพาเด็กไปด้วย โดยไม่ได้แจ้งให้ครอบครัวทราบ ไม่ได้มีเจตนาลักพาเด็กไปแต่อย่างใดเพียงแต่ได้เลี้ยงดูกันประจำ พอจะกลับบ้านจังหวัดนครสวรรค์เลยพาอุ้มไปด้วยเท่านั้น



หลังจากน้องเฟิร์นได้กลับสู่อ้อมอกของแม่ น.ส.อุ้มได้กล่าวขอบคุณนางปวีณา เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพลเมืองดีทุกท่านที่ช่วยเหลือ จนสามารถพาน้องเฟิร์นกลับมาอย่างปลอดภัย พร้อมยืนยันว่าจะดูแลลูกให้ดียิ่งขึ้น



ถึงกระนั้นเรื่องยังไม่จบไปเจอความแปลกครอบครัวของนางสาวอุ้ม แม่เด็กหญิง อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ในบ้านหลังเดียวกันในพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในบ้านหลังนี้ มีแม่ใหญ่ นามสมมติเป็นเจ้าของบ้านมาเปิดเช่าไว้ จะรวบรวมลูกเขย ลูกสะใภ้ หลานเขยหลานสะใภ้ มาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันผลิตลูกผลิตหลานอยู่เป็นสมาชิกในบ้านนี้ทั้งหมดกว่า 30 คน แล้วจะให้บรรดาลูกหลานที่ผลิตขึ้นมาได้ ออกมาเร่ขายของตามงานวัด ตามร้านอาหารในเวลากลางคืนสร้างรายได้จนสามารถซื้อที่ดินกว่า 1 ไร่เป็นของตัวเอง ทำเป็นบ้านพักอยู่อาศัยในพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยาอยู่อาศัย ไปฟังเสียงพลตำรวจตรีโชติวัฒน์ เหลืองวิลัย



ปัญหาดังกล่าวนางปวีณา หงสกุล ได้รับไว้จะประสานงานกับทาง พม เข้ามาตรวจสอบ เข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือการใช้แรงงานเด็กหรือไม่ ซึ่งทางนี้ ตำรวจอยุธยาเคยเข้าไปตรวจสอบในเบื้องต้นกับ พม จังหวัด ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เนื่องจากเป็นการสร้างรายได้ให้กับครอบครัวไม่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ ใช้แรงงานเด็ก



อย่างไรแล้วนางปวีณา หงสกุล ยังคงยืนยันต้องเข้ามาดำเนินการแก้ปัญหา