ผัวป่วยจิตฆ่าหั่นศพเมีย ทิ้งกระจายกลางถนน ซ้ำพบขาข้างขวาเก็บไว้ในตู้เย็น คราบเลือดนองเต็มพื้น

จากกรณีเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอยหลวง จังหวัดเชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกฆ่าเสียชีวิตและศพถูกทิ้งเป็นชิ้นส่วนกระจัดกระจายอยู่ภายในซอย 9 หมู่บ้านแม่เลียบ หมู่ 2 ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.อรรณพ เลิศสุวรรณ ผกก.พ.ต.ท.ไตรกิตติ สินไธสง รอง ผกก.(สอบสวน) ได้รับทราบจากนั้นพร้อมด้วยชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพหญิง 1 คน สวมเสื้อสีขาวท่อนล่างเปลือย ทราบชื่อต่อมาว่านางดา อายุ 59 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านดังกล่าว สภาพพึ่งเสียชีวิต โดยร่างกายถูกตัดส่วนของศีรษะ ขาข้างซ้ายแยก และขาข้างขวา ตกกระจัดกระจายอยู่ตรงกลางซอย



จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบส่วนที่เป็นร่างกาย ศีรษะ และขาข้างซ้าย แต่ยังไม่พบขาข้างขวา รวมทั้งไม่พบบุคคลต้องสงสัยอยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กันสถานที่เอาไว้และตรวจหาหลักฐานพบกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวพบชาย 1 คนนำวัตถุบางอย่างออกจากบ้านไปท้้งในซอยดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงตามแสงไปจนถึงบ้านคอนกรีตกึ่งไม้ 2 ชั้นของนางดาซึ่งอาศัยอยู่กับสามีคือ นายหมาย อายุ 59 ปี แต่ปรากฎว่าขณะพบนายหมายถือขวานและมีดอยู่ในมือทั้ง 2 ข้าง เมื่อเจ้าหน้าที่จะเข้าไปสอบถามก็ได้ใช้อาวุธทั้งจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่หลีกออกมาและปิดล้อมบ้านเอาไว้ ระหว่างนั้นได้ให้ญาติเกลี่ยกล่อมให้นายมหมายมอบตัวแต่ไม่เป็นผล กระทั่งช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.30 น.เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังปีนขึ้นไปบนบ้านและใช้ไม้ง่ามจับกุมตัวเอาไว้ได้



จากการตรวจมือของนายหมาย มีดและขวานพบคราบเลือด ภายในบ้านก็มีเลือดนองพื้นโดยเฉพาะบนชั้น 2 พบเลือดกองใหญ่ และพบรอยเลือดทางลงบันไดรวมทั้งหยดเลือดไปจนถึงจุดพบศพภายในซอย 9 นอกจากนี้ภายในตู้เย็นของบ้านพบขวาข้างขวาถูกเก็บไว้ด้วย อย่างไรก็ตามนายหมายมีอาการคลุ้มคลั่งไม่ได้สติและไม่ยอมให้การใดๆ เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาว่า "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย" จากนั้นประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์โรงพยาบาลดอยหลวงให้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บหลักฐานเป็นมีด 1 เล่น ขวาน 1 เล่ม ฯลฯ ไว้เป็นหลักฐาน และดำเนินคดีตามกฎหมาย



พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย เปิดเผยว่าผู้เป็นสามีมีประวัติเคยเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยจิตเวชมาก่อน สาเหตุเพราะติดยาเสพติดและสุราอย่างหนัก อย่างไรก็ตามระยะหลังไม่ได้กลับไปรับการรักษาและไม่ได้กินยาอีก จึงอาจเกิดการคุ้มคลั่งและก่อเหตุน่าสลดใจดังกล่าว อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ถึงสาเหตุของการก่อเหตุดังกล่าว