อาชญากรรม

รวบพระครูปลัดล่วงละเมิดสามเณรในกุฏิ นานกว่า 3 ปี พบผู้เสียหายแล้ว 6 ราย

โดย kanyapak_w

1 ส.ค. 2567

2.5K views

พลตำรวจตรีศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ แถลงข่าวผลการจับกุมพระครูปลัดที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอปากน้ำโพ จังหวัด นครสวรรค์ หลังพบมีพฤติการณ์ลวงสามเณรซึ่งเป็นศิษย์ที่อยู่ในความดูแลมาล่วงละเมิดทางเพศในกุฏิ



พลตำรวจตรีศารุติ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ ตำรวจกองกำกับการ 1 บก.ปคม. ได้เข้าจับกุม พระครูปลัดประเมษฐ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ฐานข่มขืนกระทำชำเรา ผู้อื่น กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเป็นศิษย์ที่อยู่ในความดูแล บังคับขู่เข็ญให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร กระทำการลามกอนาจาร



โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์นำเด็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองพามาบวชเป็นสามเณรในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนมาล่วงละเมิดทางเพศถึงในกุฏิ นานกว่า 3 ปี ตั้งแต่ครั้งยังจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครเมื่อปี 2559-2561 ขณะนี้พบผู้เสียหายทั้งสิ้น 6 ราย แต่เชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงตรวจสอบด้วยว่า มีการถ่ายภาพอนาจารไปหาผลประโยชน์ ซึ่งจะเข้าข่ายการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่



ว่าที่พันตำรวจเอกก่อเกียรติ วุฒิจำนวค์ ผู้กำกับการ 1 บก.ปคม. กล่าวว่า กรณีนี้ ตำรวจได้รับเรื่องร้องเรียนจากบุคคลที่ไม่เปิดเผยตัวตนมาเมื่อช่วงสิ้นปี 2566 โดยพบว่าเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2559-2561 แต่เรื่องเงียบมาตลอด เพราะผู้ต้องหามีการข่มขู่เด็ก รวมถึงเด็กบางคน ก็ได้พยายามบอกผู้ปกครอง แต่ผู้ปกครองไม่เชื่อ ด้วยความน่าเชื่อถือของพระครูปลัด และความน่าเชื่อถือของวัด



หลังได้รับข้อมูล ตำรวจจึงทำการสืบสวน ติดตามตัวผู้เสียหาย ซึ่งปัจจุบันโตแล้ว มาสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จนพบว่าเป็นเรื่องจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานและเข้าจับกุมเมื่อวานนี้ ซึ่งขณะเข้าจับกุมที่วัดในจังหวัดนครสวรรค์ ก็ยังพบเด็กชายวัย 11 ปี นอนอยู่ภายในห้องเดียวกันกับผู้ต้องหา สอบถามเบื้องต้นพบว่าตกเป็นเหยื่อ ถูกกระทำเหมือนกัน จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นโรคใคร่เด็ก และน่าจะทำต่อเนื่องมานาน ตั้งแต่จำพรรษาวัดที่กรุงเทพฯ จนย้ายมาที่วัดในจังหวัดนครสวรรค์



จากการตรวจค้นภายในกุฏิ พบว่ามีความผิดปกติ เพราะลักษณะใหญ่โต เป็นบ้านหลังหนึ่ง มีการติดกล้องวงจรปิดโดยรอบกว่า 20 ตัว และระมัดระวังบุคคลที่เข้าออกตลอด ภายในยังพบเครื่องประทินผิวจำนวนมาก และมีคอมพิวเตอร์เกมมิ่ง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ควรอยู่ในกุฏิพระสงฆ์ ส่วนภายในห้องนอน พบมีฟูกสำหรับเด็ก อยู่ข้างกันติดกับเตียงของผู้ต้องหา ทั้งนี้ ไม่พบอุปกรณ์เกี่ยวกับการร่วมเพศ หรือสื่อลามกอนาจาร แต่อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์เพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะมีการนำไปซุกซ่อน เพราะมีการประวิงเวลากว่า 20 นาที กว่าจะยอมเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น



พันตำรวจโทบุรินทร์ กะปิตถา สารวัตรกองกำกับการ 1 บก.ปคม. กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหาพบว่า หลังจากได้รับความเชื่อใจของผู้ปกครอง ที่พาลูกหลานมาบวชเป็นสามเณรในปกครอง ช่วงค่ำ ผู้ต้องหาจะเรียกสามเณรเข้าไปทึ่ห้อง อ้างว่าไปทบทวนท่องบทสวดมนต์ หลังจากนั้น จะทำทีเป็นให้นวดให้ ค่อยๆ สร้างความคุ้นเคย จนสบโอกาสไปสู่การกระทำชำเรา ทำแบบนี้เดิมๆ ซ้ำๆ กับผู้เสียหายหลายคน ซึ่งทุกคนให้การสอดคล้องกัน โดยมีผู้เสียหายคนหนึ่งที่ถูกกระทำเกือบ 100 ครั้ง



ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหามีการย้ายวัดมาในช่วงปี 2561 เป็นเพราะเริ่มมีข่าวกระจายในวัดเดิม และมีการตรวจสอบภายใน แต่เนื่องจากยังไม่มีผู้ร้อง จึงบังไม่ถูกดำเนินคดี ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหาไม่ได้กระทำกิจของสงฆ์อย่างที่ควร ไม่บิณฑบาต แต่มีรายได้จากการให้เช่าวัตถุมงคล ซึ่งเปิดให้เช่าทางสื่อออนไลน์



โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการให้ผู้ต้องหาสีก และส่งตัวมาดำเนินคดีที่ กองกำกับการ 1 บก.ปคม. จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง แต่ตำรวจยืนยันว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่เชื่อว่ามีการกระทำผิดจริง จึงคัดค้านการประกันตัว และจะนำตัวฝากขังต่อศาลอาญาในวันพรุ่งนี้ และหากมีผู้เสียหายเพิ่มเติมก็สามารถเข้ามาแจ้งความที่ บก.ปคม.ได้



คุณอาจสนใจ