สอบเข้มไกด์เวียดนาม ยันไม่รู้เรื่องวางยา ขณะที่ตำรวจส่งยางูหมายเลข 7 ตรวจสอบ

ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของชาวต่างชาติ 6 ราย ในโรงแรมดังย่านราชประสงค์ กทม. ต่อมาพบว่าถูกวางยาพิษ สารไซยาไนด์ในแก้วชา

ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตำรวจได้เชิญ นายฮุ่ง อายุ 50 ปี สัญชาติเวียดนาม อดีตสามี น.ส.ถี เหงียน ฟอง แลน 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ชักชวนกลุ่มผู้เสียชีวิต มาร่วมลงทุน เข้ามาสอบปากคำที่ สน.ลุมพินี เนื่องจากพบว่าเป็นผู้วิดีโอคอลกับ น.ส.ถี เหงียน ฟอง แลน ก่อนเสียชีวิต

จากการสอบปากคำ นายฮุ่ง ให้การว่า เป็นข้าราชการเวียดนาม อยู่ระหว่างเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันไม่ได้อยู่กับ น.ส.ถี เหงียน ฟอง แลน ก่อนเกิดเหตุได้พูดคุยวิดีโอคอลกับอดีตภรรยาก่อนเสียชีวิต

โดยหลังการสอบปากคำเป็นเวลานานกว่า 5 ชั่วโมง เชื่อว่า นายฮุ่ง ไม่น่ามีส่วนรู้เห็นกับการวางยาพิษ ขณะที่ทีมข่าวได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริงต่างกับล่ามแปลภาษาของนายฮุ่ง ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่ได้รับคำตอบกลับมาเป็นภาษาเวียดนาม

จากการสอบปากคำ นายฟาน อายุ 35 ปี สัญชาติเวียดนาม ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า น.ส.ถี เหงียน ฟอง แลน เคยมาเป็นลูกทัวร์กับตนอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้รู้จักกันในระดับหนึ่ง ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้รับการประสานจาก น.ส.ถี เหงียน ฟอง แลน ให้ไปซื้อยางูหมายเลข 7 ซึ่งเป็นภาษาที่รู้กันทั่วไปในกลุ่มไกด์ทัวร์ ที่มีลูกทัวร์เป็นคนจีนหรือเวียดนาม ว่ายาดังกล่าวคือยารักษาอาการปวดไขข้อ และยืนยันว่าตนไม่รู้เรื่องกับการวางยาพิษแต่อย่างใด ซึ่งเบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อ จึงนำตัวยาดังกล่าวส่งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ชุดสืบสวนสงสัย น.ส.ถี เหงียน ฟอง แลน  ผู้เสียชีวิตชาวเวียดนาม ผู้ที่ชักชวนกลุ่มผู้เสียชีวิตมาร่วมลงทุน กับ น.ส.เชอลีน ชอง อายุ 56 ปี ชาวเวียดนาม สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นคนตั้งเรื่องชักชวนชาวเวียดนาม ระดมทุนประกอบธุรกิจโรงพยาบาลที่ประเทศญี่ปุ่น เป็น 2 ผู้ต้องสงสัย ก่อเหตุวางยาเพื่อนร่วมชาติ

สำหรับ น.ส.เชอลีน ชอง อายุ 56 ปี ได้รับการประสานข้อมูลหน่วยงานสืบสวนพิเศษสหรัฐอเมริกา ว่ามีประวัติถูกผู้เสียชีวิตชาวเวียดนาม แจ้งไว้ที่ตำรวจซานฟรานซิสโก ว่าถูก น.ส.เชอลีน ชอง ต้มตุ๋น อ้างว่าสามารถขอสัญชาติอเมริกัน แลกกับค่าดำเนินการ เป็นเรื่องที่เกิดมานานกว่า 10 ปี แต่อัยการสหรัฐฯ สั่งไม่ฟ้อง ทำให้ไม่มีประวัติในการก่อคดี