อาชญากรรม

เปิดอาหารมื้อสุดท้าย 6 ชาวเวียดนามตายหมู่ ถูกวางยาคาโรงแรมหรู พบร่องรอยดื่มชา-กาแฟก่อนเสียชีวิต

โดย petchpawee_k

17 ก.ค. 2567

3.4K views

สลดกลางกรุง! พบชาวเวียดนามตายหมู่ 6 ศพ คาห้องพักโรงแรมดัง ย่านราชประสงค์ ตั้งข้อสงสัยถูกวางยาพิษหรือไม่ – เปิดภาพร่องรอยดื่มชา-กาแฟเกลี้ยงแก้ว ส่วนอาหารทั้ง “ข้าวผัด-ผัดผัก-ต้มยำ” ยังไม่ทันได้กิน –ขณะที่วงจรปิดบันทึกนาทีผู้ตายทั้ง 6 ลากกระเป๋าเข้าที่พักก่อนพบเป็นศพปริศนา – กู้ภัยลำเลียงร่างส่งชันสูตรการละเอียดที่ รพ.จุฬาฯ


วานนี้ (16 ก.ค.67) เวลาประมาณ 19.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต 6 ราย ภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ย่านราชประสงค์ (โรงแรมไฮแอท เอราวัณ) ในพื้นที่ สน.ลุมพินี โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม  ตอนแรกมีการรายงานถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่ามาจากการจากถูกยิง ก่อนที่ในเวลาต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า  จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ คาดว่าโดนวางยาพิษ  มีร่องรอยการดื่มเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ แต่ยังไม่สามารถฟันธงสาเหตุการเสียชีวิตได้ โดยเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นสืบสวนสอบสวนไว้หลายประเด็น

สำหรับผู้เสียชีวิต 6 ราย พบว่าเป็นชาย 3 และหญิง 3 ประกอบด้วย


1. Ms. SHERINE CHONG (นางเชอรีน ช็อง) อายุ 56 ปี

ชาวเวียดนามสัญชาติอเมริกัน เข้าประเทศไทยล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ก.ค.67 พบเคยเดินทางเข้า-ออก  5  ครั้ง


2. Mr. HUNG DANG VAN (นายฮัง แดง วาน) อายุ 55 ปี

ชาวเวียดนาม สัญชาติอเมริกัน เข้าประเทศไทยล่าสุด เมื่อวันที่ 7ก.ค.67 พบเดินทางเข้า-ออก  1  ครั้ง


3. Ms. THI NGUYEN PHUONG LAN (นางที เหงียน ฟอง แลน) อายุ 47 ปี

ชาวเวียดนาม สัญชาติเวียดนาม เข้าประเทศไทยล่าสุด เมื่อวันที่4 ก.ค.67 พบเคยเดินทางเข้า-ออก  17  ครั้ง


4. Mr. HONG PHAM THANH (นายฮง ฟาม ทัน) อายุ 49 ปี

ชาวเวียดนาม สัญชาติเวียดนาม เข้าประเทศไทยล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ก.ค.67 เดินทางเข้า-ออก  1  ครั้ง


5. Mr. DINH TRAN PHU (นายดิ่ญ ทราน ฟู) อายุ 37 ปี

ชาวเวียดนาม สัญชาติเวียดนาม เข้าประเทศไทยล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ก.ค.67 พบเดินทางเข้า-ออก  11  ครั้ง


6. Ms. THI NGUYEN PHUONG (นางถี เหงียน ฟอง) อายุ 46 ปี

ชาวเวียดนาม สัญชาติเวียดนาม เข้าประเทศไทยล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ก.ค.67 พบเดินทางเข้า-ออก  3  ครั้ง


ในเวลาต่อมา  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี  ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง  เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน หรือ พฐ. ทั้งนี้ มีภาพช่วงที่ตำรวจ พฐ. เข้าตรวจจุดเกิดเหตุ  จะเห็นว่า ศพทั้ง 6 นอนเสียชีวิตใกล้กัน ในห้องเดียวกัน  โดย 2 ศพอยู่บริเวณประตูห้อง  ส่วนอีก 4 ศพ อยู่บริเวณโต๊ะกินข้าว ซึ่งบนโต๊ะพบว่ามีร่องรอยการดื่ม ชา-กาแฟ


สำหรับเมนูอาหารที่พบอยู่บนโต๊ะ มีทั้งหมด 6 จานด้วยกัน คือ เมนูข้าวผัดไข่ดาว 6 จาน มีการแกะซีลแค่ 1 จาน แต่ยังไม่พบร่องรอยการรับประทานแต่อย่างใด  เช่นเดียวกับ  ต้มยำ และ ผัดผัก ที่มีการแกะซีลแค่ 1 จาน  มีน้ำเปล่า 1 ขวดที่ถูกเปิดแล้วเทไปบางส่วน  นอกจากนี้ยังพบด้วยว่ามีกระเป๋าเดินทางหลายใบ แพ็คเตรียมเดินทางอีกด้วย ส่วนภายในห้องไม่มีร่องรอยการรื้อค้นแต่อย่างใด 


พร้อมกันนี้ ทีมข่าวได้ภาพนิ่งจากกล้องวงจรปิด จากการตรวจสอบ กล้องด้านหน้าทางเข้าโรงแรมดังกล่าว พบว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย ลากกระเป๋าสัมภาระเดินทางเข้าไปยังโรงแรมโดยทั้งหมด 6 คน เดินทางเข้ามาเช็กอินที่โรงแรมไม่พร้อมกัน   ชุดแรกเข้ามาวันที่ 13 ก.ค.67 และชุดที่ 2 มาวันที่ 14 ก.ค.67 ซึ่งผู้เข้าพักชุดแรก พักอยู่ที่ชั้น 7 จำนวน 4 ห้อง  พักที่ชั้น 5 จำนวน 1 ห้อง รวมเปิดห้องพัก 5 ห้อง ส่วนในภาพวงจรปิดเป็นวันที่ 15 ก.ค. 67 คาดว่าทั้งหมดกำลังเดินกลับเข้าห้องพักก่อนจะเสียชีวิต และมีรายงานด้วยว่า ในวันนี้ (17 ก.ค.67) โรงแรมดังกล่าวจะมีการประชุมรัฐมนตรีพลังงานจากรัสเซีย


ส่วนกระเป๋าเดินทาง และข้าวของต่างๆ ของผู้ตายทั้ง 6 ราย  พบว่ามีกระเป๋าเดินทาง จำนวน 8 ใบ  ซึ่งเมื่อเวลา 01.30 น.ที่ผ่านมา (17 ก.ค.67)   เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำไว้ที่ สน.ลุมพินี รอการตรวจสอบ  ก่อนที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะแถลงความคืบหน้าทางคดีเพิ่มเติมอีกครั้งในวันนี้ (17 ก.ค.67)

----------------------------

“ผบช.น.” เผย พบศพชาวต่างชาติในโรงแรมหรู 6 ศพ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 24 ชม. พบ จองเช็คอิน 7 ราย เร่งตามหาบุคคลที่ 7 ตั้งคำถามมีจริงหรือไม่ หรือหายไปไหน - ประสาน สตม. ตรวจสอบประวัติการเข้าไทย พบ ขวดสแตนเลสต้องสงสัย 2 ขวด  ส่ง พฐ. ตรวจหาสารพิษ ชี้ ตำรวจ ไม่ได้ตั้งประเด็นว่าถูกวางยา เชื่อ มีคนใดคนหนึ่งประสงค์ชีวิต ส่วนด้วยวิธีการใด ให้นิติวิทยาศาสตร์เป็นคนบอก

เวลา 21.40 น. ภายหลังเกิดเหตุพบชาวต่างชาติเสียชีวิต 6 ศพ ที่โรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์  พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และพลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. แถลงรายละเอียดของเหตุการณ์ดังกล่าวต่อสื่อมวลชน


 พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า วานนี้เจ้าหน้าที่โรงแรม ได้เข้าไปทำความสะอาดห้องพักบริเวณชั้น 5  โดยห้องที่เกิดเหตุต้องเช็คเอาท์ในช่วงบ่าย แต่ไม่ได้เช็คเอาท์ จึงไปตรวจสอบและพบผู้เสียชีวิต  จากนั้นจึงแจ้งผู้บริหารโรงแรม และ สน.ในพื้นที่ตามลำดับ  หลังจากนั้น 17:00 น.  ฝ่ายสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จึงเข้าถึงที่เกิดเหตุ


ข้อมูลตอนนี้ มีผู้เสียชีวิต 6 คน ภายในห้องพัก พบศพในโซนรับแขก 4 คน  ในห้องนอน 2 คน เป็นเพศชาย 3 คน  เพศหญิง 3 คน  ทั้งหมดเดินทางมาเช็คอินที่โรงแรมไม่พร้อมกัน โดยเดินทางมาวันที่ 13 ก.ค. 1 ชุด และวันที่ 14 ก.ค. อีก 1 ชุด เช็คอินเข้าพักอยู่ที่ชั้น 7 ของโรงแรม 4 ห้อง และชั้น 5 อีก 1 ห้อง ทั้งหมด 5 ห้อง แจ้งการจองมา 7 คน แต่เช็คอินแค่ 5 คน พบศพ 6 ราย ซึ่งทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบว่า ข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศตรงกัน 5 ราย  แต่กลับพบศพ 6  ราย


พล.ต.ท.ธิติ ยังระบุว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุ 4 ห้องในชั้น 7 พบว่าต้องเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมวันที่ 15 ก.ค.67 ตอนช่วงบ่าย โดยมีการเก็บกระเป๋าไปรวมไว้ที่ห้องชั้น 5  มีการเดินทางเข้า-ออกโรงแรม เพราะบุคคลที่นัดหมายมารับ ไม่มาตามนัด และทางโรงแรมให้ข้อมูลว่าไม่มีการชำระค่าใช้จ่าย


พล.ต.ท.ธิติ ระบุว่า เชื่อว่าเสียชีวิตหลังจากเวลา 13.53 น. เพราะเมนูอาหารที่สั่ง มีลักษณะเป็นอาหารไทย อาหารจานเดียว 6 จาน วางอยู่ในห้องรับแขก ยังไม่มีร่องรอยรับประทาน และมีถ้วยเครื่องดื่ม 6 ถ้วย วางอยู่ตรงที่จัดเตรียม 5 ถ้วย และอยู่บนโต๊ะ 1 ถ้วย พบว่า เครื่องดื่มภายในแก้วถูกดื่มทั้งหมด และมีเศษตกค้างบนถ้วย จากการตรวจสอบในห้องน้ำ พบกระปุกชาที่ถูกซื้อมา ลักษณะคล้ายชาอู่หลง พร้อมน้ำเกลือแร่ 1 ขวด น้ำเปล่า 1 ขวด และทั้งสามชิ้นถูกเปิดใช้แล้ว โดย สพฐ. ได้เก็บไว้หมดแล้ว ตรงกับผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย และจะส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อหาว่า มีสารพิษอะไรหรือไม่  


ขณะที่ฝ่ายสืบสวนตรวจดู ว่ามีร่องรอยการต่อสู้ ร่องรอยการทำร้ายการรื้อค้น เพื่อมุ่งร้ายเอาทรัพย์หรือไม่  แต่เบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลที่ปรากฏชัดเจน มีเพียงรายเดียวที่มีบาดแผลบนใบหน้า  โดยสันนิษฐานว่า น่าจะล้มฟาดโดนวัสดุแข็ง ไม่ถูกทำร้าย ส่วนข้าวของยังอยู่เป็นปกติ เมื่อแม่บ้านเข้าไปตรวจดูพบว่าประตูถูกล็อกจากด้านใน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปทางประตูหลังไปเปิด โดยขณะนี้ฝ่ายสืบสวน ตำรวจนครบาล สตม. สรุปแนวทางที่สอดคล้องกัน ได้แก่

1. ต้องตรวจตรวจสอบบุคคลที่ 7 ก่อนว่าเดินทางเข้ามาจริงหรือไม่ หรือหายไปไหน

2.เก็บรายละเอียดทั้งหมดของบุคคลทั้ง 6 คน ผ่านทางสถานทูตและข้อมูลโซเชียลต่าง ๆ ที่ลงทะเบียนไว้

และ 3.หากบุคคลที่ 7 ไม่มี ต้องหามูลเหตุจูงใจในครั้งนี้


ส่วนกระเป๋าเดินทางของผู้ตายทั้งหมดที่อยู่ในห้อง ได้นำไปไว้ที่ สน.ลุมพินี  พร้อมประสานทางสถานทูต และตำรวจนครบาล 5 ไปพิสูจน์ร่วมกัน ว่าในกระเป๋ามีอะไรเป็นวัตถุพยานหรือพยานหลักฐานในครั้งนี้ได้ หรือบ่งบอกว่าบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้อง ข้อสรุปตอนนี้คือทั้งหมดไม่ได้ทำร้ายตัวเอง แต่ถูกคนอื่นทำให้เสียชีวิต


เมื่อถามว่าภายใน 24 ชั่วโมงมีใครเข้าออกในพื้นที่เกิดเหตุหรือไม่ พล.ต.ท.ธิติ ระบุว่า ตอนนี้กำลังไล่ดู ตั้งแต่ลงเครื่องบิน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงแรม แล้วจะทำไทม์ไลน์ทั้งหมดนำมาสรุปอีกครั้ง  โดย ผบ.สพฐ.จะเป็นผู้ดูแลเรื่องพยานหลักฐานทั้งหมด เพราะเจ้าหน้าที่จำกัดพื้นที่ทั้งหมดในการเข้าที่เกิดเหตุ ตรวจสอบรอยนิ้วมือ รอยเลือด บนพื้นห้องทั้งหมด และเรียกหน่วยพิษวิทยาเข้ามาตรวจสอบด้วย


พล.ต.ท.ธิติ กล่าวอีกว่า ยังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้งหรือไม่ ต้องรอดูข้อมูลจาก สตม. ซึ่งตอนนี้ตรวจสอบเพียงแค่ว่า เดินทางเข้ามาประเทศไทยจริงหรือไม่  ส่วนที่ถามว่าเป็นกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลบ้านเกิดหรือไม่ ยังไม่มีข้อมูล


ผบช.น. ยังระบุว่า เราไม่ได้ตั้งประเด็นว่าถูกวางยา แต่มีบุคคลคนหนึ่งประสงค์ชีวิตร่างกายของผู้ตาย แต่โดยวิธีการใด นิติวิทยาศาสตร์จะเป็นคนบอก พร้อมด้วยพยานหลักฐานมาเชื่อมโยงกัน หากสอดคล้องกันก็จะตอบได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และยืนยันว่าไม่มีการประทุษร้าย จากการตรวจสอบศพ พบว่า ผู้ตายพยายามไปที่ประตู แต่ไปไม่ถึง เพราะล้มอยู่หน้าประตู 2 ราย เป็นเพศชาย 1 ราย และเป็นเพศหญิง 1 ราย


ส่วนการเปิดประตู จะสอบปากคำแม่บ้านอีกครั้ง โดยโซนชั้น 5 เป็นพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งจะมีห้องที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ และมีความเป็นไปได้ที่จะใช้เส้นทางนี้ในการหลบหนี แต่ต้องดูว่าทางที่จะเดินมายังลิฟท์มีกี่ทาง โดยมีทางเดียว มิเช่นนั้นต้องกระโดดลงมา


พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า ตอนนี้เรากำลังตามหาบุคคลที่ 7 เพราะตัวเลขไม่ตรงกับที่เช็คอินไว้  ดังนั้นถ้ามาด้วยกันก็ต้องมีข้อมูลในการเดินทางเข้าประเทศ ที่นั่ง สายการบิน ต้องดูว่าเดินทางเข้ามาจริงหรือไม่  ซึ่งขณะนี้เรายังไม่ตัดประเด็น ต้องมีคำตอบนี้ให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากไม่มี ไม่มีเพราะอะไร และขณะนี้ให้ทางสถานทูตตรวจสอบ ว่าผู้ตายแต่ละคนทำอาชีพอะไรและมีจุดประสงค์อะไรในการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย พร้อมสอบปากคำพนักงานที่เข้ามาเสิร์ฟอาหารว่าเห็นความผิดปกติไม่


ส่วนการสอบปากคำไกด์ ผบช.น. บอกว่า รูปภาพของไกด์ที่ได้มา  ไม่ตรงกับตอนที่มาสอบปากคำ  คนที่มาสอบปากคำ เขาบอกว่าถูกสั่งให้มาตรวจสอบ และมีความเป็นไปได้ว่า จะมารับกลุ่มผู้เสียชีวิตไปสนามบิน แต่มาแล้วติดต่อไม่ได้


ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุมีวัตถุต้องสงสัย 2 ชิ้น เป็นวัตถุสแตนเลส 2 ขวด ซึ่งไม่ใช่วัตถุของทางโรงแรม แต่ปรากฏอยู่ในห้อง โดยยังไม่ได้ตรวจสอบเครื่องดื่มด้านใน และจากรูปถ่าย เล็บมือเล็บเท้าของผู้เสียชีวิต มีลักษณะดำคล้ำ แต่อาจเกิดจากสาเหตุการเสียชีวิตมาประมาณ 24 ชั่วโมง โดยการชันสูตรพลิกศพครั้งนี้ ส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย


ผบช.น. ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานที่ปิด และขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีใครติดต่อกับผู้เสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 13 ถึง 14 ก.ค. หรือไม่  ตอนนี้ต้องขอสอบปากคำแม่บ้านก่อน หากมีข่าวสารข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาก็ส่งมาได้

---------------------------

“นายกฯ” เผย เป็นเหตุไม่คาดคิด ยันไม่กระทบการท่องเที่ยว หลังพบชาวเวียดนามเสียชีวิตคาโรงแรมดัง ด้าน “อนุทิน” รุดที่เกิดเหตุ บอก “ณ วินาทีนี้ เหมือนเป็นการทำร้ายตัวเอง” ระบุ ให้รอผลชันสูตรละเอียด ยันไม่ใช่ก่อการร้าย ไม่มีอะไรต้องตื่นตระหนก

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เกิดเหตุที่โรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์ เพื่อติดตามเหตุชาวต่างชาติเสียชีวิต 6 ศพ และแถลงข่าวกับสื่อมวลชน


โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด  เบื้องต้นพบว่า เวลา 16.30 น. พบศพชาวเวียดนาม 6 ราย เป็นเชื้ออชาติเวียดนาม 4 ราย สัญชาติอเมริกา 2 ราย สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้ว 24 ชั่วโมง เบื้องต้น จากที่เกิดเหตุ ไม่มีการชิงทรัพย์ ประทุษร้ายเกิดขึ้น สันนิษฐานเบื้องต้นขึ้นอยู่กับการชันสูตรพลิกศพ และกองพิสูจน์หลักฐาน โดยได้สันนิษฐานว่าได้รับประทานอะไรเข้าไปหรือไม่


ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวการปล้นทำร้าย   สันนิษฐานว่าอาจมีคนเวียดนามอีกคน ซึ่งยังไม่สามารถหาตัวเจอ แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงน่าจะทราบ และไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยได้คุยกับทางทูตของเวียดนามแล้ว ก็ได้อธิบายไปในเบื้องต้น


ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 22.45 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาที่เกิดเหตุด้วย ก่อนจะให้สัมภาษณ์ ว่า ให้รอฟังสรุปจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แต่ยังไม่มีผลสรุปอย่างเป็นทางการ ก็ต้องรอทางตำรวจแถลงอย่างเป็นทางการ


เมื่อถามว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านก็เป็นห่วง และท่านได้มาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเรื่องของการชันสูตรพลิกศพ หรือการเก็บพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ก็ต้องรอตามขั้นตอน เพราะเหตุเพิ่งเกิด และเพื่อให้ทำทุกอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีรายละเอียด  เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่ถือว่าสะเทือนขวัญ จึงจะต้องรอให้ข้อมูลนั้นนิ่งก่อน


เมื่อถามว่าจะมีการกำชับอะไรในหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องกำชับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นอกเหนือการควบคุมใดๆ ไม่ใช่เรื่องการทะเลาะวิวาท หรือการฆาตกรรมด้วยสาเหตุที่มีความขัดแย้งกันแต่อย่างใด หากสรุปสั้นๆ ก็คือ “ณ วินาทีนี้ ดูเหมือนเป็นการทำร้ายตัวเอง แต่ก่อนที่จะไปพูดอะไรก็ให้ตำรวจใช้ขั้นตอนการพิสูจน์หลักฐาน และรอการแถลงดีกว่า”


ส่วนจะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายหรือไม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า เรื่องนี้ประเทศไทยไม่ได้มีอะไรเสียหาย ผู้เสียชีวิตก็เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา และไม่ได้ถูกคนไทยทำร้าย เราต้องแยกแยะ อย่าไปด่วนสรุปแบบนั้น ประเทศเรากำลังมาดีๆ นักท่องเที่ยวกำลังเข้ามาในประเทศ กำลังสร้างรายได้ให้กับเราอย่างมหาศาล จึงขออย่าเพิ่งไปด่วนสรุป


“ผู้เสียชีวิตก็เป็นคนแวดวงเดียวกัน มาด้วยกัน อยู่ในห้องเดียวกัน ซึ่งดูแล้วเบื้องต้นก็ไม่มีใครเข้าไปลอบทำร้าย หรือใช้อาวุธใดๆ เขาคงมี Mission ของเขาอะไรบางอย่าง ซึ่งตรงนี้ก็ต้องรอการพิสูจน์" นายอนุทิน กล่าว



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/PYelJBwb85Y

คุณอาจสนใจ

Related News