รวบหนุ่มทหารเกณฑ์โหด ใช้มีดแทงอกแฟนสาว อดีตแม่บ้านรัฐสภา หมกห้องกว่า 7 วัน

ตำรวจสามเสนตามรวบ ทหารเกณฑ์โหดฆ่าแฟนสาว อดีตแม่บ้านรัฐสภา ตายคาห้องเช่าอพาร์ทเมนท์ คาดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 7 วัน ก่อนหนีกลับหน่วยขึ้นสนามชายแดนเชียงราย เร่งประสานทหารพระธรรมนูญนำตัวกลับมาดำเนินคดี

วานนี้ (9 ก.พ.) ตำรวจ สน.สามเสน รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวอยู่ภายในห้องพัก ของอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ในซอยสามเสน 28 ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ ผกก.สน.สามเสน / เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู  โดยผู้พักอาศัยที่อพาร์ทเมนท์แห่งนี้ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากห้องที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นห้องพักชั้น 2 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่า ประตูถูกล็อกจากด้านนอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้เจ้าของหอพักเป็นคนเปิดประตู ภายในห้องพบร่างนางสาวเขมฤทัย อายุ 30 ปี อดีตทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาดอยู่ที่รัฐสภา นอนเสียชีวิตบนที่นอน สภาพถูกแทงบริเวณลิ้นปี่ สวมเสื้อถึง 2 ชั้น เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 7 วัน จึงนำศพส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต

ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอพาร์ทเมนท์ที่เกิดเหตุ พบว่า เวลา 18.25 น. ของวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ชายต้องสงสัยซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต สวมใส่ชุดลายพรางทหาร สวมหมวก สะพายกระเป๋าเป้ และถือถุง เดินลงมาจากบันไดชั้น 2 เดินผ่านผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้า ออกจากอพาร์ทเมนท์ไป หลังจากนั้น ก็ไม่เห็นชายคนดังกล่าวกลับมาที่นี่อีก และไม่มีใครพบเห็นผู้เสียชีวิตออกมาจากห้องพัก กระทั่งพบเป็นศพ

น.ส.ดาริกา อายุ 29 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า พี่สาวเสียชีวิต ตนตกใจ ตอนแรกยังไม่อยากจะเชื่อว่าคือเรื่องจริง จนกว่าจะเห็นศพของพี่สาว และเมื่อเดินทางมาดูศพ ก็พบว่าเป็นพี่สาวจริง ๆ  

ที่ผ่านมา ตน และพี่สาว ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ทราบว่าพี่สาวได้โทรศัพท์ไปบอกแม่ว่าจะขอกลับบ้าน เนื่องจากลาออกจากงาน แต่ไม่ทราบเหตุผล มีทราบบ้างว่า พี่สาวคบหากับแฟนหนุ่มที่เป็นทหาร มาประมาณ 1 ปี  แต่ไม่ทราบว่า ทั้งคู่มีปัญหา หรือทะเลาะเบาะแว้งอะไรกันหรือไม่ เนื่องจากตนไม่ได้สนิทสนมกับพี่สาวมากนัก แต่มองว่า สิ่งที่พี่สาวถูกกระทำนั้น มันโหดร้ายมาก คนก่อเหตุไม่ได้นึกถึงช่วงเวลา หรือความรู้สึกตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยกันเลย จึงอยากฝากบอกให้คนก่อเหตุเข้ามามอบตัว อยากจะถามว่าด้วยเหตุผลใด จึงต้องใช้ความรุนแรงถึงขั้นเอาชีวิตกัน

ด้าน นายวิชิต อายุ 61 ปี เจ้าของอพาร์ทเมนท์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ชั้น 2  พบเจอครั้งสุดท้าย เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากมาจ่ายเงินค่าห้องพัก

เบื้องต้นทราบว่า อยู่เพียงลำพัง แต่ช่วงประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา มีแฟนหนุ่มมาอาศัยอยู่ด้วย แบบไป ๆ มา ๆ ซึ่งตนไม่เคยพบแฟนหนุ่มของผู้ตาย และตนก็ไม่ได้สนิทสนมกับผู้ตาย เพราะตนไม่ได้อยู่ที่นี่เป็นประจำ แต่เห็นแฟนหนุ่มของผู้ตายครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา เห็นว่าออกจากห้องพักไปพร้อมกับกระเป๋าเป้ และถุงผ้าอีกหนึ่งใบ จากนั้น ก็ไม่กลับเข้ามาอีกเลย ส่วนแฟนหนุ่มจะเป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่ ตนไม่ทราบ

เจ้าของอพาร์ทเมนท์ กล่าวว่า ตนดูแลที่นี่มา 9 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน หลังจากนี้ ก็จะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาทำความสะอาดในห้อง ขจัดกลิ่นเหม็นเน่าออก

ก่อนที่จะทำบุญครั้งใหญ่ เพื่อให้ผู้พักอาศัยรู้สึกสบายใจขึ้น แต่เชื่อว่าทุกคนน่าจะเข้าใจ เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

ด้าน นายสอนชัย อายุ 43 ปี ผู้พักอาศัยในอพาร์ทเมนท์ เล่าว่า ตนเคยเจอผู้เสียชีวิต แต่ไม่ค่อยได้พูดคุยกัน ส่วนแฟนหนุ่มที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ก็เคยเจอกันบ้าง ครั้งล่าสุดที่เจอ คือวันที่เขาสะพายกระเป๋าเดินออกจากอพาร์ทเมนท์ ผ่านกลุ่มพวกตน ซึ่งนั่งดื่มกินอยู่หน้าอพาร์ทเมนท์ เขาไม่ได้มีอาการลุกลี้ลุกลน ไม่มีอะไรผิดสังเกต และไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ

กระทั่ง สามวันก่อน ได้กลิ่นเหม็นลอยโชยออกมา ก็คิดว่ามีใครเสียชีวิตหรือไม่ และก่อนเจอศพหนึ่งวัน ตนนั่งกินข้าวอยู่กับภรรยาข้างล่างคึก กลิ่นเหม็นแรงมาก จึงเดินไปดูชั้นสองที่ห้องของผู้ตาย ได้กลิ่นออกมาจากห้อง แต่พบว่าล็อกประตูจากด้านนอกไว้  จึงโทรแจ้งเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ มาเปิดกุญแจห้องเข้าไปตรวจสอบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่

พันตำรวจเอกนิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ ผู้กำกับการ สภ.สามเสน เผยว่า ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบแน่ชัดว่า ผู้ก่อเหตุคือแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต คือ สิบตรีสุนัย ทาแน่น อายุ 24 ปี เป็นทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2/64 สังกัด ม.3 พัน.18 ปัจจุบันปฏิบัติราชการสนามชายแดน จ.เชียงราย

โดยเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก / กองกำลังผาเมือง และตำรวจ สภ.แม่สาย นำหมายจับศาลทหารกรุงเทพ ลงวันที่ 9 ก.ค. 67 ไปจับกุมตัว ที่ฐานปฏิบัติการบ้านผาหมี และนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.แม่สาย โดยระหว่างถูกควบคุมตัว ผู้ต้องหาไม่ยอมพูด หรือตอบอะไร ได้แต่ก้มหน้าตลอดเวลา

ขณะที่ ตำรวจชุดสืบสวนของ สน.สามเสน เดินทางไปยัง จ.เชียงราย เพื่อรับตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำที่ สน.สามเสน กรุงเทพฯ เพื่อหาชนวนเหตุ และดำเนินคดีต่อไป  

ผู้สื่อข่าว รายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวของผู้ต้องหา พบว่า ก่อนถูกจับกุม ได้โพสต์ภาพตัวเองอยู่ในชุดทหารถือปืน และเมื่อหกวันที่แล้ว โพสต์คลิปผ่านช่องทาง Reels โดยมีการแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ดังกล่าวว่า “นักรบไม่ใช่นักรัก”

-------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/62zn6aojriE