ผอ.รร.แจง กรณีครูสั่งนร.ลุกนั่ง 150 ครั้ง เพราะสมุดการบ้านหาย ทำกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรงนอนรพ. 7 วัน

(28 มิ.ย. 67) จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพเด็กนักเรียนอายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.4 พร้อมกับระบุว่า เหตุการณ์วันนี้ ทำแม่เลี้ยงเดี่ยวเครียดและลูกก็เครียด คุณครูจะเครียดด้วยไหม?? เรื่องมีอยู่ว่า ลูกทำสมุดรายวิชาหนึ่งหายไม่ได้ส่งการบ้าน คุณครูสั่ง

ลงโทษให้ลุกนั่ง 150 ครั้ง ลูกรู้ว่าตัวเองผิดก็ทำตามคำสั่ง คุณครู แต่สิ่งที่เกิดขึ้นลูกโทรหาแม่ตอนเที่ยงบอกปวดกล้ามเนื้อขามาก ตอนแรกก็คิดว่า แค่อักเสบพามาหาหมอ ที่ รพ.อาการที่หมอตรวจเจอกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง ค่าผลเลือดผิดปกติสูงมากต้องเข้ารักษาเร่งด่วน หมอบอกความรุนแรงอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ

จากการลุกนั่งทำให้เลือดอาจไปเลี้ยงหัวใจไม่ทัน หรืออาจจะเกิดไตวายเฉียบพลันได้เกิดมาจากอาการเหนื่อยและเสียเหงื่อ สภาพตอนนี้นอนพักที่เตียงอย่างเดียว ห้ามลุกจนกว่าผลเลือดจะดีขึ้น คนเป็นแม่งานต้องทำ ลูกก็ต้องดูแลทำงานเหนื่อยมาทั้งวันต้องมานอนเฝ้าลูกทั้งที่ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้


ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเด็กได้นอนอยู่โรงพยาบาลรักษาตัวเป็นเวลา 7 วัน แล้วและทางโรงเรียนยังไม่มีการเข้าเยี่ยม หรือออกมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด


จากโพสต์ที่เห็นผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังแม่เด็กนักเรียนที่ประสบเหตุ ซึ่งทางแม่แจ้งว่ายังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เนื่องจากติดทำงานอยู่

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายวิรัช ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว เพื่อสอบถามกรณีที่ครูสั่งทำโทษนักเรียนลุกนั่ง 150 ครั้ง จนกล้ามเนื้ออักเสบถึงขั้นรุนแรง และสั่งไม่ให้แม่เด็กแจ้งความเอาผิดครูผู้สั่ง นายวิรัช เปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง และตนจึงได้บอกให้ครูรีบไปเยี่ยมเด็กที่โรงพยาบาลทันที และให้ติดตามอาการเด็กด้วย พร้อมกับพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ปกครองเด็ก


ส่วนสาเหตุมาจากที่เด็กไม่ได้ส่งการบ้าน ครูผู้สอนจึงได้สั่งทำโทษให้ลุกนั่ง 150 ครั้ง ซึ่งทางครูก็ยอมรับว่าสั่งทำโทษมากเกินไป หลังสั่งทำโทษวันรุ่งขึ้นเด็กก็มาเรียนตามปกติ แต่วันต่อมาเริ่มมีอาการอักเสบที่ขา ทางผู้ปกครองจึงพาไปหาหมอ


และหมอวินิจฉัยว่า เป็นกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง ต่อมาตนได้ไปเยี่ยมเด็กพร้อมกับครูที่สั่งทำโทษเด็ก ซึ่งในวันนั้นครูได้ยกมือไหว้ขอโทษผู้ปกครอง 2 ครั้ง และบอกเหตุผลที่ทำโทษเพื่อต้องการจะเขี้ยวเข็นเรื่องการเรียน


จากนั้นตนได้มอบเงินเยียวยาเบื้องต้น 10,000 บาท แต่ทางผู้ปกครองไม่รับ และบอกว่าขอให้ลูกหายดีก่อนและค่อยมาคุยกันอีกที ส่วนอาการเด็ก ตอนนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังต้องฟื้นฟูกล้ามเนื้ออีกซักระยะ และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เรื่องที่เกิดขึ้นตนต้องมาถอดบทเรียนให้กับครูที่คิดจะทำโทษเด็กต้องทำด้วยความเหมาะสม และให้เป็นไปตามระเบียบที่วางไว้