ออกหมายเรียกเจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักรายใหญ่ยึดของกลางกว่า 8 ล้านบาท เตรียมเตรียมเรียกเจ้าของฯ อีกรายมาดำเนินคดี

ปคบ.เตรียมแถลง หลังบุกจับอาหารเสริมลดน้ำหนักรายใหญ่ยึดของกลางกว่า 8 ล้านบาท อีกรายเตรียมเรียกเจ้าของฯ มาดำเนินคดีหลัง อย.ประกาศพบผสมไซบูทรามีน



จากกรณี เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 66 บก.ปคบ.ร่วม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) แถลงผลการตรวจค้นเครือข่ายผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนผสมไซบูทรามีน 2 ยี่ห้อดัง ประกอบด้วย



1. เครือข่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่เอส เอส โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียน ผ่านเว็บไซต์ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน บก.ปคบ. cppd 1135 ให้ทำการตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวว่า ที่โฆษณาจำหน่ายผ่านเฟซบุ๊ก เนื่องจากมีประชาชน รับประทานแล้วเกิดอาการใจสั่น มือสั่น ปวดศีรษะ จึงทำการตรวจสอบพบว่า ยังมีการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ



2. เครือข่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อ Levfitme (นามสมมติ)โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนประชาชน และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ทำการตรวจสอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนยี่ห้อ เรฟฟิตมี (Levfitme) ผ่านเฟซบุ๊กชื่อ “ณัฐรินทร์ XXXXX ” ซึ่งประชาชนผู้ร้องเรียนได้สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมารับประทานแล้วเกิดอาการปวดหัว เวียนศีรษะ หัวใจเต้นเรง



ก่อนส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ร่วม จนท.อย.ขอหมายค้นศาลฯ เข้าทำตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก,นครนายก,นนทบุรี และสงขลา  ตรวจยึดของกลางทั้ง 2 เครือข่าย รวม 36 รายการ มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ส่งกรมวิทยาศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ทำการตรวจพิสูจน์



ต่อมาวันที่ 3 เม.ย. เพจ FDA Thai (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อย.) ได้โพสต์ประกาศยืนยันผลการตรวจพิสูจน์ของกลางที่ยึดมาตรวจพบไซบูทรามีน (Sibutramine) ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว ระบุว่า

“สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับ กก.4 บก.ปคบ.ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมจำหน่าย จากสถานที่จำหน่ายอาหาร ชื่อ ห้างหุ่นส่วนจำกัด เรฟฟิตมี เลขที่ 79/208 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองเพรางายอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

ผลการตรวจวิเคราะห์พบ ไซบูทรามีน (Sibutramine) ซึ่งมีรายงานถึงผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต จัดเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในประเภท 1 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 พ.ศ.2565 ซึ่งเป็นอาหารที่น่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรืออนามัยของประชาชน จึงประกาศเตือนให้ประชาชนระมัดระวังในการซื้อหรือบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าว”



บก.ปคบ.มีหมายเรียกเจ้าของและผู้เกี่ยวข้องผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดังกล่าวมาพบ พงส.กก.4 บก.ปคบ.ในวันศุกร์ที่ 26 เม.ย.67 เวลา 10.00 น. รับทราบข้อกล่าวหาดำเนินคดีฐาน “จำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 (ไซบูทรามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า”



พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสริฐภาพกล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายที่สั่งซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนทางเพจเฟซบุ๊ก และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Lazada และ Shopee หลังรับประทานไปแล้วเกิดอาการใจสั่น มือสั่น ปวดศีรษะ จึงสั่งทดลองซื้อและนำส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1(ไซบูทรามีน) ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จึงเรียกผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีข้อหา “จำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 (ไซบูทรามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า”



เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รอง เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนดังกล่าวว่า ผสมสารไซบูทรามีน เมื่อรับประทานแล้วอาจทำให้ปวดหัว ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก เสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือด และเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองกรณีผู้มีโรคประจำตัวอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เช่น ทานแล้วลดน้ำหนักเห็นผลไว เห็นผลจริง ปลอดภัย การันตี ไม่มีผลข้างเคียง เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างใช้ลดน้ำหนักเหล่านี้มักพบว่า มีส่วนผสมของไซบูทรามีน หรือยาแผนปัจจุบัน ผลที่ได้อาจไม่คุ้มเสีย เพราะนอกจากจะเสียเงินแล้ว ยังเสียสุขภาพจากผลข้างเคียงของยาและอาจทำให้เสียชีวิตได้



นอกจากนี้ บช.ก.แจ้งว่า “วันพรุ่งนี้ 25 เม.ย.เวลา 10.30 น. ที่ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์(กองปราบ) บก.ปคบ.จะแถลงข่าวตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม อย.ลุยทลายแหล่งผลิต อาหารเสริมลดน้ำหนัก ผสมไซบูทรามีนรายใหญ่ มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท”ด้วย