อาชญากรรม

เหยื่อสำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรม สูญ 2 แสน เผยเคยขออาจารย์กลับมาดูแม่ผ่าตัด โดนบังคับไม่ให้ไป

27 ม.ค. 2567

841 views

เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2567 นาย เอ (นามสมมุติ) อายุ 47 และ นางสาว บี (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ชาว จ.ขอนแก่น นำภาพภายในสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย ต.หินโงม อ.เมือง จ.หนองคาย มาเปิดเผยกับสื่อมวลชน พร้อมนำเรื่องราวความผิดปกติภายในสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวมาเปิดเผย ภายหลังเพิ่งรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อถูกหลอกเอาเงินไปกว่า 200,000 บาท และได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้กับ ร.ต.อ.ศราวุธ จันทะวงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเดื่อ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมา



โดย น.ส.บี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ส่วนตัวชอบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมื่อช่วงเดือน ก.ค.2566 ที่ผ่านมา ได้ไปทำบุญที่วัดป่าคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และขากลับได้แวะที่บ้านนาคคำชะโนด ซึ่งเมื่อเข้าไปก็พบว่าเป็นช่วงที่มีการทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์พอดี ซึ่งมีประชาชนหลายคนนำลูกแก้วมาถวายในพิธีเป็นจำนวนมากตามความเชื่อและศรัทธา ซึ่งตนเองก็ได้ไหว้ขอพรโชคลาภเสร็จ ก็เห็นกลุ่มคนชุดขาวประมาณ 10 กว่าคน มาร่วมพิธีด้วย โดยตนเองเกิดความสนใจได้เข้าไปสอบถามว่ามาจากที่ไหนกัน จึงได้ทราบว่ามาจากสำนักฯ ที่ จ.หนองคาย และยังชักชวยมาร่วมปฎิบัติธรรมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย หลังพูดคุยเสร็จตนเองก็ได้เดินทางกลับขอนแก่นทันที



ด้วยความที่เป็นคนชอบในเรื่องแบบนี้อยู่แล้วจึงได้เดินทางมาที่สถานปฎิบัติธรรมดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่บ้านดงเจริญ หมู่ 3 ตำบลหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา เมื่อไปถึงก็พบชายคนหนึ่งบอกว่าเป็นอาจารย์เจ้าของสถานปฏิบัติธรรมชื่ออาจารย์มังกร(นามสมมติ) พร้อมทั้งทักตนเองว่าอาจเกิดอุบัติเหตุหากเดินทางต่อ จึงชวนมาร่วมปฎิบัติธรรม ประกอบกับตนเองมีความทุกข์ในใจอยู่แล้วจึงตกลงที่จะร่วม เมื่อเข้าไปภายในสถานปฏิบัติธรรมพบคนที่อยู่ประจำสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ พร้อมทั้งคอยดูแลสถานที่และคนที่มาปฎิบัติธรรมรวมประมาณ 10 คน ซึ่งพูดจาดีดูแลตนเองเป็นอย่างดี ก่อนที่อาจารย์มังกรจะเข้ามาทักว่า วิญญาณพ่อของแฟนตนเองไม่สงบสุข จึงได้ชักชวนให้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ เป็นเงินจำนวน 30,000 บาท ซึ่งตนเองก็เชื่อสนิทใจ จึงตกลงร่วมพิธีแต่พิธีนั้นทางอาจารย์มังกรบอกว่าไม่สามารถเปิดให้ใครได้เห็นตอนทำพิธีได้



ก่อนจะโทรกลับมาบอกว่าทำพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้วดวงวิญญาณสงบสุขไปสู่สุคติแล้ว ครั้งแรกจบไปตนเองก็ยังเชื่อและศรัทธาปฏิบัติธรรมอยู่ภายในสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ อาจารย์มังกรก็จะมาทักเรื่อยๆ หาเหตุมาอ้างเพื่อทำพิธีให้ตนเองจ่ายเงิน ซึ่งตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ตนเองหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ ทั้งจ่ายเงินสด ทั้งโอนเงินให้ รวมแล้วทั้งสิ้นเป็นเงิน 207,400 บาท



ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ภายในสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ไม่ได้มีการปฎิบัติธรรมอย่างที่คิดไว้ และจะอ้างชื่อหลวงปู่เหมือน เกจิชื่อดังซึ่งมรณภาพไปแล้ว โดยเอามาหลอกลวงเหยื่อรายอื่นๆ ให้หลงเชื่อ และก็เห็นกลุ่มคนที่หลงเชื่อโดยอาจารย์มังกรบอกว่าเป็นคนที่หลวงปู่เหมือนเลือก สูญเงินตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้าน



โดยตนเองเห็นนักวิชาการคนหนึ่งโอนเงินให้กับทางสถานปฏิบัติธรรมเป็นเงินหลักล้านบาท รายอื่นๆหลักแสนก็มี แต่ก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนจ่าเงินกันเท่าไหร่ แต่ทุกคนจะถูกย้ำด้วยคำพูดว่าทุกคนคือคนที่หลวงปู่เหมือนเลือกแล้ว และยอมทำตามทุกอย่างตามความศรัทธาแต่ละคน และทุกๆคนที่โอนจะไม่โอนเข้าบัญชีของอาจารย์มังกร แต่จะเป็นคนอื่นที่อยู่ในสถานปฏิบัติธรรมเป็นบัญชีรับเงิน โดยทั้ง 13 คน จะมาทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ ซึ่งไม่ทราบว่ามาเรียนวิชาอะไรบ้าง เป็นการเรียนมาแล้ว 16 ปี แต่บอกว่าให้เรียนเพราะหลวงปู่เหมือนเลือกแล้วจึงต้องเรียน และตนเองต้องการให้ชีวิตดีขึ้น แต่ในวิชาที่เรียนนั้นเป็นเรื่องของพิธีการสาปแช่ง อ้างต่างๆ นาๆ ทั้งเรื่องการเมือง เรื่องสถาบัน แอบอ้างตัวว่าเป็นคนอยู่เบื้องหลังคอยดูแล ยกตัวอย่างเรื่องพรรคการเมืองสีส้มที่ไม่ได้เป็นนายกก็เพราะอาจารย์มังกร



นอกจากนี้ภายในสถานปฏิบัติธรรมยังมีการเปิดอู่ซ่อมรถด้วย โดยได้เอารถของตนเองมาเช็กให้แล้วบอกว่าสภาพรถไม่ดีเลย ต้องซ่อมหลายยอย่าง พอเริ่มซ่อมก็มีค่าเปลี่ยนยอะไหล่เข้ามาอีกหลายอย่างเราก็จ่ายไปเพราะยังเลื่อมใสศรัทธาอยู่ พูดอะไรมาเราก็เชื่อ ณ เวลานั้น ก่อนที่จะเริ่มสงสัยว่าทำไมรถไม่ดีขึ้น จึงนำมาให้อู่ภายนอกดู ช่างบอกว่าหมดทั้งคันเป็นอะไหล่ปลอม และเป็นอะไหล่ที่เสียแล้วมาซ่อมให้เรา จึงเริ่มมาย้อนคิดหลังจากอยู่ได้ 3 เดือน และมีจุดแตกหัก



ตนเองขอไปดูแม่เพราะแม่จะผ่าตัดที่โรงพาบาล แต่อาจารย์มังกรโวยวายไม่ให้ออกไป บอกว่าเราจะมีชีวิตที่ไม่ดีจะต้องตาย แต่ตนเองมองว่าถ้าอยู่ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น พอกลับออกมาได้ 2 สัปดาห์จึงเข้าแจ้งความ แต่ทำได้แค่ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เพราะไม่มีมูลไม่มีคนมาแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ กระทั่งมีช่วงเช้าวันนี้มีทางตำรวจโทรมาแจ้งให้ไปแจ้งความ หลังมีเหยื่อเป็นหญิงคนหนึ่งไปแจ้งความเช่นเดียวกัน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และตำรวจได้สั่งการให้ตรวจสอบทั้งหมด ในเรื่องนี้เองตนเองก็ขอดูสุขภาพตัวเองก่อน และอยากจะฝากเตือนคนอื่นๆอย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ และคงบอกได้แค่ระวังและดูให้ดีก่อนเชื่อ



ด้าน นาง เอ (นามสมมุต) เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ในช่วงที่ไปปฏิบัติธรรมนั้น ตนเองเป็นคนที่ไม่เชื่อ อาจารย์มังกรมองหน้ามองตาตนเองแล้วบอกว่าตนเองไม่เชื่อเขา สั่งอะไรก็ไม่ยอมฟังไม่ยอมทำตาม เพราะตนเองเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วย จนอาจารย์มังกรเอาปืนออกมาจ่อหัวขู่ บอกว่าให้ทำตามไปสาปแช่งคนนั้นคนนี้ แต่ตนเองไม่ชอบไปด่าใคร และไม่มีความจำเป็นจะต้องด่าใคร การปฏิบัติธรรมจะเป็นการเรียนดึกๆ ดื่นๆ มีการต่อว่าคนอื่นด้วยถ้อยคำหยาบคายตลอด



ส่วนตัวมองการเป็นอาจารย์ต้องให้ลูกศิษย์เคารพแต่มาด่ามาว่าแถมมีพฤติกรรมข่มขู่ให้เชื่อตามอีก ทั้ง 13 คน ที่ตกเป็นเหยื่อขณะนี้นั้น ส่วนตัวได้มีการพูดกันบ้าง มีหลายคนเริ่มไม่เชื่อแล้ว แต่บ้านที่อยู่ใกล้เมื่อออกไปจากสถานปฏิบัติธรรมอาจารย์มังกรก็จะเอาคนไปอ้อนวอนให้กลับมาอีก ประชาชนที่เคยโดนหลอกก็อยากให้เข้ามาแจ้งความที่ สภ.บ้านเดื่อ จ.หนองคาย ส่วนตัวได้บอกคนดูแลเอาไว้แล้วว่าอย่าไปตามประวัติเรื่องลูกแก้วให้คนที่มาทำบุญฟังไม่งั้นก็ต้องเข้าไปเจอสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้อีก



คุณอาจสนใจ