อย่าอ้างป่วยจิต! เมียหมวดอี๊ดวอนประหารชีวิต ‘ไอ้เดช’ มือมีด หลังเข้าระงับเหตุคลุ้มคลั่ง เจอกระหน่ำฟันดับ

วานนี้ (วันที่ 24 ธ.ค.66  ร.ต.อ.ธีรพงษ์ ท่าโทม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้รับแจ้งเหตุชายป่วยจิตเวชคลั่งใช้อาวุธมีดทำร้ายตำรวจเสียชีวิต ที่ ม.9 บ้านโชคอำนวย ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม จึงรีบรุดไปตรจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกแยกออกจากบ้านหลังอื่น ๆ พบศพ ร.ต.ท.อิสราวุฒิ โกพลรัตน์ รอง สวป.สภ.ธาตุพนม อายุ 56 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนแคร่หน้าบ้าน ในสภาพเลือดท่วมตัว

นายศุภชัย พ่วงศิริ ผู้ใหญ่บ้านโชคอำนวย ม.9 ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุ ตนได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า นายอานุเดช อายุ 49 ปี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่คนเดียวที่บ้านหลังดังกล่าวเกิดอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาดทำลายข้าวของ ญาติได้โทรศัพท์แจ้งให้ตนช่วยเหลือ ตนจึงได้เดินทางไปแจ้งที่ตู้ยามตำรวจประจำตำบลอุ่มเหม้า พบกับ ร.ต.ท.อิสราวุฒิ โกพลรัตน์ ประจำอยู่ที่ตู้ยามพอดี ร.ต.ท.อิสราวุฒิฯ จึงได้อาวสาไปที่บ้านผู้ก่อเหตุทันที เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุก็ได้เกิดการคลุ้มคลั่งอยู่เป็นประจำจนคุ้นเคย

โดยตั้งใจว่าจะไปประเมินสถานการณ์เบื้องต้นก่อน โดยยังไม่ได้ขอกำลังสนับสนุนจากโรงพัก แต่เมื่อไปถึง ก็ถูกนายอานุเดช ปรี่เข้าใช้มีดพร้า ฟันเข้าที่ขมับ จน ร.ต.ท.อิสราวุฒิฯ ล้มลงบนแคร่หน้าบ้าน ก่อนจะถูกระดมฟันใส่ร่าง อีกหลายแผล จนแน่นิ่งไป และ เสียชีวิตในที่สุด


พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม เปิดเผยว่า ผู้ตายและผู้ก่อเหตุรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมักจะก่อเหตุอาละวาดอยู่เป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้รับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุคุ้มคลั่งอาละวาดอีกแล้ว จึงรีบไปยังบ้านที่เกิดเหตุเพื่อหวังระงับเหตุเนื่องจากเคยไปมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ทันระวังตัว ถูกทำร้ายก่อนจนเสียชีวิต


หลังก่อเหตุ นายอานุเดชฯ ก็ได้ชิงเอารถจักรยานยนต์ ของเพื่อนบ้านที่จอดอยู่ห่างจากที่เกิดหตุ ประมาณ 100 เมตรพร้อมได้นำวิทยุสื่อสาร และอาวุธปืนของ ร.ต.ท.อิสราวุฒิฯ ติดตัวไปด้วย ต่อมา พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม ได้สั่งการให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไล่ล่าผู้ก่อเหตุทันที และสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ที่ บริเวณตู้ยามหน้าหมู่บ้าน จึงควบคุมตัวคนร้าย ไปสอบสวนที่ สภ.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนศพของ ร.ต.ท.อิสรวุฒิ โกพลรัตน์ หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจและเก็บหลักฐานต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้วได้มอบศพให้ภรรยา นำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระธาตุพนม เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา


นางมยุรี อายุ 79 ปี อดีตข้าราชการครู แม่นายตำรวจผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนมีลูก 5 คน ผู้ตายถือเป็นเสาหลักครอบครัว ได้รับราชการเป็นตำรวจ เคยแต่งงานมีภรรยาก่อนนี้ มีลูกชาย 3 คน ยังเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ก่อนนี้เคยนึกเสมอว่า การทำงานรับราชการตำรวจของลูกชาย มีความเสี่ยง แต่พอเกิดความสูญเสียกับครอบครัว ยอมรับว่าเสียใจ แต่ภาคภูมิใจที่ลูกชายได้ทำหน้าที่ดีที่สุดในการรับราชการ สิ่งที่กังวล คือหลาน ที่กำลังจะมีอนาคต อยากฝากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลสวัสดิการทุนการศึกษา นอกจากนี้ปัญหายาเสพติดอยากให้ปราบปราบขั้นเด็ดขาด เพราะเป็นปัญหาสังคม ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียกับใคร


ส่วนนางกนกนาฏ อายุ 29 ปี ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนอยู่กินแต่งงานกับผู้ตาย มาตั้งแต่ปี 2562 โดยก่อนนี้สามีเคยมีภรรยามาก่อน แต่ป่วยเสียชีวิต มีลูกชายมาก่อน 3 คน ยังเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ส่วนตนมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุแค่ 1 ปี 6 เดือน ยอมรับว่าสามีเป็นคนรักในอาชีพตำรวจ ปัจจุบันทำงานตำแหน่งรอง สวป.สภ.ธาตุพนม ทำหน้าที่หัวหน้าตู้ยามรักษาการ ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม ที่ผ่านมายอมรับคนร้ายสนิทกับสามีของตน เพราะเคยดูแลช่วยเหลือ ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง รู้ว่าป่วยจิตและมีอารมณ์แปรปรวน เคยคลุ้มคลั่งพยายามจะทำร้ายร่างกายคนอื่น สุดท้ายเคยเจรจาจนสงบ

ยอมรับว่าสามีเคยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า บางครั้งรู้สึกกังวลเพราะอยู่ใกล้ชิดกับคนป่วยจิต แต่เป็นหน้าที่ดูแลประชาชน ต้องทำถึงขนาดเกลี้ยกล่อมให้กินยาป่วยจิต เนื่องจากญาติพี่น้องไม่สามารถพูดคุยได้ สุดท้ายไม่คิดว่าจะเป็นคนฆ่าสามี ถามว่าเสียใจมากหรือไม่  ยอมรับไม่มีอะไรทดแทนได้  แต่ต้องทำใจเพราะเป็นการเสียชีวิตในหน้าที่ 

ส่วนการดูแลเยียวยาสิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือทุนการศึกษาลูกทุกคน เพราะสามีคือเสาหลักดูแลทุกด้าน นอกจากนี้สำหรับปัญหายาเสพติดอยากให้รัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐปราบปรามเด็ดขาด ยิ่งคนที่อ้างป่วยจิต รับโทษสถานเบา อยากให้แก้กฎหมายหากทำผิดทุกคนต้องได้รับโทษสาสมคือ ชีวิตแลกด้วยชีวิต ไม่ต้องอ้างว่าป่วยจิต

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/-9mAQV1STOw