ตำรวจ ปทส. จับ 2 ผู้ต้องหา ลักลอบค้าซากหนังเสือ ยึดของกลางจำนวนมาก

ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงผลการจับผู้ต้องหาลักลอบค้าซากหนังเสือหลายชนิดทางออนไลน์ โฆษณาขายให้กับคนที่ชื่นชอบสายมู พบหนังเสือโคร่งเต็มตัวขนาดใหญ่ เขี้ยวเสือ ซากหนังเสือโคร่งเต็มตัวขนาด 3-4 เมตร พร้อมซากหนังเสือโคร่งชิ้นส่วนต่างๆ จำนวน 163 ชิ้น , ซากเสือดาวจำนวน 108 ชิ้น , ซากหนังเสือดำอีก 133 ชิ้น , สักเสือเมฆจำนวน 77 ชิ้น และซากเสือไฟอีกจำนวน 19 ชิ้น รวมกว่า 500 รายการ ถูกตรวจยึดได้ในบ้านพักแห่งหนึ่ง ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังตำรวจสืบทราบว่าบ้านพักหลังดังกล่าว เป็นที่เก็บซากสัตว์จำนวนมากเพื่อเตรียมส่งขายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ โดยตำรวจได้ทำการล่อซื้อซากหนังเสือ จนสามารถระบุที่อยู่และตัวผู้ครอบครอง ตามที่อยู่จัดส่งตามพัสดุ ก่อนรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา พร้อมจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 2 คน เป็นชาวจังหวัดแพร่


พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตำรวจใช้เวลาสืบสวน ผู้กระทำความผิดรายนี้ โดยการล่อซื้อซากหนังเสือไฟ ที่โฆษณาขายผ่านช่องเพจเฟซบุ๊กมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับพัสดุและตรวจสอบได้ว่าเป็นซากเสือจริง จึงตรวจค้นจับกุมได้ผู้กระทำความผิดและของกลางจำนวนดังกล่าว


โดยผู้กระทำความผิด ได้ให้การว่า รับซากเสือมาจากพ่อค้าคนกลางอีกทอดหนึ่งก่อนนำไปขาย และลักลอบค้าสัตว์ป่ามานานกว่า 2 ปีแล้ว ผู้กระทำความผิดเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาค้าสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตมาก่อน แต่กลับไม่เข็ดหลาบ ก่อนมาถูกจับได้ในครั้งนี้ โดยซากหนังเสือโคร่งตัวนี้จะขายอยู่ในราคา 40,000 ถึง 50,000 บาท


ทั้งนี้ ตำรวจจะส่งต่อให้กับทางเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่มีอุปกรณ์และความเชี่ยวชาญในการตรวจพิสูจน์หาพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ เพื่อให้ทราบว่าซากเสือทั้งหมด ถูกลักลอบนำมาจากธรรมชาติ หรือตามสวนสัตว์ต่าง ๆ ในประเทศหรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ซากเสือดังกล่าวจะถูกลักลอบนำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมตรวจสอบร่องรอยว่าตายผิดธรรมชาติหรือไม่ เนื่องจากในซากเสือมีร่องรอยบาดแผล



นอกจากการตรวจสอบแหล่งที่มาและผู้ลักลอบค้าซากสัตว์ป่าแล้ว ตำรวจเตรียมที่จะขยายผลไปถึงผู้ซื้อตามรายชื่อที่ถูกจัดส่งตามพัสดุของผู้กระทำความผิดในอดีต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้กระทำความผิดทั้ 2 คน ที่ถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ ถูกดำเนินคดีในข้อหาค้าและมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งดำเนินคดีศาลจังหวัดปทุมธานี และตำรวจจะขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดี