นร.ร่วมไว้อาลัย 'ครูเจี๊ยบ' เหยื่อลูกหลงเด็กช่าง - 'ผบ.ตร.' ชี้มือปืนไม่ใช่ นศ. แต่เป็นองค์กรอาชญากรรม

คณะครู-นร.ร่วมไว้อาลัย 'ครูเจี๊ยบ' เหยื่อลูกหลงอาชีวะ -  รรท. ผบก.น.5 ยังอุ๊บการสืบสวนหาตัวมือยิงครูเจี๊ยบ   ด้าน ผบ.ตร.คาดโทษผู้การจังหวัดทั่วประเทศ ต้องรับผิดชอบหากมีเหตุนักเรียนตีกันเกิดในท้องที่

กรณีเกิดเหตุสลด น.ส.ศิรดา สินปราเสริฐ หรือ ครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ถูกลูกหลงจนเสียชีวิต จากเหตุ 2 คนร้ายใช้อาวุธปืนไล่ยิงนักเรียนช่างกลอุเทนถวาย เมื่อวันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศตรงจุดเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้า มีผู้ปกครองและนักเรียนทยอยกันนำดอกไม้และพวงมาลัย มาวางไว้อาลัยให้กับครูเจี๊ยบตั้งแต่เช้า ซึ่งจุดเกิดเหตุห่างจากหน้าโรงเรียนแค่ 200 เมตร จากนั้นนักเรียนและผู้ปกครองก็เดินเข้าโรงเรียนเพื่อเข้ามาร่วมพิธีไว้อาลัยที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สน.ท่าเรือ

ทีมข่าวมีโอกาสได้คุยกับนักเรียนหญิงชั้น ม.5 บอกว่า รู้จักกับครูเจี๊ยบตั้งแต่ตอน ม.1 และได้เรียนวิชาคอมพิวเตอร์ตอน ม.2 ซึ่งครูเจี๊ยบเป็นคนน่ารัก พูดจาเพราะ ใจดี ไม่ค่อยดุ และในวันเกิดเหตุ เธอยังเดินสวนกับครูเจี๊ยบ หลังจากนั้นเพียง 10 นาทีก็เกิดเหตุสลดขึ้น พอรู้ว่าจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้โรงเรียนมาก และครูเจี๊ยบคือเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย เธอตกใจมาก โทรหาพ่อแม่มือสั่นเสียงสั่นเพื่อให้มารับกลับบ้าน และจนถึงตอนนี้ เธอยังหวาดระแวงเรื่องความปลอดภัย จากเดิมที่ชอบเดินเล่นมือถือต่อไปจะไม่เล่นในที่สาธารณะแล้ว โดยเฉพาะป้ายรถเมล์ หรือเวลาเดินริมถนนจะต้องมองซ้ายขวามากขึ้น

สำหรับพิธีไว้อาลัยให้กับครูเจี๊ยบทางโรงเรียนได้จัดขึ้นในเวลา 8 โมงเช้า หลังเสร็จการเข้าแถวเคารพธงชาติ เป็นพิธีทางศาสนาคริสต์ โดยให้คณะครู นักเรียนได้ร่วมกันสวดภาวนา และร่วมกันนั่งสมาธิระลึกถึงครูเจี๊ยบ

นางสาว ชณัฐศิกาญน์ มณีอินทร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลและงบประมาณ พูดถึง "ครูเจี๊ยบ" ว่า เป็นครูที่มีคุณภาพ เป็นครูที่น่ารัก เข้ามาทำงานตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 ปฏิบัติหน้าที่มาอย่างดีตลอด คอยให้ความช่วยเหลือทั้งครู นักเรียน และผู้ปกครอง เป็นคนที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ดังนั้นการสูญเสียครั้งนี้ จึงถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของโรงเรียน เบื้องต้น ทางโรงเรียน คณะผู้บริหารและครู สมาคมผู้ปกครอง สมาคมศิษย์เก่า ได้ร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือ จัดพิธีศพให้ครูเจี๊ยบทั้งหมด

ขณะที่การรักษาความปลอดภัยในโรงเรียน นายเลิศศักดิ์ แจ่มคล้าย ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปกครอง บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นภัยที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในสังคม ซึ่งตอนนี้ทาง สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สน.ท่าเรือ ก็ได้ประสานกับทางโรงเรียนตลอดในการรายงานความคืบหน้าทางคดี รวมถึงเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัย ส่งตำรวจมาประจำจุดตรวจหน้าโรงเรียนในช่วงเช้าจนถึงเย็น ส่วนทางโรงเรียนเอง ก็เข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น มีการจัดเวรยามครูผู้ชายเพิ่มเติม แต่ที่น่ากังวลที่สุด คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทบกระเทือนต่อจิตใจของผู้บริหาร ครู และนักเรียนมาก หลังจากนี้ต้องใช้ระยะเวลาในการดูแลรักษาสภาพจิตใจ

---------------------------------------

รรท. ผบก.น.5 ยังอุ๊บการสืบสวนหาตัวมือยิงครูเจี๊ยบ  

ส่วนความคืบหน้าคดีมือปืนยิงคู่อริต่างสถาบันจนพลาดยิงโดนครูเจี๊ยบเสียชีวิต พันตำรวจเอกวิทวัฒน์ ชินคำ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 มาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีตั้งแต่เช้าวานนี้ (13 พ.ย.)

โดยการประชุมดังกล่าวใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง พันตำรวจเอกวิทวัฒน์ ออกมาให้สัมภาษณ์พร้อมระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ และยอมรับว่ายังไม่สามารถออกหายจับได้ เพราะอยู่ระหว่างหาเบาะแสคนร้ายเพื่อให้ได้รูปพรรณ หรือระบุตัวบุคคลได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งบอกไม่ได้ว่าจะเป็นกลุ่มนักเรียนของสถาบันใดหรือไม่ แต่ยอมรับว่า ได้นำพฤติการณ์การก่อเหตุไปเทียบเคียงกับคดีที่มีความคล้ายคลึงกันในอดีต ซึ่งพบว่ามีความคล้ายคลึงกันอย่างหนึ่ง คือ ทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ เป็นการขโมยแผ่นป้ายทะเบียนรถคนอื่นมาติด เพื่อไม่ใฟ้เป็นที่ผิดสังเกตเวลาขี่ไปไหน และให้ยากในการติดตามตัวหลังก่อเหตุ

ส่วนประเด็นที่มีรายงานข่าวว่า คนร้าย "ล็อคเป้า" ผู้บาดเจ็บมาตั้งแต่ขึ้นรถเมล์ที่ย่านพระรามสอง และขี่รถจักรยานยนต์ติดตามรถเมล์มาเรื่อย จนรถขึ้นทางด่วน ก่อนจะมาดักที่คลองเตยเพื่อลงมือ ในเรื่องนี้ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 บอกว่า ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยืนยันข้อสันนิษฐานดังกล่าว แต่ยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้งเช่นกัน

และในส่วนที่มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีการตั้งเป็นลักษณะชมรมหรือกลุ่มใช้ความรุนแรงโดยมีแบบแผน ขณะนี้ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยืนยันข้อสันนิษฐานดังกล่าว เพราะดูจากพฤติการณ์พบว่ามีทักษะในการเอาตัวรอด

สำหรับการสอบปากคำเพื่อนของผู้บาดเจ็บ 3 คน ยืนยันว่า ไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุ เพราะทั้งหมดเพิ่งเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง และยังไม่ได้มีความขัดแย้งกับสถาบันใด

มีรายงานว่า ในส่วนของหัวกระสุน ในจุดเกิดเหตุ 1 หัว ขนาด จุด 38 และส่งตรวจที่ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำไปเปรียบเทียบกับคดีเหตุวิวาทระหว่างสถาบัน ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีใดหรือไม่  ส่วนหัวกระสุนที่อยู่บนร่างผู้บาดเจ็บยังไม่สามารถผ่าออกได้ เพราะอยู่ในจุดสำคัญ

ด้านพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงคดีนี้ว่า ถือเป็นคดีที่ 2 ที่มีแผนประทุษกรรมลักษณะเป็นนักศึกษาที่มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนในการก่อเหตุ

หมายหัวเป้าหมายชัดเจน ส่วนตัวมองว่าไม่ใช้นักศึกษาแล้ว แต่เป็นรูปแบบองค์กรอาชญากรรมกลุ่มเล็ก พร้อมสั่งการไปยังผู้บังคับการจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และนนทบุรี ที่มักจะเกิดเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้ง หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ หรือยังปล่อยให้บุคคลกลุ่มนี้ก่อเหตุยิงคู่อริต่อเนื่อง ผู้บังคับการจังหวัดจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยและสั่งการให้ชุดปะฉะดะ หรือชุดปฏิบัติการพิเศษออกลาดตระเวน เพื่อ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/vhmotXZAyJM