อาชญากรรม

เลื่อนพิพากษาคดี "ลัลลาเบล" แม่เปิดใจยังทำใจต่อการจากไปไม่ได้

13 ก.ย. 2565

259 views

วันนี้ (13 ก.ย.) ศาลอาญาธนบุรี นัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ในคดีการเสียชีวิตของ นางสาว ธิติมา หรือ ลันลาเบล พริตตี้สาววัย 26 ปี ที่ไปรับงานเอนเตอร์เทนแล้วดื่มเหล้ามากไป จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ในคอนโดมิเนียมของ นายรัชเดช หรือ น้ำอุ่น เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2562 โดยมีเพื่อน ๆ แก๊งบางบัวทองอีก 5 คน ที่เป็นจำนวนเลยคดีนี้ ใน 4 ข้อหา คือ

1.ซ่องโจร

2.พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย

3.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

4.กักขังหน่วงเหนี่ยว เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย


ด้านนาง ศุภมาส แม่ของลัลลาเบล เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาด้วย พร้อมเปิดใจว่า แม้จะผ่านไป 3 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถลืมหรือทำใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ ลูกสาวของลัลลาเบล ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ป.1 ยังพูดทุกวันว่า "แม่อยู่ในรูป แต่ออกมาไม่ได้"


ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ยอมรับว่าลำบากมากขึ้น จากเดิมที่ลัลลาเบลเป็นกำลังหลัก ตอนนี้ต้องอาศัยเงินจากการขายขนมมาดูแลหลาน


ส่วนเรื่องการฟ้องร้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายกับจำเลยทั้ง 6 คน นาย สุรเดช พจน์ยินดี ทนายความของแม่ลัลลาเบล บอกว่า ได้ยื่นฟ้องแพ่งต่อศาลแพ่งธนบุรีไปแล้ว โดยเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท เนื่องจากทางครอบครัวของลัลลาเบล ต้องขาดรายได้จุนเจือครอบครัว ค่าเล่าเรียนลูกสาวของลัลลาเบล และค่าอุปการะเลี้ยงดูบุพการี ซึ่งจะนำคำพิพากษาที่สิ้นสุดแล้วของคดีอาญา ไปประกอบการพิจารณาแก่ศาลแพ่งต่อไป


ด้านจำเลยทั้ง 6 คน ก็มาที่ศาลตามนัด แต่นาย รัชเดช หรือ น้ำอุ่น เมื่อลงจากศาล ได้เดินแยกไปออกทางประตูด้านหลังทันที โดยน้ำอุ่นบอกกับทนายความว่า ไม่อยากเจอนักข่าว ไม่อยาก


นาย เทพพิทักษ์ ทนายจำเลยกลุ่มบ้านบางบัวทอง เปิดเผยว่า ศาลได้เลื่อนคำพิพากษาอุทธรณ์ออกไป เนื่องจากคดีนี้มีรายละเอียดมาก และจำเลยแต่ละคนก็มีพฤติการณ์ในคดีต่างกัน ศาลจึงต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา เลื่อนเป็นวันที่ 17 มกราคม 2566


ซึ่งในส่วนของจำเลย ก็จะพยายามต่อสู้ในทั้งเรื่องของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ว่า ไม่ได้มีเจตนาทำให้เกิดเหตุจน "ลัลลาเบล" ต้องเสียชีวิต ส่วนเรื่องชดใช้ค่าสินไหมแก่โจทก์ ยืนยันว่า ทางฝ่ายจำเลยมีเจตนาที่จะมอบเงินดังกล่าวให้แก่ญาติผู้เสียหาย แต่ก็ต้องพิจารณาจำนวนเงินให้มีความเหมาะสมกว่านี้


สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 จำคุกนาย รัชเดช จำเลยที่ 1 ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย เป็นบทที่มีโทษหนักสุดให้จำคุก 8 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-6 ให้ลงโทษฐานเป็น ผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิดดังกล่าว จำคุกคนละ 5 ปี 4 เดือน และให้จำเลยทั้ง 6 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมแก่โจทก์รวม 748,660 บาท

คุณอาจสนใจ

Related News