อาชญากรรม
แม่หลั่งน้ำตา ลูกสาวดับปริศนาที่ปอยเปต ญาติเผยใช้ช่องทางธรรมชาติ ไปทำงานสแกมเมอร์
13 พ.ย. 2568
54 views
กรณีศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ภาคตะวันออก (IMF) จังหวัดสระแก้ว โพสต์ข้อความ พบหญิงไทยเสียชีวิตในเมืองปอยเปต อีก 1 ราย ทราบชื่อว่า นางสาวสุดา อายุ 26 ปี เป็นชาวอำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตพบว่า ถูกจับช็อตด้วยไฟฟ้าจนสลบ แล้วปล่อยทิ้งไว้จนตาย นอกจากนี้ยังมีการระบุ แฟนหนุ่มผู้เสียชีวิตที่เดินทางเข้าไปปอยเปตด้วยกันยังหายตัวไป และไม่สามารถติดต่อได้ ขณะเดียวกัน บริษัทในปอยเปตที่ผู้เสียชีวิต ทำงานอยู่ได้โทรไปข่มขู่ญาติผู้เสียชีวิตที่จังหวัดพังงา ว่าจะมีการเผาศพทิ้งให้เป็นศพไร้ญาติ
ล่าสุดทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต พร้อมกับ สส.พังงา และนายก อบต.คลองเคียน ที่ลงพื้นที่ โดยนางอรอนงค์ แม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งป่วยขาหักนอนติดเตียงมานานกว่า 3 ปีแล้ว แม่เล่าทั้งน้ำตาว่า ลูกเขยได้ติดต่อมาทางไลน์เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ลูกสาวได้เสียชีวิตแล้ว บอกว่าลูกสาวชักเกร็งขณะทำงาน นำส่งโรงพยาบาลปอยเปต แต่สุดท้ายเสียชีวิต ขณะนี้ศพอยู่ที่สถานีตำรวจพนมเปญ จากนั้นก็ติดต่อลูกเขยไม่ได้อีกเลย
ตนเองไม่ได้รู้อะไรมากนักว่าลูกสาวทำงานอะไร รู้แค่ว่าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไปทำงานมาแล้วเกือบ 1 ปี ก่อนจะกลับมาบ้านเมื่อตอนต้นปี และพาแฟนชื่อนายวายุ อายุ 20 ปี เป็นคนจังหวัดชลบุรี มาด้วย และได้คลอดลูกสาวเมื่อเดือนกรกฎาคม ทางลูกเขยก็กลับไปทำงานก่อน จากนั้นในเดือนสิงหาคม ลูกเขยก็ติดต่อกลับมาให้ลูกสาวตามไป โดยขู่ว่าหากไม่ตามไปก็จะทอดทิ้ง ไม่ส่งเสีย ลูกสาวก็เลยตัดสินใจตามไปทิ้งลูกน้อยให้ตนช่วยดูแล
ที่ผ่านมาลูกสาวจะติดต่อมาเป็นประจำ ครั้งสุดท้ายที่ติดต่อมาคือเมื่อวันเสาร์ ลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่าไม่อยากตามไปทำงานเลย เพราะลูกเขยหลอกให้ไปทำงานสแกมเมอร์ ซึ่งเมื่อทำงานไม่เข้าเป้าก็จะถูกลงโทษ และก่อนหน้านี้ก็บอกว่าอยากกลับบ้านไม่อยากทำงานแล้ว ตอนนี้กลุ้มใจมาก อยากขอให้ทุกฝ่ายช่วยติดต่อ หากลูกสาวเสียชีวิตแล้วจริงก็ขอให้นำร่างมาทำพิธีทางศาสนาที่บ้าน
ด้านนางสาวมลนภา ญาติผู้น้อง เปิดเผยว่า พี่สาวได้ออกทางช่องทางธรรมชาติไปทำงานสแกมเมอร์ที่ปอยเปตจริง ทำหน้าที่เป็นแอดมิน หลังจากพี่เขยติดต่อมาว่าพี่สาวเสียชีวิต และได้มีการให้แอดไลน์กับบริษัทที่พี่สาวไปทำงาน จากนั้นก็ได้มีการพูดคุยกันทางไลน์ ทางฝั่งบริษัทได้แนะนำให้ไปลงบันทึกประจำวันและติดต่อไปยังทหารที่อรัญประเทศ เพื่อทางบริษัทจะนำศพมาส่งให้ที่ชายแดน และขู่ว่าหากเป็นข่าวดังเขาจะทำลายศพให้ไร้ร่องรอย เมื่อถามว่าพี่เขยอยู่ไหน ทางบริษัทก็ตอบว่าส่งพี่เขยกลับไทยมาแล้ว แต่ทางเราก็ยังไม่สามารถติดต่อพี่เขยได้อีกเลย ขณะนี้ก็ติดต่อบริษัทไม่ได้อีก รอเขาติดต่อกลับมาใหม่
พันตำรวจเอก วงพงศ์ พรหมอินทร์ ผู้กำกับ สภ.โคกกลอย กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจต้องตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงว่าเสียชีวิตจริงหรือไม่ เพื่อที่จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการช่วยเหลือ ขณะเดียวกันจะดำเนินการตรวจสอบบ้านฝ่ายชายที่อยู่จังหวัดชลบุรีว่ายังอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวหรือไม่เพื่อที่จะติดตามฝ่ายหญิงที่หายตัวไป
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/pp8Vfn7NXt0