สามีเขมรทะเลาะเมียไทย บอกเพื่อนบ้าน อย่ายุ่งเรื่องผัวเมีย สุดท้ายดับสลดทั้งคู่คาห้องพัก

ภรรยาขอเลิก สามีชาวกัมพูชาแต่ไม่ยอม เกิดโต้เถียงกันรุนแรง ทำร้ายร่างกาย ก่อนจะใช้มีดแทงคอภรรยาเสียชีวิต จากนั้นผูกคอตัวเองเสียชีวิตตาม พี่สาวฝ่ายหญิง เอะใจติดต่อน้องไม่ได้ตั้งแต่ 31 ตุลาคม แจ้งความ พบเป็นศพในห้องพัก

เมื่อวานนี้ ประมาณ 17:00 น. พนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข รับแจ้งเหตุกลิ่นต้องสงสัย ภายในห้องพัก ที่ชั้น 2 ของอาคารแห่งหนึ่งภายในซอยรามคำแหง 2 ซอย 23 แยก 5 เข้าตรวจสอบพบว่าประตูถูกล็อคจากด้านใน หน้าห้องได้กลิ่นเหม็นคลุ้งอบอวล เจ้าหน้าที่ต้องงัดประตูเข้าไป ก็พบ 2 ศพ เป็นชายหญิง ทราบชื่อคือ นางสาวรัตนภรณ์ อายุ 31 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ถูกผ้าห่มคลุมร่างไว้ เมื่อเปิดออกพบว่า อยู่ในสภาพเปลือยกาย นอนเสียชีวิตอยู่ข้างเตียงนอน อีกศพ คือนายบุญรอด อายุ 36 ปี ชาวกัมพูชา เสียชีวิตในลักษณะแขวนคอตัวเองกับลูกกรงหน้าต่าง

เบื้องต้น ตำรวจลงพื้นที่ สอบถามชาวบ้าน บอกว่า เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ประมาณ 11:00 น. ชาวบ้านได้ยินเสียงผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ทะเลาะเสียงดังที่หน้าห้อง จากนั้นสามีได้ใช้ไม้ตีที่ศีรษะภรรยา ก่อนลากตัวเข้าไปภายในห้อง หลังจากนั้นเสียงเงียบไป และไม่เห็นทั้งคู่ออกมาจากห้อง แต่ตอนทะเลาะตนเองไม่กล้าเข้าไปยุ่ง เพราะโดนด่าว่า "อย่ายุ่งเรื่องผัวเมีย" จนกระทั่งได้กลิ่นเหม็นออกมาจากห้อง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำศพทั้งส่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิต

เช้าวันนี้ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งทางคอนโดไม่อนุญาตให้บันทึกภาพในพื้นที่คอนโด แต่จากการที่ทีมข่าวได้พูดคุยกับผู้พักอาศัยในคอนโดซึ่งอยู่ใกล้ห้องจุดเกิดเหตุ เล่าว่า เห็นฝ่ายชายออกไปทำงานช่วงกลางวัน เช่นเดียวกับฝ่ายหญิงก็ออกไปทำงานในช่วงกลางวันเช่นเดียวกัน แต่สังเกตเห็นฝ่ายชายเวลากลับมาที่ห้องมักจะมีอาการเมาสุรา เหมือนเดิมมาจากข้างนอก

ส่วนมากจะเห็นฝ่ายชายชอบลงมาซื้อของที่ร้านขายของใต้คอนโด มักจะซื้อขนมขบเคี้ยวทั่วไป บุหรี่ และสุราไปดื่ม เช่นเดียวกับฝ่ายหญิงที่นาน ๆ ทีจะลงมาซื้อขนมขึ้นไปกิน

ส่วนประเด็นเรื่องทะเลาะกันนั้น ไม่มีใครทราบได้ทั้งสองคนทะเลาะกันหรือไม่ แต่มีบ้างที่ได้ยินเสียงทะเลาะกันและก่อนหน้าวันเกิดเหตุหลายวัน ฝ่ายชายมีสีหน้าที่ถอดสีและบ่นปัญหาชีวิตกับคนขายของร้านชำ ประมาณว่าช่วงนี้ชีวิตมีปัญหารุมเร้า แต่ไม่ได้บอกสาเหตุว่าเกิดจากอะไร

จนกระทั่งวันที่เกิดเหตุคือวันที่ 31 ตุลาคม เห็นว่าช่วงเช้าประมาณ 10 โมงเช้า ผู้พักอาศัยเห็นฝ่ายหญิงวิ่งออกมาจากห้องระยะประมาณ 2-3 ห้อง แล้วพยายามขอความช่วยเหลือ แต่ถูกฝ่ายชายตามมาทุบตี ด้วยพละกำลังที่มาก จึงได้ใช้แขนล็อคคอฝ่ายหญิงและลากเข้าห้องไป หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลย ชาวบ้านเล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุประมาณ 10 โมงครึ่ง เห็นฝ่ายชายลงมาที่ร้านชำมีสีหน้าถอดสี บอกว่าขอเซ็นเหล้าขาว ก่อนจะกลับขึ้นไปแล้วไม่พบเจออีกเลย จนกระทั่งมาพบศพเมื่อคืนนี้

ทีมข่าวได้ สอบถามไปยัง พันตำรวจเอกสมศักดิ์ เอี่ยมอิ่ม ผกก.สน.อุดมสุข เปิดเผยว่า ทั้งสองคนนี้เป็นแฟนกัน คบหากันมาได้ 2 ปี พร้อมกับพักอาศัยด้วยกันที่ห้องพักนี้และทำงานด้วยกันแถวบางนา

จากการสอบปากคำพี่สาวฝ่ายหญิง ทราบว่าฝ่ายชายนั้นเป็นคนอารมณ์รุนแรง ขี้โมโห ติดสุราอย่างหนัก และมีนิสัยชอบทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุทำให้ญาติของฝ่ายชายตัดขาด จนต้องมาหางานทำในกรุงเทพ ส่วนฝ่ายหญิงนั้น ช่วงหลังได้พยายามที่จะขอเลิกกับฝ่ายชาย เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหวและได้ระบายให้พี่สาวฟังมาโดยตลอด เท่าที่ทราบคือในวันเกิดเหตุ ฝ่ายหญิงต้องการบอกเลิกฝ่ายชาย แต่ก็ถูกทำร้ายร่างกายจนไม่สามารถติดต่อได้ พี่สาวฝ่ายหญิงจึงได้มาแจ้งตำรวจก่อนนำมาสู่การพบศพ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพวงจรปิด พบว่าเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงได้ทะเลาะกันบริเวณหน้าห้อง โดยเป็นฝ่ายชายที่ลงมือทำร้ายและกระทืบฝ่ายหญิงหลายครั้ง ก่อนจะลากพาเข้าไปในห้อง คาดว่าน่าจะทำร้ายฝ่ายหญิงจนเสียชีวิต แล้วฝ่ายชายได้ผูกคอเสียชีวิตตามไป

สำหรับสภาพศพฝ่ายหญิงเบื้องต้น พบแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดทำครัวที่บริเวณใต้คาง บาดแผลมีขนาดลึกจนเป็นเหตุทำให้เสียเลือดมากเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายจากการถูกกระทืบทำร้าย ส่วนฝ่ายชายไม่มีบาดแผลอะไร นอกจากบาดแผลจากการผูกคอตนเอง

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาไม่เคยพบการแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายของชายหญิงคู่นี้มาก่อน จึงสันนิษฐานว่า ชาวบ้านอาจจะมองว่าเป็นเรื่องผัวเมียหรือภายในครอบครัว เลยเพิกเฉย

พ.ต.อ.สมศักดิ์ จึงฝากผ่านทีมข่าวถึงพี่น้องประชาชนว่า อย่านิ่งหรือเพิกเฉยต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว หากพบเห็นการทำร้ายร่างกายหรือความรุนแรงภายในครอบครัวเช่นนี้ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยพลัน อย่ามองว่าเป็นเรื่องภายในบ้าน เพราะมิเช่นนั้น เหตุการณ์ก็อาจจะบานปลายจนกระทั่งสูญเสียชีวิตแบบกรณีนี้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8HeJ2KeSMz8