อาชญากรรม

‘คนขับเก๋งแดงแหกด่าน’ เลื่อนพบ ตร. พบเป็นคนขับรถไฟฟ้า ต้นสังกัดสั่งพักงาน-จ่อพ้นสภาพ

โดย paweena_c

9 ธ.ค. 2567

146 views

แจ้ง 2 ข้อหา “7 ตำรวจ” กระทืบผิดคน ล่าสุดคนขับเก๋งแดงแหกด่านตัวจริง ติดต่อขอเลื่อนพบตำรวจ ค้นประวัติเป็นพนักงานขับรถไฟฟ้า ต้นสังกัดสั่งตั้งกรรมการสอบแล้ว พักงาน 15 วัน หากพบผิดวินัยร้ายแรง พร้อมให้ออกจากงานทันที

กรณีเหตุกลางดึกวันพุธที่ 4 พฤศจิกายน รถยนต์มาสด้า 2 สีแดง คันหนึ่งขับผ่านไปด้วยความเร็ว จากนั้น 17 วินาทีต่อมารถยนต์มาสด้า 2 สีแดงของ นาย ธนานพ เกิดศรี ขับผ่านมาพร้อมกับรถตำรวจที่ไล่ล่ามา 4-5 คัน ก่อนที่ตำรวจทั้ง 7 นาย จะบังคับให้นาย ธนานพ จอดข้างทางแล้วเข้ามาจับกุมตัวและใช้ความรุนแรง มีการทำร้ายร่างกาย ทำให้นาย ธนานพ นานถึง 5 นาที จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ช่วงเช้าวันนี้ (9ธ.ค.67) ที่ สน.บางเขน มีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนี้ตั้งแต่เช้า แต่ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพ โดยใช้เวลาการประชุมราว 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้น พันตำรวจเอก ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ออกมาเปิดเผยว่า การประชุมของคณะทำงานวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพฤติการณ์ของตำรวจทั้ง 7 นาย เข้าข่ายความผิดมาตรา 6 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือไม่ ซึ่งพบว่าน่าจะเข้าข่ายหลังจากนี้จะประสานพนักงานอัยการให้มาร่วมสอบปากคำ ตำรวจทั้ง 7 นาย เพิ่มเติม หากพบว่าผิดจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 30 วันแน่นอน

สำหรับมาตรา 6 พ.ร.บ. อุ้มหาย ระบุว่า ความผิดฐานกระทำการที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เช่น พูดข่มขู่ให้หวาดกลัว ดูหมิ่นเหยียดหยาม เป็นต้น

นักข่าวสอบถามถึงกล้องบอดี้แคมของตำรวจ 7 นาย ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือประสานไปยังกองบังคับการตำรวจจราจร ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม ให้ส่งกล้องบอดี้แคมของเจ้าหน้าที่ทั้ง 7 นาย มาให้พนักงานสอบสวนด้วย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้กล้อง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญเพราะมีกล้องวงจรปิดจุดอื่นที่บันทึกภาพได้ชัดเจนอยู่แล้ว สามารถเอาผิดทั้ง 7 นายได้แน่นอน

ส่วนคนขับรถมาสด้า 2 สีแดง คันต้นเรื่องที่แหกด่าน จากการตรวจสอบพบว่าวันเกิดเหตุคนขับรถมาสด้าขับมาที่ด่าน ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่พบว่าเมา จึงให้เป่าเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่เจ้าตัวไม่ยินยอม และขับรถฝ่าแผงกั้นของตำรวจไปทันที ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย จากนั้นตำรวจที่ด่านก็ขึ้นรถไล่ล่า

สำหรับความผิดของชายคนนี้เข้าข่ายความผิด 3 ข้อหา ได้แก่ เมาแล้วขับ ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำให้เสียทรัพย์

ขณะที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ชาย อายุ 37 ปี ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของรถมาสด้า 2 สีแดงที่แหกด่าน จนทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมด เตรียมจะเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางเขนเช้าวันนี้ ได้เลื่อนเป็นรอบที่ 2 ครั้งแรกนัดว่าจะเข้ามอบตัว 10 โมงเช้าวันเสาร์ แล้วก็เลื่อนเป็นวันจันทร์ 9 โมงเช้า  ล่าสุดแจ้งกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขนว่า จะเข้ามาในช่วงเย็นวันนี้ (9ธ.ค.67)

โดย บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ชี้แจง ข้อเท็จจริง กรณีบุคลากรของ หน่วยงาน ขับรถยนต์ส่วนตัวฝ่าด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณถนน ประเสริฐมนูกิจ เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บุคคล ดังกล่าว เป็นพนักงานของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด จริง โดยปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งหัวหน้า เจ้าหน้าที่ขับรถไฟฟ้า โดยในช่วงเวลาเกิดเหตุ พนักงานคนดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ หน้าที่ควบคุมรถไฟฟ้า เนื่องจากอยู่นอกเวลาการปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ รฟฟท. รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบริษัทฯมิได้นิ่งนอนใจ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย และส่งผลกระทบให้มี ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และได้รับบาดเจ็บต่อร่างกาย รวมถึงส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ขององค์กรเป็นอย่างมาก โดยบริษัทฯ จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยดำเนินการเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย

ส่วนที่ 1 ย้ายการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานที่กระทำความผิดเป็นการชั่วคราว โดยให้ขึ้นตรงกับส่วนกลาง

ส่วนที่ 2 พักงาน ไม่น้อยกว่า 15 วัน โดยไม่ได้รับค่าจ้าง ในระหว่างการ สอบสวนข้อเท็จจริง

ส่วนที่ 3 หากพบว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง จะดำเนินการให้พ้นสภาพจากการเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจทันที ทั้งนี้ จะเร่งสอบสวนและหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก


ซึ่งบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ยินดีจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกกระบวนการทางกฎหมายอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯขอยืนยันว่า ในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ขับรถไฟฟ้าจะมีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์ รวมถึงความพร้อมของสภาพร่างกายก่อนเริ่มปฏิบัติงานทุกวัน


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/T-lVIuftrYQ

คุณอาจสนใจ