เปิดนาที ‘7 ตำรวจ’ ล่ารถผิดคัน กระทืบผิดคน ตื้บ ‘ลูกชาย พ.ต.ท.’ ปางตาย ล่าสุดโดนเด้งแล้ว

ผบช.น.สั่งเด้งแล้ว “7 ตำรวจ บก.จร.” รุมกระทืบ “ลูกชาย พ.ต.ท.” อาการสาหัส ยอมรับทำจริง อ้างจับรถที่แหกด่านผิดคัน กระทืบผิดคน ด้านพ่อผู้บาดเจ็บยืนยัน แม้เป็นตำรวจเหมือนกันแต่ก็จะเอาเรื่องถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย ธนานพ เกิดศรี อายุ 33 ปี ลูกชายนายตำรวจ ยศ "พันตำรวจโท" ถูก 7 ตำรวจสังกัดกองบังคับการจราจรกลาง รุมทำร้ายที่ด่านตรวจแอลกอฮอล์เมื่อช่วงตี 1 กว่า ของวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา บริเวณตอหม้อ 12-13 ถนนเกษตร-นวมินทร์ มุ่งหน้าลาดปลาเค้า ทำให้ได้รับบาดเจ็บตามใบหน้าและลำตัว

ในคืนเกิดเหตุหลังตำรวจทั้ง 7 นาย ส่งตัวผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาล นางสาว ธนัชตา เกิดศรี น้องสาวของผู้บาดเจ็บ ใช้โทรศัพท์มือถือแอบอัดคลิปการพูดคุยสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับตำรวจจราจรกลางที่ก่อเหตุไว้ด้วย ซึ่งในคลิปเสียงจะพูดทำนองว่า เป็นการเข้าใจผิด นึกว่าเป็นรถคันที่แหกด่านตรวจแอลกอฮอล์มา เพราะยี่ห้อ รุ่น และสี เหมือนกัน

ทีมข่าวได้คุยกับนางสาว ธนัชตา เล่าว่า ราวตี 1 พี่ชายขับรถยนต์ มาสด้า 2 สีแดง จากอุโมงค์เกษตร มุ่งหน้าแยกลาดปลาเค้า เจอด่าตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ของตำรวจจราจรกลาง ก็ถูกเรียกตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และเป่าถึง 3 ครั้ง แต่ผลเป็น 0 เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวออกจากด่านไปตามปกติ

จากนั้นไม่เกิน 1 นาที พี่ชายขับรถออกมาจากด่านไม่เกิน 500 เมตร ปรากฏว่า มีมอเตอร์ไซต์ 2-3 คัน พร้อมคนขับขี่ 4-5 คน เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ รวมทั้ง รถปิคอัพสายตรวจของตำรวจที่แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ขับติดตามไล่มาด้านหลัง พร้อมกับขับประกบด้าน ซ้าย ขวา พร้อมกับเปิดสัญญาณไฟให้พี่ชายจอดรถชิดซ้าย

พอพี่ชายลงจากรถ กลุ่มตำรวจ 7 นาย ซึ่งมีนายตำรวจยศ "ร้อยตำรวจเอก" เป็นหัวหน้าด่าน ใส่กุญแจมือพี่ชาย พาเข้าริมถนนและรุมทำร้ายร่างกาย ด้วยการเตะเข้าที่ก้านคอ ใบหน้า และลำตัว จนเลือดอาบหน้า คอนแทคเลนส์หลุด แล้วพี่ชายก็ถูกคุมตัวกลับมาที่ด่าน เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ด่าน พบว่า กลุ่มตำรวจไล่รถผิดคัน กระทืบผิดคน โดยอ้างว่ารถลักษณะคล้ายกัน และได้ขอโทษ ซึ่งเธอมองว่า ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม ตำรวจไม่มีสิทธิ์ทำร้ายใคร

ด้านพันตำรวจโท ธนชัย เกิดศรี อดีตพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. พ่อของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้คุยกับลูกชายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกชายเล่าว่าตอนที่โดนตำรวจรุมทำร้ายในใจคิดว่า คงไม่มีชีวิตรอดกลับไปหาพ่อหาแม่แล้ว และกลุ่มคนพวกนี้ไม่น่าจะใช่ตำรวจจริง เพราะพฤติกรรมไม่เหมือนกับตำรวจ ซึ่งคนกลุ่มนี้พยายามใส่กุญแจมือลูกชาย และบอกว่า "มึงแหกด่านมาทำไม" ลูกชายพยายามบอกว่า "ไม่ได้หนี แต่ตำรวจตรวจแล้วผมไม่ผิด" หนึ่งในกลุ่มตำรวจตอบลูกชายว่า "เดี๋ยวมึงไปดูกล้องที่ด่านไม่ต้องพูดเยอะ" ก่อนคุมตัวขึ้นท้ายรถกระบะสายตรวจของตำรวจ

พอมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ด่าน ปรากฏว่า ตำรวจตามไปทำร้ายผิดคัน ผิดตัว โดยอ้างว่า รถลักษณะคล้ายกัน รถคันที่แหกด่านก็เป็นมาสด้า สีแดง เหมือนกันกับรถของลูกชาย พอเขารู้เรื่องก็ให้ลูกสาวและภรรยาไปดูอาการลูกชายที่โรงพยาบาล แล้วเขาไปที่ด่านพบว่า ตำรวจทั้ง 7 นาย อยู่กันครบ จากเดิมที่มี 4 คน ใส่นอกเครื่องแบบ ก็แต่งเครื่องแบบมาเต็มยศ และ ตำรวจที่ประจำด่านตรวจพยายามจะปกปิดข้อมูล ไม่ให้ข้อเท็จจริง พร้อมกับขอไม่ให้เอาเรื่อง และเปลี่ยนอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ส่วนอาการของลูกชาย ตอนนี้หมอก็ยังให้ดูอาการอย่างใกล้ชิดเตรียมห้องฉุกเฉินไว้ด้วย เพราะต้องรอผลการสแกนสมอง และตรวจร่างกายอย่างละเอียดว่า มีอาการเลือดคั่งหรือมีภาวะรุนแรงหรือไม่ ทางครอบครัวยืนยันไม่ยอมความ และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดริมถนนเกษตรนวมินทร์ จับภาพไว้ตอนตีหนึ่ง 40 นาที จะเห็นรถยนต์ มาสด้า 2 สีแดงคันหนึ่งขับผ่านไปด้วยความเร็ว จากนั้นมีรถยนต์มาสด้า 2 สีแดง ของผู้บาดเจ็บขับตามมา ซึ่งทิ้งระยะห่างจากคันแรกราว 10 วินาที แล้วมีรถมอเตอร์ไซต์ตำรวจตามมา ซึ่งคาดว่าจุดนี้เองที่ทำให้ตำรวจเข้าใจผิด คิดว่ารถของผู้บาดเจ็บแหกด่าน

ขณะที่ภาพวงจรปิดหลังตำรวจทำร้ายร่างกายผู้บาดเจ็บแล้ว และคุมตัวนาย ธนานพ กลับมาที่ด่านบริเวณริมถนนเกษตร-นวมินทร์ ตอนตี 2 ของวันที่ 4 ธันวาคม จะเห็นรถยนต์มาสด้า 2 สีแดง ของผู้บาดเจ็บจอดอยู่ริมถนน ส่วนตัวของผู้บาดเจ็บอยู่ที่เต็นท์ของตำรวจ จากนั้นผู้บาดเจ็บได้เดินมาพร้อมตำรวจ เพื่อเปิดรถให้ตำรวจตรวจสอบ แล้วผู้บาดเจ็บก็เดินไปยังกลุ่มตำรวจที่ยืนอยู่ด้านหลัง ซึ่งวงจรปิดดังกล่าวไม่เห็นตอนตำรวจรุมทำร้าย เพราะจุดที่รุมทำร้ายเลยจากที่ตั้งด่านไปประมาณ 500 เมตร

สำหรับจุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ของ สน.บางเขน พันตำรวจเอก อนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการ สน.บางเขน ให้ข้อมูลว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำน้องสาวและแม่ของผู้บาดเจ็บในฐานะพยานแล้ว ส่วนคนเจ็บตอนนี้แพทย์ยังไม่อนุญาตให้สอบปากคำ เพราะอาการยังสาหัส ขณะที่ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นตำรวจทั้ง 7 นาย ยังไม่ได้สอบปากคำ เพราะพนักงานสอบสวนอยากจะทราบพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุจากผู้เสียหายก่อน และยืนยันว่าจะไม่มีการช่วยเหลือแม้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะเป็นตำรวจก็ตาม

นอกจากนี้ครอบครัวผู้บาดเจ็บแจ้งความตำรวจทั้ง 7 นาย ที่ บก.ปปป. เมื่อวานนี้ (4ธ.ค.67) ในข้อหาทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว และให้พนักงานสอบสวนพิจารณาว่า เข้าข่าย พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือไม่

ขณะที่พลตำรวจโท สยาม บุญสม รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 7 นาย ได้แก่ สิบตำรวจเอก วัชรวี, สิบตำรวจเอก วีระพงศ์, สิบตำรวจเอก ปพนธีร์, สิบตำรวจเอก กีรติ, สิบตำรวจเอก ณัฐพงษ์, สิบตำรวจเอก จักรินทร์, ร้องตำรวจเอก ทวีพงษ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ แล้วเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการจราจรแทน เพื่อรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (4 ธ.ค.67) เบื้องต้นมีรายงานว่าทั้ง 7 คน ยอมรับว่า ทำจริง

https://youtu.be/AxNsDz4Ib-s