สาวทอมยันไม่ได้ขโมยรถป้ายแดง อ้างมีคนบอกให้ขับออกมา ตร.เตรียมส่งตรวจอาการทางจิต

ระทึกกลางกรุง หลังสาวทอมก่อเหตุขโมยรถภายในลานจอดห้างสตรีทรัชดา ตำรวจระดมไล่ล่า 8 ชั่วโมง จึงควบคุมตัวไว้ได้ เบื้องต้นพบมีอาการป่วยทางจิต เจ้าตัวยังปฏิเสธ อ้างมีคนบอกให้ขับออกมา

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (2 ต.ค. 2567) โดยผู้ก่อเหตุเป็นสาวทอมขับรถพุ่งชนแผงเหล็กกั้น และพุ่งฝ่าวงล้อมพนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างเดอะสตรีท รัชดา หลังสาวทอมรายนี้ ได้ขโมยรถคันนี้ซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดรถ

จากในคลิปจะเห็นว่า สาวทอมพุ่งชนไม่ยั้งไม่ว่าจะเป็นเหล็กกั้น และเกือบจะชน รปภ.ของห้าง ที่พยายามเข้าไปสกัดรถคันนี้ แม้ว่าทาง รปภ.ของห้างจะเข้าไปทุบกระจกรถ แต่สาวทอมก็ไม่ยอมหยุด และสุดท้ายได้ขับรถฝ่าวงล้อม ขับหนีออกไปตรงประตูทางออก

ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ครั้งนี้ พันตำรวจประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า เจ้าของรถคันดังกล่าวเป็นผู้หญิงอายุ 25 ปี ได้ขับรถมาจากที่พักย่านพระราม 4 เพื่อจะไปทำธุระที่ย่านห้วยขวาง โดยในรถมีแมวพันธุ์ไทยเพศผู้สีดำ 1 ตัว ชื่อน้องมอตี้ ติดรถมาด้วย แต่ระหว่างทางได้แวะมาที่ห้าง เจ้าของรถได้แวะที่ห้างเดอะสตรีทเพื่อจะไปซื้อกาแฟ โดยจอดรถไว้ที่ลานจอดรถ แต่ไม่ได้ดับเครื่องยนต์ เพราะกลัวแมวจะร้อน จากนั้นเจ้าของรถได้เดินไปซื้อกาแฟโดยเอากุญแจรถติดตัวไปด้วย ในจังหวะนั้นเจ้าของรถเห็นคนร้ายขับรถผ่านหน้าไป จึงได้ตะโกนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันสกัดจับ

ทั้งนี้หลังจากที่ สาวทอมขับรถหลบหนีออกจากห้างเดอะสตรีท รัชดาแล้ว ได้มุ่งหน้าไปยังอุโมงค์ห้วยขวาง จากนั้นไปยังแยกรัชดาแล้วขึ้นสะพานรัชวิภา เข้าไปที่ปั๊มน้ำมันภายในซอยมัยลาภ และจุดสุดท้ายมีพลเมืองดีแจ้งว่ารถคันดังกล่าวถูกนำไปจอดไว้ที่ลาดจอดรถของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งภายในซอยนาคนิวาส 16 ซึ่งพบว่าผู้ก่อเหตุได้ถอดทะเบียนรถป้ายแดงออกไปด้วย ตำรวจจึงนำกำลังไปตรวจสอบและพบรถคันดังกล่าวพร้อมกับสาว LGBTQ ที่ก่อเหตุขโมยรถ จึงได้เข้าควบคุมตัวสาวทอมรายนี้ จากการตรวจสอบภายในรถพบน้องมอตี้ แมวพันธ์ไทย ยังอยู่ในรถ ซึ่งพบว่าปลอดภัยดี

จากข้อมูลชองชุดสืบสวนพบว่า สาวทอมที่ก่อเหตุอายุ 39 ปี มีประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิตเวชที่จังหวัดขอนแก่นมานานกว่า 1 ปี

ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกมาจากบ้านพักย่านธัญญบุรี จังหวัดปทุมธานีมาแล้ว 3 วัน โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าก่อนจะก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาที่ห้างบิ๊กซีรัชดาตอนประมาณ 10.21 น. จากนั้นได้เปลี่ยนรองเท้าจากรองเท้าแตะเป็นรองเท้าคัชชู และเวลา 10.56 น. ได้ออกจากห้างบิ๊กซี ไปที่ห้างเดอะสตรีทรัชดา และอยู่ที่ห้างเดอะสตรีทประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง และลงมือก่อเหตุขโมยรถตอน 14.03 น.

ทั้งนี้จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุในเบื้องต้น ผู้ต้องหายังคงให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าขับรถไปตามเส้นทางดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้ขโมย เนื่องจากมีคนบอกให้ขับรถออกมา

ในวันนี้ตำรวจได้เรียกครอบครัวของผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำและให้นำเอกสารว่าผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตและเคยรับการรักษามายืนยัน

ก่อนหน้านี้พี่สาวของผู้ก่อเหตุให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุเริ่มมีอาการผิดปกติตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว คือจะพูดคนเดียว มีลักษณะเหมือนองค์ลง หากมีคนขัดใจอาการก็จะเป็นหนักมากขึ้น และจะเป็นหนักขึ้นหากมีคนขัดใจ

ขั้นตอนหลังจากนี้ จะส่งตัวผู้ก่อเหตุไปที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา เพื่อตรวจสอบอาการทางจิต ว่าขณะเกิดเหตุรู้ผิดชอบชั่วดีขนาดไหน ซึ่งจะได้นำผลที่ได้มาประกอบการพิจารณาการแจ้งข้อหา

ทั้งนี้ตำรวจได้สอบปากคำพยาน และเจ้าของรถไปแล้ว รวม 7 ปาก และกำลังสอบปากคำผู้เสียหายที่ถูกผู้ก่อเหตุขับเฉี่ยวชนรถที่ลานจอดในขณะที่ผู้ก่อเหตุขับรถหนีเพิ่มเติม

นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ผู้ก่อเหตุได้ไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง แล้วไปอ้างตัวว่า เป็นลูกสาวเจ้าของโรงแรม ซึ่งพนักงานโรงแรมได้ประสานตำรวจเข้าระงับเหตุ แต่ไม่ประสงค์ดำเนินคดี

https://youtu.be/rw3wxbITUw0