สาวใหญ่ผวา! รปภ.ซุ่มซอยเปลี่ยว หวังขืนใจ พลเมืองดีช่วย ตามจับล็อคตัวส่งตำรวจ

รปภ.หื่น เพิ่งพ้นโทษออกมาและทำงานได้เพียง 3 วัน ก่อเหตุฉุดสาวเข้าซอยเปลี่ยวหวังข่มขืน แต่โชคดี พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือได้ทัน

เพจอีซ้อขยี้ข่าว ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า "สาวใหญ่รายนึงต้องเจอกับฝันร้ายในวันคล้ายวันเกิดของตัวเองหลังถูก รปภ.สุดหื่นฉุดกระชากแล้วกระทืบ ก่อนจะลงมือล่วงละเมิด แต่มีคนได้ยินเสียงร้อง จึงเข้าช่วยเหลือได้ทัน ยิ่งถ้าไม่มีข่าวเผลอ ๆ คงได้ประกันตัวไปแล้ว หรือไม่แน่ถ้าถูกดำเนินคดีคงติดคุกไม่นาน โชคดีของผู้ก่อเหตุที่มี PDPA คุ้มครอง โชคร้ายคือเหยื่อรายนี้และอาจเป็นรายต่อ ๆ ไปสถานที่เกิดเหตุ เจริญกรุง 109"

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ บริเวณด้านหลังโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ในซอย เจริญกรุง 109 โดยเจอกับพลเมืองดี 2 คน คือ ลุงเอ และ นายพัฒน์ ที่ช่วยจับคนร้าย ทั้งคู่พาดูจุดที่ นายจักรพันธ์ มั่นเหมาะ หรือ เเชมป์ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหา ซ่อนตัวหลังก่อเหตุแล้ว คือ บริเวณด้านหลัง ป้ายชุมชนหลังโรงพยาบาลเจริญกรุง ซึ่งพบว่า มีร่องรอยต้นไม้หัก เเละลักษณะหญ้าคล้ายกับมีคนเหยียบ

นายพัฒน์ ยังเปิดคลิปภาพวงจรปิดให้ดู ซึ่งจะเห็นภาพเวลา 19.56 น.เป็นตอนผู้เสียหายเดินเข้ามาจากปากซอย ก่อนจะมี นายแชมป์ ผู้ก่อเหตุที่สวมชุด รปภ.เดินตามเข้ามา และก่อเหตุฉุดหญิงอายุ 56 ปี หวังข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ

หลังก่อเหตุเสร็จจะเห็นว่า รปภ.คนดังกล่าววิ่งหนีออกมาจากซอยเดิม ก่อนจะเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังป้ายชุมชน ไม่นานก็เห็น ผู้เสียหายเดินตามออกไปทางด้านหน้าปากซอย โดยมีชาวบ้านและพลเมืองดีเดินตามออกไปด้วย

โดยคลิปที่ 2 ผู้ก่อเหตุหลบอยู่ในพุ่มไม้หลังป้ายชุมชน ชาวบ้านจึงใช้ไม้ตีเข้าไปที่พุ่มไม้ เเละช่วยกันล็อคตัว รปภ.หื่นรายนี้ส่งตำรวจ

ขณะที่ลุงเอ ชาวบ้าน ที่อยู่ในชุมชน บอกว่า ภายในซอยจุดเกิดเหตุกลางคืนจะค่อนข้างมืดมากและเปลี่ยว ที่ผ่านมามีโจรลักเล็กขโมยน้อยประจำ เคยปีนเข้าบ้านลุงเอ ขโมยของถึง 5 ครั้ง ตำรวจก็จับไม่ได้ ตัวเองจำตัดสินใจติดกล้องวงจรปิด เพื่อจับโจรปรากฏว่าโจรหายไปเลย ไม่กล้ามาขโมยอีก กระทั่งมามีเหตุการณ์ล่าสุด รปภ.ฉุดคนในชุมชนหวังจะข่มขืน แต่โชคดีที่ชาวบ้านช่วยกันไว้ได้ทัน

ชาวบ้านยังฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยติดตั้งไฟส่องสว่างและวงจรปิดเพิ่มเติมให้ด้วย เพราะอย่างเหตุการณ์ครั้งนี้ที่จับได้เพราะกล้องวงจรปิดของคนในชุมชนกันเอง

ระหว่างที่ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ลงพื้นที่เกิดเหตุ นางนวล (นามสมติ) ผู้เสียหายวัย 56 ปี กำลังเดินกลับเข้าบ้านพอดีพร้อมเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่ตัวเธอถูกรปภ.พยายามจะข่มขืน แต่ต่อสู้สุดฤทธิ์ ทำให้ชาวบ้านได้ยินและออกมาช่วยทัน ซึ่งเธอบอกว่าอยู่ในชุมชนนี้มา 30 กว่าปีไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น และไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง โชคดีที่คนในชุมชนช่วยเหลือและดูแลกัน

ส่วนตัวผู้ต้องหา ไม่ใช่คนในชุมชน เเละไม่ใช่ รปภ.ของโรงพยาบาล เป็นรปภ. ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งและเพิ่งทำงานได้ 3-4 วัน ก่อนมาก่อเหตุ ซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุหวังที่จะข่มขืนไม่ใช่หวังต่อทรัพย์ เพราะจังหวะที่มาล็อคคอและปิดปาก มีการล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงด้วย อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะถ้าได้ปล่อยตัวออกมา อาจจะก่อเหตุซ้ำและทำสำเร็จ ผู้หญิงคนอื่น ๆ อาจไม่โชคดีเหมือนครั้งของตัวเอง

สำหรับความคืบหน้าทางคดี ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร สอบปากคำนายแชมป์ อ้างว่าไม่มีเจตนาจะข่มขืน แต่จำผิดคิดว่า เป็นคู่อริที่ติดเงินอยู่ จึงต้องการแค่ทวงเงินและแค่ทำร้ายร่างกาย ซึ่งจากพยานหลักฐานตำรวจบอกว่า เอาผิดได้เพียงข้อหาทำร้ายร่างกาย แล้วจากประวัติในแชมป์ไม่เคยต้องโทษในคดีอาญา แต่เคยมีประวัติทำร้ายร่างกาย และประวัติทางการแพทย์ด้านจิตเวช

ขณะที่ข้อมูล จากทางฝั่งครอบครัวนายแชมป์ บอกว่านายแชมป์ มีประวัติการรักษาด้านจิตเวชจริง และเคยมีประวัติติดคุกในข้อหาลักทรัพย์ เพิ่งพ้นโทษออกมาได้ 3 เดือน จากนั้นจึงไปสมัครงานเป็นรปภ.อยู่ในช่วงทดลองงานและทำงานได้เพียง 3 วันสุดท้ายมาก่อเหตุอีก