บช.น.สั่งหาผู้บกพร่องเซ็นใบอนุญาต รปภ.หื่น ‘มนตรี’ ปัดไม่เคยยื่นขอเอกสาร

ตำรวจใช้เวลา 36 ชั่วโมง ก็สามารถติดตามจับ นาย มนตรี ใหญ่กระโทก อดีตหัวหน้า รปภ. ผู้ต้องหาคดีข่มขืนลูกบ้านสาวในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านเพชรเกษม หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิดในจังหวัดสระแก้ว เจ้าตัวรับแอบชอบมานาน สบโอกาสจึงลงมือ

นาย มนตรี ถูกจับได้เมื่อประมาณบ่าย 3 โมงครึ่งวานนี้ หลังซ่อนตัวอยู่ในป่าไม่ไกลจากบ้านแม่มากนัก ซึ่ง

ตลอดทั้งวันนาย มนตรี ได้ติดต่อกับพี่ชายผ่านทางโซเชียล ก่อนจะตัดสินใจออกมาเพราะโดนตำรวจกดดันอย่างหนัก โดยพี่ชายเป็นคนพานาย มนตรี ออกมาจากหลังบ้าน เเล้วพามอบตัวกับตำรวจสืบสวน ที่เฝ้าตรึงกำลังอยู่ที่บ้านเเม่ จากนั้นคุมตัวมายัง สภ.วังน้ำเย็น เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม ที่ห้องประชุมชั้น 2 โดยใช้เวลาการสอบสวนนานกว่า 3 ชั่วโมง

โดยระหว่างนั้น แม่ของผู้ต้องหาได้เดินทางมาที่ สภ.วังน้ำเย็น เพื่อพูดคุยกับนาย มนตรี เล็กน้อย ก่อนจะออกมาจากห้องประชุม และกล่าวสั้นๆ ว่า ขอโทษผู้เสียหายแทนลูกชาย

ทางด้าน พันตำรวจเอก พีระพงษ์ เหล่าธนาวิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า การจับนาย มนตรี ตามหมายจับ ไม่ใช่การมอบตัว เพราะตำรวจกดดันจนผู้ต้องหาปรากฏตัว ส่วนการก่อเหตุกับผู้เสียหายที่เป็นลูกบ้านนาย มนตรี ให้การว่า แอบชอบผู้เสียหายมาระยะหนึ่งแล้ว จนในวันเกิดเหตุมีการเรียกช่างมาซ่อมกุญแจห้อง และเห็นผู้เสียหายสวมเสื้อคอวี จึงกลับมาก่อเหตุ พร้อมยอมรับว่า เสพยาเสพติดด้วย

1 ทุ่ม ตำรวจนำตัวนาย มนตรี ออกจากห้องประชุม ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอ ก่อนจะถูกคุมตัวขึ้นรถกระบะเดินทางมาที่ สน.เพชรเกษม

ขณะที่แม่ของนาย มนตรี และครอบครัว บอกว่า ดีใจที่ลูกชายมอบตัว ก่อนจะขึ้นรถตำรวจออกไป

4 ทุ่ม ตำรวจคุมตัวนาย มนตรี มาถึง สน.เพชรเกษม  พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มาสอบปากคำด้วยตัวเอง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดเผยว่า นาย มนตรี รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง และเหยื่อเพียงรายเดียว เมื่อตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติดด้วย  ส่วนสาเหตุที่หลบหนีไปที่ จ.สระแก้ว ก็เพื่อไปตั้งหลัก เบื้องต้นยังไม่พบผู้เกี่ยวข้องที่ช่วยเหลือในการหลบหนีหรือให้ที่พักพิง

หลังสอบปากคำเสร็จตำรวจคุมตัว นาย มนตรี ออกมาจากห้องปรุะชุม จังหวะนั้นเองที่นาย มนตรี ได้กล่าวขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชน ถึงเหตุการณ์ที่ทำลงไป

ขณะที่เช้าวันนี้ เมื่อประมาณ 8 โมงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจคุมตัว นาย มนตรี มาพิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจ ATK ซึ่งจากการสอบถามตำรวจที่หน้าห้องควบคุมทราบว่า เมื่อคืน นาย มนตรี หลับปกติ ไม่มีท่าทีกังวลใดๆ เช้านี้ยังกินข้าวได้ตามปกติ และช่วงบ่ายตำรวจจะคุมตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อเตรียมนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรีฝากขังผัดแรก ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเรา และ บุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล ในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) ส่วนจะทำแผนประกอบคำรับสารภาพหรือไม่ ต้องอยู่ที่ความสมัครใจของผู้ต้องหา

ส่วนเรื่องของใบอนุญาต รปภ. พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และเป็นผู้เซ็นออกใบอนุญาต รปภ. ให้กับนาย มนตรี ชี้แจงว่า ในขณะนั้นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลมอบหมายให้รับผิดชอบการออกใบอนุญาต โดยล็อตนั้นยื่นมามีทั้งหมด 4,530 ราย

สำหรับการตรวสอบคุณสมบัติจะดูว่า ต้องดู 2 ส่วน ว่า “ใครยื่น” แบบยื่น ทพ.6 ต้องเซ็นคำรับรองว่าตัวเองมีประวัติไหม และติ๊กว่ามีประวัติต้องโทษ หากแจ้งเท็จก็มีความผิด หากมนตรีไม่ได้ยื่น คนยื่นก็ต้องรับผิดชอบ

“ใครตรวจ” ต้องดูว่าใครเป็นคนตรวจสอบเอกสาร คนนั้นก็ต้องรับผิดชอบ

ซึ่งเมื่อวานนี้ได้สอบถาม นาย มนตรี เรื่องการยื่นขอเอกสารที่ บช.น. เขาบอกว่าไม่เคยยื่น ซึ่งในส่วนนี้ บช.น.ต้องไปดำเนินคดีกับบริษัทที่ขอยื่นแทน

ขณะที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ร้อยตำรวจเอก ดอกเตอร์ จอมเดช ตรีเมฆ นักวิชาการด้านอาชญวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต วิเคราะห์ถึงพฤติกรรมนายมนตรีแล้ว ยืนยันว่า เป็นการจงใจมาก่อเหตุที่จะข่มขืนผู้เสียหาย โดยมีการเตรียมทั้งกุญแจมือ และ ผ้าเทป ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนาว่า จะต้องก่อเหตุให้ได้ในคืนนั้น  เชื่อว่านายมนตรี ได้เตรียมวางแผนมานานแล้ว และรอจังหวะสบโอกาสที่จะลงมือ  ซึ่งวันเกิดเหตุก็เป็นจังหวะ นายมนตรีมีโอกาสที่จะอยู่ลำพังกับผู้เสียหาย

แม้นายมนตรีหลังก่อเหตุจะยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย ซึ่งเหมือนเป็นการสำนึกผิด  แต่จากประวัติพบว่านายมนตรี เคยก่อเหตุลักษะนี้มาแล้ว กับหลานสาวของตัวเองมาแล้วเมื่อปี 56  ก็มีความเป็นไปได้ว่า นายมนตรี หากพ้นโทษมาก็ก่อเหตุซ้ำอีก หากไม่มีการควบคุมหรือได้รับโทษอย่างเด็ดขาด