เปิดขั้นตอนย้าย ‘โกทร-ลูกน้อง’ มาเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ยัน ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น

รมว.ยุติธรรม เผย กรมราชทัณฑ์เตรียมพร้อมย้าย โกทรและลูกน้อง มาเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หลังโอนคดีมากองบังคับการปราบปราม ยืนยัน โกทรไม่มีอภิสิทธิ์เหนือผู้ต้องขังคนอื่น

ความคืบหน้าคดี สจ.โต้ง หลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ มีคําสั่งโอนสํานวนคดีที่นายชัยเมศร์ หรือ สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร จาก สภ.เมืองปราจีนบุรี มายังกองบังคับการปราบปราม และจะต้องมีการส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมด จากเรือนจำจังหวัดนครนายก มาควบคุมตัวไว้ที่กรุงเทพ

วันนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า เรื่องการย้ายผู้ต้องหาทั้ง 7 คนนั้น เป็นอำนาจของศาลจังหวัดปราจีนบุรี ที่พนักสอบสวนกองบังคับการปราบปราม จะต้องขอให้ศาลพิจารณาอนุญาตในการย้ายเรือนจำมาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร

หากมีการเคลื่อนย้าย ยืนยันว่า กำลังพลของกรมราชทัณฑ์มีเพียงพอในการดูแลอยู่แล้ว แต่อาจจะขอกำลังเสริมจากตำรวจ ช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเพื่อความรัดกุมด้วย ทั้งนี้ หากได้รับการอนุมัติจากศาล ก็คาดว่าจะย้ายตัวผู้ต้องหาไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังในระหว่างการต่อสู้คดี ส่วนจะแยกแดนคุมขัง โกทร กับลูกน้อง หรืออยู่รวมกัน ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บัญชาการเรือนจำ แต่จะไม่ให้คุมขังอยู่กับคู่อริหรือคู่ขัดแย้งแน่นอน

สำหรับเงื่อนไขในการเข้าเยี่ยม ก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของราชทัณฑ์ที่ ปฏิบัติกับผู้ต้องขังทุกรายตามปกติโดยไม่มีอภิสิทธิ์ โดยต้องให้โอกาสพบกับทนายความเพื่อต่อสู้คดี ส่วนผู้เข้าเยี่ยม ต้องมีรายชื่อ 10 รายชื่อที่ผู้ต้องหาแจ้งไว้ว่าให้เยี่ยม แต่หากเป็นบุคคลนอกเหนือรายชื่อ ก็แล้วแต่ผู้ต้องหาพิจารณา

ส่วน โกทร ที่มีอายุเยอะและมีอาการป่วย จะเข้าเงื่อนไขในการส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายของกรมราชทัณฑ์หรือไม่นั้น พันตำรวจเอกทวี บอกว่า ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพยาบาลในการพิจารณา ก่อนเสนอให้ผู้บัญชาการเรือนจำเป็นผู้อนุมัติในการส่งตัวผู้ต้องขัง ไปรักษาในโรงพยาบาลแต่หากส่งไปแล้ว ตรวจสอบพบว่าไม่ป่วยจริง ก็ต้องส่งตัวกลับ

ส่วนเรื่องนี้จะนำมาใช้ขอพิจารณาพักโทษได้หรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่าไม่ได้ เพราะไม่เข้าเกณฑ์ เพราะต้องเป็นเป็นคดีที่ศาลตัดสินเด็ดขาดแล้วจึงจะเข้าเกณฑ์พักโทษได้

ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับโอนคดีมาแล้ว พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม จะไปทำเรื่องขอให้ศาลจังหวัดปราจีนบุรีอนุญาตย้ายตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ไปควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เนื่องจากกองบังคับการปราบปราม อยู่ในอำนาจของศาลอาญา โดยเมื่อสำนวนคดีพร้อม พนักงานสอบสวนก็จะไปยื่นเรื่องต่อศาลทันที


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/NOCPWyfj7Bw