พี่ชายสุดทน เห็นคลิปน้องสาว ถูกรุมบังคับกราบเท้า ขี่จยย.จากสุรินทร์ไปขอนแก่น พาน้องแจ้งความ

พี่ชายขับรถจักรยานยนต์จากจังหวัดสุรินทร์ พาน้องสาว ม.2 ตรวจร่างกายก่อนเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.แวงใหญ่ หลังเห็นคลิปน้องสาวตัวเองถูกเพื่อนในห้องรุมทำร้ายร่างกาย พร้อมบังคับให้กราบเท้าโดยมีรุ่นพี่ชั้น ม.3

มีกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ชุมชนข่าวขอนแก่น” โพสต์ภาพเด็กหญิง เป็นนักเรียนชั้น ม.2 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง ในอ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ถูกรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บในช่วงกลางคืน พร้อมข้อความระบุว่า “น้องสาวถูกรุมทำร้าe ปิดห้องรุมยำในโรงเรียน บังคับให้กราบตีu เตรียมแจ้งความเอาเรื่องถึงที่สุด (มีคลิป) #แวงใหญ่”

วันนี้ (27 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลแวงใหญ่ จ.ขอนแก่น โดยได้พบกับ อาสาสมัคร ทหารพราน อิทธิพล อายุ 24 ปี ซึ่งขับรถจักรยานยนต์มาจากจังหวัดสุรินทร์ เพื่อ พา ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอแวงใหญ่ ตรวจร่างกายเพื่อเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจในกรณีที่ถูกทำร้าย พร้อมทั้งเปิดคลิปหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอที่น้องสาวของ อาสาสมัครทหารพราน ถูกเพื่อนในชั้นเรียนรุมทำร้ายร่างกายในห้องเรียน และบังคับให้ก้มกราบเท้าโดยมีรุ่นพี่ชั้น ม.3โรงเรียนเดียวกันเป็นคนสั่งการ โดยในเหตุการณ์ประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นคลิปช่วงกลางคืน

น้องสาวอาสาสมัครทหารพรานโดยรุมทำร้ายนอนอยู่ที่พื้น และถูกเพื่อนนักเรียนชายทุบตีและฟาดด้วยวัตถุที่คาดว่าเป็นโทรศัพท์เข้าที่ศีรษะอย่างแรง พร้อมบอกว่า “พยายามใจเย็นสุดแล้ว” โดยน้องสาวได้นั่งลงก่อนถูกเด็กหญิงสวมเสื้อสีเหลืองเดินเข้ามากระชากผม พร้อมบอก “มึงเป็นอะไร ทำไมมึงคือขายแต่กู” ก่อนที่ ทั้งสามคน จะเดินแยกจากกัน โดยมีผู้ชาย ที่สวมชุดนอนบอก “มึงกลับบ้านมึงเลยนะมึง”

และยังมีคลิปที่มีกลุ่มนักเรียนหญิง5-6คน ทั้งอยู่ในชุดนักเรียนหญิง และชุดพละศึกษา กำลังรุมทำร้ายทุบตีเตะต่อย กระชากผมน้องสาวตัวเอง โดยที่ไม่ได้ต่อสู้ขัดขืน ก่อนที่จะมีเสียงนักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ห้ามมึงไปบอกครูนะ ถ้ามึงบอกครู มึงเจอหนัก มึงได้ย้ายโรงเรียน” จากนั้นน้องสาวได้ต่อสู้กับเพื่อนนักเรียนที่ใส่ชุดพละศึกษา ก่อนที่เพื่อนในห้องจะรุ่มเข้าทำร้าย โดยมีนักเรียนชาย ทุบไปที่น้องสาวอย่างแรงจนเกิดเสียงดังชัดเจน 4-5ครั้ง แล้วเพื่อนคนอื่นๆจะรุมกระชากดึงผมของน้องสาว โดยยังมีนักเรียนหญิงที่สวมชุดพละยังคงยืนคร่อมตัวอยู่ ก่อนจะจับศีรษะน้องสาวฟาดกระแทกลงที่พื้นห้องเรียนอย่างแรง

และยังมีคลิปน้องสาวและเพื่อนนักเรียนหญิงที่สวมชุดพละศึกษารุมทำร้าย โดยนักเรียนที่สวมชุดพละ กระชากที่ผม และเหวี่ยงนักเรียนหญิงที่ถูกกระทำจนล้มลง มือข้างหนึ่งยังจับกระชากที่ผม อีกข้างทุบตีที่หลังอย่างแรงนับ 10ครั้ง ก่อนจะใช้เท้าถีบไปที่หน้าอีก1ครั้ง ซึ่งน้องสาวนั่งอยู่ที่พื้นในสภาพ หัวฟู เสื้อกระโรงยับยู่ยี่ โดยมีภาพขาของนักเรียนชายยื่นออกมา พร้อมมีเสียงบอก “ มึงกราบสิ” โดยน้องสาวอาสาสมัครทหารพรานได้ฝืนใจก้มลงกราบ หลังจากนั้น มีนักเรียนหญิงที่อยู่ด้านหลังถีบมาที่น้องสาวจนหน้าคว่ำ ก่อนที่คนที่ถือกล้องถ่ายคลิปจะเดินเข้ามาใกล้ พร้อมพูดว่า “กี่รอบแล้ว มึงน่ะกี่รอบแล้ว ที่มายุงกับผัวเขา มึงไม่ต้องขอโทษกู คนอย่างมึงโดนกูไม่เสียดายหรอก “ ก่อนที่จะมีนักเรียนหญิงจากด้านหลังเข้ามาตบที่หน้าของนักเรียนหญิงที่ถูกกระทำ พร้อมทั้งมีเสียงเพื่อนเตือนว่า “ปลาย. มึงอย่าตีหน้ามัน” ซึ่งคลิที่อยู่ในห้องเรียนนั้น เกิดเหตุภายในห้องเรียน ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา

โดยทั้งหมดเป็นคลิปที่พี่ชายแทบทนดูไม่ได้ ถึงกับร้องไห้ขณะเปิดคลิปให้กับผู้สื่อข่าวดู ก่อนจะนำเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แวงใหญ่ เพื่อให้ติดตามผู้กระทำต่อน้องสาวมาพูดคุยและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ซึ่งภายหลังอาสาสมัครทหารพรานพาน้องสาวเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแวงใหญ่เสร็จ ได้พาน้องสาวเดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สุพรรณ์ พระบุ สว.(สอบสวน) สภ.แวงใหญ่ ว่า น้องสาวถูกเพื่อนรุมทำร้ายร่างกายในห้องเรียนและในหมู่บ้าน รวม 3 ครั้ง ร่างกายบอบช้ำ อยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่ลงมือทำร้ายน้องสาวและคนที่ถ่ายคลิปหรือคนที่ร่วมในเหตุการณ์ ตามกฎหมายทุกคน

อาสาสมัคร ทหารพราน อิทธิพล เปิดเผยว่า ตนเป็นอาสาสมัครทหารพรานที่ชายแดนอ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ มีญาติส่งคลิปขณะที่น้องสาวถูกทำร้ายร่างกายและบังคับให้กราบเท้า เหตุเกิดในห้องเรียนเมื่อวันอังคารที่ 26 พ.ย.2567 ที่ผ่านมานอกจากนี้ยังมีคลิป น้องสาวถูกทำร้ายบนถนนทางเข้าบ้านพัก เหตุเกิดที่บ้านนาโพธิ์ ต.โนนสะอาด อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น จึงได้สอบถามมารดาที่อยู่กับน้องสาวที่บ้าน ซึ่งทราบว่าพ่อแม่ไม่รู้เรื่อง เพราะน้องสาวไม่บอก

จึงลงงานกับผู้บังคับบัญชา กลับมาที่บ้าน ให้พ่อกับแม่พาน้องสาวไปตรวจร่างกายที่รพ.แวงใหญ่ จากนั้นก็พามาแจ้งความกับตำรวจสภ.แวงใหญ่ ให้ทำการสอบสวนและดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับทุกเหตุการณ์ตามคลิป เพราะแต่ละคลิปชัดเจนมาก และขอยืนยันว่า ไม่มีการยอมความเด็ดขาด และหากมีการเยียวยาและทำขวัญ ผู้ปกครองของคนก่อเหตุสามารถทำได้ แต่ทางกฏหมายก็ยังต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายเหมือนเดิม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องสาวนั้น จะเกิดจากสาเหตุอะไรตนไม่รู้ รู้เพียงว่า นักเรียนควรไปโรงเรียน เรียนหนังสือ ไม่ควรมารุมทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ และผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานให้ดีดี

ขณะที่น้องเอ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกนั้น เกิดจากกรณีของเพื่อนชื่อปาย นักเรียนหญิงชั้น ม.2 โรงเรียนเดียวกัน มากล่าวหาว่า ตนพูดเรื่องที่เพื่อนได้เสียกับเพื่อนชาย ซึ่งก็ตอบไปแล้วว่า ไม่ได้พูด แต่เพื่อนไม่เชื่อ จึงร่วมกับเพื่อนชายชื่อต่อ รุมทำร้าย ที่ทางเข้าบ้านพัก นอกจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ล่าสุด เกิดขึ้นในห้องเรียน เมื่อช่วงพักกลางวัน วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเพื่อนชื่อต้นข้าว มาถามเรื่องการเอาเรื่องส่วนตัวที่เกี่ยวกับการคบหาเพื่อนชายของต้นข้าวไปนินทา จนเพื่อนชายบอกเลิก ก็ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องและไม่ได้พูด ต้นข้าวจึงพาเพื่อน ชื่อปาย ชื่อกุ๊กไก่ และรุ่นพี่ ม.3 ชื่อปาล์มมี่มาทำร้ายในห้องเรียน และรุ่นพี่ก็บังคับให้ก้มกราบเท้าเพื่อนๆทุกคน โดยบอกว่าถ้ากราบเท้าจะไม่ทำร้ายอีก แต่หลังจากก้มกราบเท้าแล้ว เพื่อนก็ยังรุมทำร้ายเหมือนเดิม ซึ่งมีเพื่อนนักเรียนในห้องถ่ายคลิปเอาไว้

น้องเอ กล่าวอีกว่า ทุกเหตุการณ์ที่ถูกเพื่อนเรียนชั้นเดียวรุมทำร้ายมาจากเรื่องผู้ชายทั้งนั้น พอเพื่อนชายที่คบหาบอกเลิกก็มากล่าวหาว่าเป็นเพราะตน แล้วก็พากันมารุมทำร้ายและข่มขู่ว่าห้ามบอกใคร ถ้าครูและพ่อแม่รู้เรื่องจะตามทำร้ายต่อไปไม่หยุด จึงไม่กล้าบอกพ่อแม่และบอกคุณครู แต่ตอนนี้คุณครูที่โรงเรียนทราบเรื่องแล้ว เพราะมีคลิปแชร์ในโซเชียล พ่อแม่และพี่ชายจึงพามาหาหมอที่รพ.เพราะร่างกายบอบช้ำ ปวดที่ต้นคอ และอยากให้ตำรวจเอาเรื่องเพื่อนๆและรุ่นพี่ที่ร่วมกันทำร้ายตนถ้าเป็นไปได้ ตนอยากให้ทางโรงเรียนไล่ทุกคนออกจากโรงเรียน ตนจะได้ไปเรียนหนังสือตามปกติ ไม่มีใครมารุมทำร้ายอีก

ทางด้าน พ.ต.อ.ศุภสิทธิ์ สุวรรณี ผกก.สภ.แวงใหญ่ กล่าวว่า เห็นคลิปที่วัยรุ่นทำร้ายกันแล้ว และเมื่อฝ่ายผู้ปกครอง ที่เป็นพี่ชายคนเจ็บ นำพาน้องสาวเข้าแจ้งความ พร้อมหลักฐานที่ผู้แจ้งนำมาแจ้งความ ตำรวจก็รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนต่อไปหลังรับแจ้งความตำรวจก็จะเชิญผู้ปกครองให้นำบุตรหลานมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำต่อหน้าทีมสหวิชาชีพ เนื่องจากคนเจ็บและคู่กรณีเป็นเยาวชนทั้งหมด เพราะเท่าที่ทราบในเบื้องต้น ถูกทำร้ายด้วยเรื่องผู้ชาย เพราะอีกฝ่ายคบหาเพื่อนชาย แต่ถูกฝ่ายชายบอกเลิก จึงคิดว่าสาเหตุที่ฝ่ายชายบอกเลิก เป็นเพราะคนเจ็บหน้าตาดีกว่า แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่ควรจะรุมทำร้ายร่างกายคนอื่น ซึ่งเมื่อเกิดเหตุแล้ว หลักฐานตามคลิปชัดเจน ทุกคนที่ร่วมกันก่อเหตุก็ต้องมาพบตำรวจเพื่อให้ปากคำ ตำรวจจะดำเนินการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย และให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป