หนุ่มขโมยรถพ่วง อ้างจำผิดคัน นึกว่าคู่กรณีที่เคยเฉี่ยวชน บอกลากมาเป็นตัวประกัน

ตำรวจชุดปราบปรามโจรกรรมรถ สภ.หาดใหญ่ จับหนุ่ม 32 ปี ขโมยรถกึ่งพ่วงเอามาซ่อนในป่ารกทึบ

วันนี้ (25 ก.ย.) พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ต .ธีรพงศ์ วิชิต สว.สส.สภ.หาดใหญ่ ร.ต.อ.อานุสิทธิ์ เนียมแกล้ว หน.ชป.ปจรฯ พร้อม ตร.ชป.ปจร.สภ.หาดใหญ่ ชุดปราบปรามโจรกรรมรถ สภ.หาดใหญ่ รับแจ้งเกิดเหตุลักรถกึ่งพ่วง เวลาประมาณ 00.05 น. บริเวณที่ดินว่างในป่าละเมาะ ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามโจรกรรมรถ สภ.หาดใหญ่ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย คือนายกระแสง อายุ 49 ปี แจ้งว่าได้มีคนร้ายลักรถกึ่งพ่วง (พื้นเรียบ) หมายเลขทะเบียน 72-2351 สงขลา ของตนไป เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนสายเอเซีย ใกล้กับแยกควนลัง ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2567 เวลาประมาณ 01.30 น. ผู้ถูกจับ จำนวน 1 คน คือ นายวรวุฒิ อายุ 32 ปี

หลังจากทราบเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามโจรกรรมรถ สภ.หาดใหญ่ จึงได้เดินทางไปทำการตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุ เพื่อสืบหาพยานหลักฐานในคดีนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบ เมื่อเวลาประมาณ 01.06 น. ได้มี ชายไม่ทราบชื่อสวมหมวกปิดบังใบหน้า กางเกงขาสั้น ขับขี่ รถบรรทุก ไม่ประจำทาง ( รถหัวลาก ) ยี่ห้อ ISUZU สีขาว ปิดบังหมายเลขทะเบียน เข้ามาจอดอยู่หลัง รถกึ่งพ่วง หมายเลขทะเบียน 72-2351 สงขลา เฝ้ารอสังเกตุอยู่ประมาณ 10 นาที ต่อมาชายคนดังกล่าวจึงได้ขับรถของตนเข้ามาพ่วงต่อกับรถกึ่งพ่วง หมายเลขทะเบียน 72-2351(ซึ่งเป็นส่วนหางลาก) และลากจูงรถกึ่งพ่วง หมายเลขทะเบียน 72-2351(ซึ่งเป็นส่วนหางลาก) ออกไปจากที่เกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนี และเส้นทางก่อนมาก่อเหตุ โดยเส้นทางมาก่อเหตุ พบว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.14 น. มีผู้ขับขี่รถบรรทุก ไม่ประจำทาง ( รถหัวลาก ) ยี่ห้อ ISUZU สีขาว ปิดบังหมายเลขทะเบียน ได้ขับขี่ออกมาจาก ซอยไม่มีชื่อ ถนนสายเอเซีย ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเมื่อขับมาบริเวณหน้าซอยดังกล่าว ได้มี รถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซิตตี้ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กพ 8996 สงขลา ขับมาจอดรอ และได้นำแกลลอนน้ำมัน จำนวน 2 ถัง ไปส่งมอบให้กับชายซึ่งขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าว จากนั้นจึงได้ขับขี่ออกไป ต่อมาชายขับรถบรรทุก ได้ขับขี่ออกไปจอดอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้านปาล์มสปิง จากนั้น เวลาประมาณ 01.05 น. ได้ขับขี่ออกไปและไปก่อเหตุลักเอา รถกึ่งพ่วง หมายเลขทะเบียน 72-2351 สงขลา ซึ่งจอดอยู่ที่บริเวณริมถนนสายเอเซีย ใกล้กับแยกควนลัง ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

หลบหนีไปตามเส้นทางถนนเพชรเกษม (ฝั่งทางไปน้ำตกโตนงาช้าง) ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผ่านทางแยกท่าชะม่วง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และผ่านไปยัง อ.ควนกาหลง จ.สตูล จากนั้นไม่สามารถติดตามกล้องวงจรปิดต่อได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปหา นายยาโกบ ซึ่งเป็นผู้ครอบครอง รถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซิตตี้ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กพ 8996 สงขลา สอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นายยาโกบฯให้การว่า ตนคือผู้ครอบครอง รถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซิตตี้ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กพ 8996 สงขลา จริง และเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2567 เวลาประมาณ 23.15 น. ตนได้นัดพบกับ เพื่อนของตน คือ นายวรวุฒิ ตนจดจำนามสกุลไม่ได้ เพื่อนัดเอาน้ำมัน จำนวน 2 แกลลอน ไปให้กับ นายวรวุฒิฯ โดยนายวรวุฒิฯได้บอกกับตนว่าได้นำรถบรรทุก ไม่ประจำทาง ( รถหัวลาก ) ยี่ห้อ ISUZU สีขาว ซึ่งเป็นของนายวรวุฒิฯ มาซ่อมที่อู่ซ่อมภายในซอยไม่มีชื่อ ถนนสายเอเซีย ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และขณะกำลังจะกลับ รถของนายวรวุฒิน้ำมันหมด จึงได้ขอความช่วยเหลือให้ตนนำน้ำมันไปให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำภาพ นายวรวุฒิ ให้กับ นายยาโกบฯ ดูและให้การยืนยันว่าคือเพื่อนของตนจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัว นายยาโกบฯ เพื่อเป็นพยาน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วย นายยาโกบฯ ได้เดินทางไปยัง อู่ซ่อมภายในซอยไม่มีชื่อ ถนนสายเอเซีย ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว เจ้าของอู่ ให้การว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. ได้มี ชายทราบชื่อเพียงชื่อเล่นคือ บ่าว นำรถบรรทุก ไม่ประจำทาง ( รถหัวลาก ) ยี่ห้อ ISUZU สีขาว หมายเลขทะเบียน 71-7764 สงขลา มาซ่อมคันเร่งที่ร้านของตน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำภาพถ่ายของ นายวรวุฒิ ปานแดง มาให้เจ้าของอู่ดังกล่าวดู และยืนยันว่าเป็นบุคคลที่นำรถบรรทุกคันดังกล่าว มาซ่อมที่ร้านตนจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบพิกัดของรถบรรทุกคันดังกล่าว จากบริษัทผู้เช่าซื้อ ปรากฎว่า เมื่อวันที่ 20 – 21 ก.ย. 2567 รถคันดังกล่าวได้วิ่งเส้นทางเดียวกันกับเส้นทางของกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อขออนุญาตเข้าสถานที่ดังกล่าวกับเจ้าของบริษัทและเข้าไปยังสถานที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจพบ รถบรรทุก ไม่ประจำทาง ( รถหัวลาก ) ยี่ห้อ ISUZU สีขาว หมายเลขทะเบียน 71-7764 สงขลา จอดอยู่ พร้อมกับ นายวรวุฒิ ปานแดง นั่งอยู่ในรถคันดังกล่าว จึงได้เชิญตัวบุคคลดังกล่าว พร้อมด้วย รถบรรทุก ไม่ประจำทาง ( รถหัวลาก ) ยี่ห้อ ISUZU สีขาว หมายเลขทะเบียน 71-7764 สงขลา(ของกลางลำดับที่ 1) มายังชุดปราบปรามโจรกรรมรถ สภ.หาดใหญ่ เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดคดีดังกล่าว เมื่อไปถึงยังชุดปราบปรามโจรกรรมรถ สภ.หาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถาม นายยาโกบฯ พยาน ให้ชี้ยืนยันว่า นายวรวุฒิฯ คือบุคคลที่ ให้ตนไปส่งนำแกลลอนน้ำมัน จำนวน 2 ถัง ให้ตามภาพจากกล้องวงจรปิด และยืนยันว่า รถบรรทุก ไม่ประจำทาง ( รถหัวลาก) ยี่ห้อ ISUZU สีขาว ปิดบังหมายเลขทะเบียน คือของ นายวรวุฒิฯ จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถาม นายวรวุฒิถึงเรื่องราวดังกล่าว นายวรวุฒิฯให้การรับสารภาพว่า ตนได้ก่อเหตุลักทรัพย์เอา รถกึ่งพ่วง สีเขียว หมายเลขทะเบียน 72-2351 สงขลา จริง แต่ตนนั้นเข้าใจว่า รถกึ่งพ่วง หมายเลขทะเบียน 72-2351 สงขลา ดังกล่าว เป็นของคู่กรณีของตน โดยเมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว ขณะที่ตนกำลังขับขี่รถของตนอยู่นั้น ได้มีรถพ่วงข้างที่มี รถกึ่งพ่วง สีเขียว อยู่ เฉี่ยวชนและปาดหน้าตน ตนจึงได้เจ็บใจ และเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2567 เวลาประมาณ 23.15 น. ขณะที่ตนกำลังกลับพบ รถกึ่งพ่วง สีเขียว หมายเลขทะเบียน 72-2351 สงขลา จอดอยู่ จึงเข้าใจว่าเป็นของคู่กรณีของตน จึงได้ก่อเหตุลักเอาไป ซุกซ่อนไว้ภายใน บริเวณที่ดินว่างในป่าละเมาะ ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล เพื่อหน่วงเหนียวการชำระหนี้ค่ารถชนของตน และยินดีสมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจยึด เมื่อไปถึงยัง บริเวณที่ดินว่างในป่าละเมาะ ต.ควนโดน อ.ควนโดน .สตูล เจ้าหน้าที่ตำรวจพบ รถกึ่งพ่วง สีเขียว จอดอยู่ ในลักษณะคลุมผ้าใบอยู่มิดชิด ไม่สามารถมองเห็นป้ายทะเบียนได้ จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพบว่าเป็น รถกึ่งพ่วง ( พื้นเรียบ )รุ่น PS3-SF1250 B สีเขียว หมายเลขทะเบียน 72-2351 สงขลา จำนวน 1 หาง ซึ่งได้แจ้งหายไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเห็นว่าสถานที่ตรวจยึดดังกล่าว อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 80 กิโลเมตร

และสถานที่ซุกซ่อนดังกล่าวเป็นป่ารกทึบ ไม่มีทางที่จะมองเห็นได้หากไม่มีผู้นำทางมา ประกอบกับบุคคลดังกล่าวปิดบังของกลางโดยการคลุมผ้าใบอย่างมิดชิด ขณะลงมือก่อเหตุนายวรวุฒิฯ มีการวางแผนเป็นอย่างดีในการปิดบังอำพรางใบหน้า และถอดอุปกรณ์รถบางส่วนออกเพื่อไม่ให้มีผู้จดจำได้ ประกอบกับ นายวรวุฒิฯ มีเวลาในการวิเคราะห์เหตุการให้ดี ได้ ซึ่งนายวรวุฒิฯ ได้จอดรออยู่เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนจะลงมือก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันตรวจยึดของกลางดังกล่าวทั้งหมดข้างต้นไว้เป็นของกลาง และได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์