อาชญากรรม
หนุ่มไรเดอร์ สุดงง นั่งอยู่กับเพื่อนรัก เกิดหลอนยา จู่ๆใช้มีดแทงคอสาหัส
โดย olan_l
31 ก.ค. 2567
72 views
วันนี้ (31 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธาน กต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ ลงพื้นที่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับการขอความช่วยเหลือจากนางเสมียน สิทธิ์สวนจิก อายุ 63 ปี มารดาของนายจิระศักดิ์ หรืออั๊ง แท่นกลาง อายุ 23 ปี ไรเดอร์หนุ่ม นำหลักฐานคลิปจากกล้องวงจรปิด ขณะถูกเพื่อนสนิทคบหากันตั้งแต่สมัยเด็กทราบชื่อคือนายเต้ เสพยาหนักจนหลอนหยิบมีดพกสั้นจ้วงแทงนายอั๊ง บริเวณลำคอจนได้รับบาดเจ็บเย็บที่ลำคอ 3 เข็ม และมืออีก 6 เข็ม จนต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานกว่า 1 อาทิตย์ ขณะนั่งรอกดรับออเดอร์ลูกค้าอยู่หน้าบ้าน ทั้งนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นายธนายุต หรือเต้ โพธิ์อ่อน อายุ 25 ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของนายอั๊ง ได้รับบาดเจ็บที่ขาเย็บ 8 เข็ม หลักจากเข้าไปห้ามปราบนายเต้ ที่มีอาการหลอนยา จึงนำเรื่องราวดังกล่าวมาร้องเรียนเนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะตำรวจยังจับกุมตัวนายเต้ ผู้ก่อเหตุไม่ได้ แจ้งความไว้ที่สภ.ปากเกร็ด
โดยนายจิระศักดิ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ค.67 เวลา 20.00 น. ตนได้นัดเพื่อนคือนายเต้ ผู้ก่อเหตุและรุ่นพี่ก็ชื่อเต้เหมือนกัน มานั่งเล่นที่หน้าบ้านพูดคุยกันเพราะว่าตนเป็นพนักงานส่งอาหาร ระหว่างรอกดรับออเดอร์ลูกค้า ก็จะนั่งเล่นกันไม่มีการดื่มเหล้าหรือเสพยาแต่อย่างใด ตอนแรกทุกอย่างก็ปกติ แต่ทางเต้ ผู้ก่อเหตุมีอาการเหมือนเสพยามา ลูกตาล่องลอย จากนั้นตนก็นั่งอยู่ด้วยกัน 3 คน ตนสวมเสื้อคลุมสีดำ เต้เพื่อนตนสวมเสื้อฮู๊ดสีขาวและรุ่นพี่ชื่อเต้อีกคนสวมเสื้อคลุมไรเดอร์สีเขียว จนกระทั่งเวลา 02.00 น. ตนได้ขี่รถกลับจากส่งออเดอร์ให้ลูกค้ามา ก็มานั่งในบ้านปกติ เห็นนายเต้ มีพฤติกรรมแปลกๆหยิบมีดออกมาแคะเล็บตัวเอง เวลาผ่านไปประมาณ 10 วินาที นายเต้ได้หยิบมีดจ้วงเข้าแทงมาที่คอตน ไม่มีการพูดคุยหรือทะเลาะใดๆกัน จากนั้นรุ่นพี่ตนก็ได้เข้ามาห้ามหยิบมีดของนายเต้ ฉุดกระชากกันตั้งแต่ในบ้านจนออกมาหน้าบ้าน ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บที่มือขวา ส่วนรุ่นพี่ตนก็ถูกมีดเข้าที่ขาขณะเข้าห้าม จากนั้นทางรุ่นพี่ตนก็ได้ไล่ให้นายเต้ ผู้ก่อเหตุกลับบ้านไป ก่อนจะรีบพาตนไปโรงพยาบาล ซึ่งขณะเกิดเหตุ แฟนตนก็ได้ออกมาห้ามด้วยในภาพวงจรปิด ก่อนจะพาตนไปส่งโรงพยาบาล
ตนและนายเต้ รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องโกรธเคือง ด่าทออะไรกันมาก่อน เพียงแต่ตนรู้ว่าเพื่อนตนได้เสพยาเสพติดอยู่ประจำ เมื่อก่อนก็ทำงานขับไรเดอร์เหมือนตน แต่ก็ได้ออกไปแล้วไม่รู้ว่าใช่เรื่องยาเสพติดหรือเปล่า ตนรู้ว่าเพื่อนติดยาแต่ก็พยายามชวนมาพูดคุยนั่งเล่นเพื่อจะได้ไม่ต้องไปยุ่งกับยาอีก อยากให้มีสังคมที่ดีกว่านี้ แต่กลับมาถูกก่อเหตุแบบนี้เอง ก่อนหน้านี้นายเต้ก็เคยมีอาการแบบนี้ประจำ บางครั้งก็พูดคนเดียว ตาลอย เหม่อลอย แต่ไม่เคยพกมีด รอบนี้ตนก็ยังไม่รู้เพราะสาเหตุอะไรทางเต้ถึงได้ก่อเหตุแทงตน
เบื้องต้นคาดการว่าสาเหตุเกิดมาจากยาเสพติดแน่นอน หลังจากที่ตนออกมาจากโรงพยาบาลก็ได้โทรศัพท์ทักคุยกับเต้ถามถึงสาเหตุที่แทงตน แต่ทางเต้ก็ตอบกลับมาว่า “กูขอโทษ ขอทบทวนตัวเองก่อน” เพียงแค่นี้ ซึ่งกรณีนี้หมอได้บอกตนว่าโชคดีไม่ถูกเส้นเลือดใหญ่ หากถูกแทงขึ้นมาด้านบนอีกนิดตนอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว สุดท้ายนี้อยากให้ตำรวจเร่งจับกุมเต้ เพื่อนตนให้ได้เร็วๆ และพาไปรักษาอาการติดยาด้วย ตอนนี้ตนเห็นเฟซบุ๊กของเต้อัพสตอรี่ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางครอบครัวตนก็รู้สึกกังวนหวาดระแวงกลัวเต้กลับมาทำร้ายอีก
นางเสมียน แม่คนเจ็บ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุจนกระทั่งตอนนี้ตนยังรู้สึกกลัวเรื่องความปลอดภัย เพราะตำรวจยังจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ กลับมาบ้านต้องล็อกประตูทุกครั้ง เพราะผู้ก่อเหตุรู้บ้านกล้าก่อเหตุทั้งๆที่เป็นหน้าบ้านของตน แต่ตอนเกิดเหตุตนนอนอยู่ชั้น 2 ไม่เห็นเหตุการณ์ หลังจากได้ยินเสียงโวยวายทะเลาะกันจึงลงมาดู แต่ทุกคนได้แยกย้ายไปหมดแล้ว เพื่อนพาลูกตนไปโรงพยาบาล ส่วนคนก่อเหตุก็วิ่งหนีออกไปจากซอย เหลือเพียงคราบเลือดที่อยู่ภายในบ้าน สุดท้ายอยากให้ตำรวจช่วยเร่วติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ดร.แก้ว กล่าวว่า ในกรณีนี้ตนได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือมาทจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ดูพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ก็ทราบว่าทางผู้บาดเจ็บได้ถูกทำร้ายจริง สาเหตุหลักนั้นเกี่ยวกับยาเสพติดที่ผู้ก่อเหตุไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ในด้านคดีตนได้ติดต่อประสานไปยังสภ.ปากเกร็ด แล้วทางคดีตอนนี้ก็ถือว่ายังไม่ล่าช้า เพราะผู้บาดเจ็บเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมา ตำรวจก็ได้สอบปากคำไปเบื้องต้นแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน ตนก็จะคอยดูแลเรื่องคดีและความคืบหน้าต่อไป แต่ทางด้านครอบครัวคนเจ็บยังคงมีความกังวนในเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะกลัวทางผู้ก่อเหตุย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก ทั้งนี้ตอนนี้อยู่ระหว่างประสานไปยังกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้ตรวจสอบว่ากรณีนี้เข้าเกณฑ์เหยื่ออาชญากรรมหรือไม่อย่างไร