ไล่ยิง 7 นัด เจ้าของวงหมอลำ รอดหวุดหวิด ด้านตำรวจ รู้ตัว 4 คนก่อเหตุแล้ว

ความคืบหน้ากรณีนายธนพล บัลลังสำโรง อายุ 25 ปี เจ้าของวงหมอลำชื่อ “เสือ ธีรพล ไชยเลิศ” เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ภายหลังจากกลางดึกที่ผ่านมา ถูกรถเก๋งสีขาวพร้อมพร้อมจักรยานยนต์ไล่ตามยิงขณะขับรถเก๋ง โตโยต้า โคโรล่า อัลติส สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ 5569 ชัยภูมิ กลับจากร้านโจ๊กจนกระจกด้านหลังแตกละเอียดทั้งบาน และมีรูกระสุนที่ท้ายรถและบนหลังคาอีกหลายนัด แต่เคราะห์ดีรอดมาได้ ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่าเกิดจากบารมีของพระที่ห้อยคออยู่คือ หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดป่าอุดมคงคาคีรีเขต รุ่นแรกพิมพ์คอติ่ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น โดยมีพ่อและแม่คอยอยู่ที่ด้านหน้าโรงพัก

วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวติดตามความคืบหน้าดังกล่าว และได้พูดคุยกับนางสายตา กองหล้า อายุ 47 ปี แม่ของนายธนพล กล่าวว่า ตนเองทราบเรื่องในช่วงเช้า หลังจากที่ลูกชายเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น จึงเดินทางมาพบลูกชาย ซึ่งทราบรายละเอียดจากลูกชายว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายพร้อมเพื่อนไปนั่งกินโจ๊กที่ร้านขายโจ๊กแห่งหนึ่งริมถนนหน้าเมือง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังจากกินโจ๊กเสร็จ จึงเดินข้ามถนนเพื่อไปขึ้นรถเก๋งส่วนตัว ซึ่งจอดอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามร้านโจ๊ก ขณะเดินข้ามถนนก็ถูกรถเก๋งไม่ทราบยี่ห้อ ทะเบียน ขับผ่านเกือบถูกเฉี่ยวชน ลูกชายจึงบ่นกับเพื่อนว่า ถ้าชนมาขาหักใครจะรับผิดชอบ และอุทานคำหยาบทิ้งท้าย ซึ่งเป็นจังหวะที่มีชายวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาได้ยินพอดี คาดว่าจะเป็นเพื่อนกันกับรถเก๋งที่ขับไปก่อนหน้านี้ที่เกือบเฉี่ยวชน คาดว่าจะไปบอกกันแล้วเตรียมอาวุธปืนมาก่อเหตุ

จากนั้นรถจักรยานยนต์ก็ขับผ่านไป ลูกชายกับเพื่อนก็ขึ้นรถ ขับไปตามถนนหน้าเมือง เลี้ยวขวาถนนรื่นรมย์ มุ่งหน้าไปทางสถานีรถไฟ ก็มีรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ขับตามแล้วก็ถูกชายวัยรุ่นในรถเก๋ง กราดยิงใส่รถ ซึ่งตำรวจตรวจสอบนับได้จำนวน 7 นัด จากทางด้านหลังรถ โชคดีที่กระสุนไม่ถูกใคร และโชคดีที่ ลูกชายแขวนพระหลวงปู่ผาง รุ่นคอติ่งติดตัวตลอด เชื่อว่าทำให้ลูกชายและเพื่อนปลอดภัย

ในส่วนทางคดี ทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตำรวจทราบตัวคนร้ายหมดแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยาน หลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ จับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งโดยส่วนตัวก็อยากให้ตำรวจจับตัวได้เร็ว เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะก่อเหตุซ้ำขึ้นได้ ในส่วนลูกชายนั้น ถามแล้ว ไม่เคยรู้จักกับคู่กรณี และไม่คุ้นตากับรถยนต์คันที่คู่กรณีใช้ อีกทั้งพฤติการณ์ดังกล่าวยังเป็นการพยายามฆ่าอีกด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก. สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยถึงการสืบสวนหาตัวคู่กรณีที่ยิงหมอลำครั้งนี้ว่า ในเบื้องต้น ได้ทำการสอบสวนน้องเสือแล้ว ไม่เคยรู้จักกับคู่กรณีมาก่อน และไม่เคยมีเรื่องกับใคร ปกติ หากมีงานแสดงในจังหวัดขอนแก่น แสดงเสร็จก็จะกลับบ้านพักในอ.มัญจาคีรี ส่วนเหตุการณ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากน้องเสือกินโจ๊กเสร็จและกำลังขับรถกลับบ้าน แล้วก็มาถูกยิง จำนวน 7 นัด แต่น้องเสือและเพื่อนที่นั่งคู่มาที่เบาะหน้าข้างคนขับปลอดภัย มีเพียงกระจกด้านหลังแตก ท้ายรถและกันชนด้านหลังเป็นรูกระสุน และหลังคารถที่มีรูกระสุนและรอยกระสุนเบื้องต้นทราบว่ากระสุนที่คนร้ายใช้ยิงรถน้องเสือนั้นเป็นอาวุธปืนขนาด 9 มม. ในส่วนของการสืบสวนหาตัวคนร้ายนั้น

จากการตรวจสอบวงจรปิด พบว่า คนร้ายมีทั้งหมด 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 1 คน นั่งในรถเก๋งสีขาว 3 คน การสืบสวน ทราบว่า เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่เดินทางมาจากจังหวัดชัยภูมิ น่าจะมีการนัดปาร์ตี้ยากันในเมืองขอนแก่น แล้วมาก่อเหตุยิงน้องเสือ ซึ่งขณะนี้ทราบชื่อที่อยู่แล้ว 2 คน อีก 2 คน อยู่ระหว่างการสืบสวนว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน คาดว่าจะได้ตัวทั้งหมดเร็วๆนี้